ตอร์เรสไร้น้ำยา!หงส์บุกหักเขี้ยวสิงห์1-0

 ราอูล เมยเรเลส สวมบทฮีโร่ซัดประตูโทนพา หงส์แดง ลิเวอร์พูล บุกกระพือปีกเหนือ สิงห์โตน้ำเงินคราม เชลซี คารัง 1-0 เก็บสามแต้ม เป็นการชนะทั้งเหย้าและเยือนในฤดูกาลนี้ ขึ้นไปอยู่ที่ 6 ของตารางคะแนน ในศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ 6 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา


ฟุตบอลพรีเมียร์ ลีก อังกฤษ
วันอาทิตย์ที่ 6 กุมภาพันธ์ 2554
เชลซี 0 - 1 ลิเวอร์พูล



สนาม : สแตมฟอร์ด บริดจ์ 



     บิ๊กแม็ตช์ที่ สแตมฟอร์ด บริดจ์ เจ้าถิ่นไม่มีการกั๊ก เฟอร์นานโด ตอร์เรส ดาวยิงคนใหม่จากแฟนๆ ลิเวอร์พูล เลยโดยส่งประเดิมสนามในฐานะตัวจริงทันทีพร้อมกับ ดิดิเย่ร์ ดร็อกบา กับ นิโกล่าส์ อเนลก้า ส่วน ดาวิด หลุยซ์ เป็นสำรอง 

     ด้านทีมเยือน หงส์แดง ใส่ เจมี่ คาร์ราเกอร์ กองหลังเด็กปั้นเป็นตัวจริงเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เจ็บหัวไหล่ในเกมกับ สเปอร์ส เมื่อเดือนพฤศจิกายนในระบบกองหลังห้าตัว ขณะที่กัปตันทีม สตีเว่น เจอร์ราร์ด นำทัพ ส่วนกองหน้าคนใหม่ หลุยส์ ซัวเรซ เป็นแค่สำรอง    

     แฟนๆ ลิเวอร์พูล พร้อมใจกันส่งเสียงโห่เมื่อโฆษกสนามประกาศรายชื่อ ตอร์เรส ขณะที่กองเชียร์เจ้าถิ่นปรบมือ และเฮกลบ ขณะที่เจ้าตัวทักทายกับเพื่อนเก่าเป็นอย่างดีตอนอยู่ในอุโมงค์ 

     เปิดฉากไม่ถึงครึ่งนาที ผู้ตัดสิน มาร์ริเนอร์ แจกใบเหลืองแรกให้กับ จอห์น โอบี มิเกล ที่เสียบหนักใส่ เจอร์ราร์ด และ เชลซี ก็เกือบนำเร็วเมื่อ มักซี่ โรดริเกซ จ่ายพลาดให้ ตอร์เรส ควบเข้าไปส่องหน้ากรอบเขตโทษ แต่หลุดกรอบไป 

     เชลซี เป็นฝ่ายครองเกมได้มากกว่า โดยวาง อเนลก้า เป็นศูนย์หน้าตัวต่ำ นาทีที่ 16 เป็นโอกาสอีกครั้งของเจ้าบ้าน คราวนี้ ดร็อกบา กระชากแล้วสับไกหน้ากรอบเขตโทษแฉลบเพื่อนร่วมทีมอย่าง แฟร้งค์ แลมพาร์ด หลุดกรอบไป 

     ลิเวอร์พูล ตั้งรับลึก เข้าสู่นาทีที่ 22 เจ้าบ้านบุกขึ้นมาทางซ้าย แอชลี่ย์ โคล เติมแล้วเปิดเข้ากลางได้อันตรายทีเดียว ทว่าติด มาร์ติน สเคอร์เทล ที่เตะทิ้ง ก่อนดาวเตะสโลวักจะเจ็บจนต้องเข้ารับการปฐมพยาบาล และกลับมาเล่นต่อได้ 

     สิงโตน้ำเงินคราม ได้เสียวอีกครั้งจากจังหวะเตะมุมทางด้านขวาก่อนครึ่งชั่วโมง และ บรานิสลาฟ อิวาโนวิช ที่เคยทำแสบ โฉบมาโขกเช็ดที่เสาแรก แต่โดนบางเกินไปเลยหลุดเสาสองไป 

     ตอนครึ่งชั่วโมง ดร็อกบา แทงให้ ตอร์เรส ซัดตามน้ำในกรอบเขตโทษ แต่ คาร์ราเกอร์ ล้มตัวบล็อกไว้ได้หวุดหวิด ก่อนที่ หงส์แดง จะได้เสียวบ้างจากลูกส่องจาก 20 หลาของ ราอูล เมยเรเลส ทว่าตรงตัว ปีเตอร์ เช็ก 

     นาทีที่ 33 หงส์แดง พลาดขึ้นนำเหลือเชื่อเมื่อ เจอร์ราร์ด หลุดขึ้นไปในกรอบเขตโทษด้านซ้ายแล้วกึ่งยิงกึ่งผ่านเลยไปถึงเสาสองที่มี มักซี่ โรดริเกซ ยืนอยู่คนเดียวโล่งๆ แหย่เท้าจิ้มแค่สามหรือสี่หลา แต่โดนใต้บอลเลยปลิ้นลอยสูงไปชนคานเหลือเชื่อสุดๆ 

     เกมของ หงส์แดง ดีขึ้นเป็นลำดับ ขณะที่ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บครึ่งแรก เช็ก กับ อิวาโนวิช ไม่เข้าใจกันจนเกือบเสียประตู ก่อนที่ทั้งคู่จะโวยวายใส่กันจนเพื่อนร่วมทีมคนอื่นๆ ต้องเข้ามาปราม 

     ครึ่งหลังเป็น ลิเวอร์พูล ที่ได้ลุ้นประตูก่อนเมื่อ เดิร์ค เค้าท์ ไหลให้ จอห์นสัน ยิงไกลข้ามคาน ก่อนที่นาทีต่อมา เชลซี จะโต้ตอบทันควันเมื่อ ดร็อกบา ซัดเน้นๆ ในกรอบเขตโทษฝั่งซ้าย แต่ คาร์ราเกอร์ ยังตามบล็อกได้เยี่ยม 

     สิงโตน้ำเงินคราม เร่งเครื่องในครึ่งหลัง นาทีที่ 65 อเนลก้า รับบอลแล้วพลิกก่อนสับไกจากระยะกว่า 30 หลาพุ่งหลุดกรอบซ้ายมือตัวเองไป จากนั้น คาร์โล อันเชล็อตติ นายใหญ่ เชลซี ถอด ตอร์เรส ออกแล้วส่ง ซาโลมง กาลู ลงสนามแทน 

     เข้าสู่นาทีที่ 69 เสียงเชียร์แฟนๆ เชลซี เงียบกริบเมื่อ หงส์แดง เป็นฝ่ายออกนำก่อน 1-0 จากจังหวะที่ เจอร์ราร์ด พาบอลขึ้นทางขวาแล้วเปิดเลย ลูคัส ไปถึงเสาสองมี ราอูล เมยเรเลส กระโดดแปเบียดเสาตุงตาข่าย 

     หลังเสียประตู อันเชล็อตติ เปลี่ยนอีกคนโดยส่ง ฟลอร็องต์ มาลูด้า แทน มิเกล และ มาลูด้า ก็เกือบแผลงฤทธิ์เมื่อหลุดเข้าไปยิงมุมแคบเดือดร้อน เรน่า ต้องทุบออกมา 

     จากนั้น นาทีที่ 73 อันเชล็อตติ เปลี่ยนตัวคนสุดท้ายโดยส่ง ดาวิด หลุยซ์ กองหลังคนใหม่แทน โชเซ่ โบซิงวา ก่อนที่ เคนนี่ ดัลกลิช ของ ลิเวอร์พูล จะขยับบ้างโดยส่ง ฟาบิโอ ออเรลิโอ ลงแทน มักซี่ เพื่อเน้นเกมรับ 

     เชลซี โหมแหลกหมายทวงประตูคืนให้ได้ ขณะที่ หงส์แดง ถอยไปตั้งรับลึกแล้วรอสวนกลับจนเกือบได้ประตูเพิ่มในนาทีที่ 81 เมื่อ เค้าท์ ไหลออกซ้ายให้ ออเรลิโอ ล็อกหลบกองหลังก่อนสับไกด้วยขวา แต่ เช็ก ทุบออกมาได้ 

     ช่วงเวลาที่เหลือ แม้ สิงโตน้ำเงินคราม จะรุกหนักเต็มเหนี่ยว แต่ก็ไม่อาจฝ่าแนวรับของ หงส์แดง เข้าไปยิงประตูได้ จบเกม ลิเวอร์พูล บุกมาชนะ 1-0 แต้ม หงส์แดงมี 36 คะแนนทะยานขึ้นไปอยู่อันดับ 6 โดยห่างจ่าฝูงแมนฯยูถึง 16 แต้ม ด้าน เชลซี อยู่ที่4 เหมือนเดิมตามผีแดง 10 แต้ม



รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม


     เชลซี :
ปีเตอร์ เช็ก, โชเซ่ โบซิงวา, บรานิสลาฟ อิวาโนวิช, จอห์น เทอร์รี่, แอชลี่ย์ โคล, จอห์น โอบี มิเกล, ไมเคิ่ล เอสเซียง, แฟร้งค์ แลมพาร์ด, นิโกล่าส์ อเนลก้า, เฟร์นานโด ตอร์เรส, ดิดิเย่ร์ ดร็อกบา

     สำรอง : รอส เทิร์นบูลล์, ดาวิด หลุยซ์, ฟลอร็องต์ มาลูด้า, เปาโล แฟร์เรยร่า, ซาโลมง กาลู, จอช แม็คอีชแรน, จาโคโป ซาลา



     ลิเวอร์พูล :
โฆเซ่ เรน่า, มาร์ติน สเคอร์เทล, เจมี่ คาร์ราเกอร์, แดน แอ๊กเกอร์, มาร์ติน เคลลี่, ลูคัส เลวา, ราอูล เมยเรเลส, เกล็น จอห์นสัน, สตีเว่น เจอร์ราร์ด, มักซี่ โรดริเกซ, เดิร์ค เค้าท์

     สำรอง : ปีเตอร์ กูลัคซี่, ฟาบิโอ ออเรลิโอ, หลุยส์ ซัวเรซ, มิลาน โยวาโนวิช, โซติริออส คีร์เกียคอส, ดาวิด เอ็นก๊อก, คริสเตียน โพลเซ่น



     ผู้ตัดสิน :
อังเดร มาร์ริเนอร์

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์