คนที่ไป...อย่าได้แคร์

src=http://www.siamsport.co.th/_ImagesColumn/110201J5O61780.jpg



     ดูกร...ชาวหงส์ทั้งหลาย


 

อย่าเพิ่งตีอก ชกตัว เอาหัวโขกกำแพงด้วยความคับแค้นใจว่าลิเวอร์พูลยอมขาย เฟร์นานโด ตอร์เรส ทำไม หรือเหตุใดน้องตอร์แกจึงขอย้ายไปเอาดีที่อื่น...เลย
 

นอกจากจะต้องยอมรับในวิถีแห่งโลกลูกหนัง แม้ใครบางคนจะบอกว่าเคยเป็นแฟนหงส์มาตั้งแต่เล็ก และไม่น่าจะเคยมีใจให้เชลซีแต่อย่างใด ทว่าเมื่อเรื่องมันเป็นไปแบบนี้ เราก็มีแต่จะต้องติดตามตอนต่อไป
 

ที่จริงแล้ว การขอย้ายตัวเองออกจากถิ่นแอนฟิลด์ของน้องตอร์เข้าใจได้ไม่ยาก
 

ประมาณว่ากูดูแววแล้ว ลิเวอร์พูลคงกลับมาประสบความสำเร็จ เริงร่าในฐานะแชมป์ลีกสูงสุดอีกครั้งได้ลำบาก อย่างน้อยเมื่อเทียบกับเชลซี แม้ซีซั่นนี้เหล่าสิงห์บลูส์ควรจะต้องยอมโบกมือลาถ้วยแชมป์พรีเมียร์ ลีก (รักนะ จุ๊บๆ) ได้แล้ว
 

อย่ากระนั้นเลย กูขอตัดช่องน้อยแต่พอตัว ไปหาความเจริญที่อื่นดีฝ่า...
 

อารมณ์คงประมาณอีตอน ชาบี อลอนโซ่ ของขึ้น ยื่นโนติสขอขึ้นบัญชีขายตัวเองด้วยข้ออ้างไม่มั่นใจในอนาคต (ของตัวเองที่ลิเวอร์พูล หรือของลิเวอร์พูลเองก็ไม่แน่ใจ) เลยอยากจะไปเอาดีที่อื่น ซึ่งตอนนั้น เรอัล มาดริด เขาถลกผ้าถุงล่ออยู่
 

ว่าแล้วอลอนโซ่ก็ได้ไปตายเอาดาบหน้าสมใจ จนป่านนี้ ถ้วยแชมเปี้ยนส์ ลีก กับถ้วยแชมป์สเปนที่มันอยากได้นักหนา...ยังไม่ได้ชื่นชมเล้ยยย 55555!
 

กลับมาที่น้องตอร์อีกที (เรียก “น้อง” นี่ถือว่าปราณีสุดแล้วเพราะเห็นแก่ที่เคยทุ่มเทให้ทีม) การขอย้ายทีมด้วยตัวเองของซูเปอร์สตาร์ประจำทีมไหนซักตัว มิใช่เรื่องใหม่ในวงการ และการย้ายไปอยู่กับทีมใหญ่ในลีก เดิม (กรุณาอย่าใช้คำว่า “ทีมคู่แข่ง” เพราะชั่วโมงนี้ลิเวอร์พูลมิใช่คู่แข่งของเขา) ก็มิใช่เรื่องที่ไม่เคยเกิดขึ้นอีกเช่นกัน 
 

ปัญหาคาใจของชาวหงส์ถึงการขอไปเอาดีที่อื่นน่าจะอยู่ที่ทำไมมึง เอ้ย! น้องตอร์ถึงเพิ่งมาขอย้ายเอาตอนนี้
 

หรือเพิ่งจะรู้ตัวเมื่อวันพฤหัสฯ ว่าเขาไม่ควรอยู่ที่นี่ต่อไป จึงเพิ่งขออัปเปหิตัวเองจากแอนฟิลด์สถานในวันนั้น
 

ทำไมความรู้สึกช้าจังคะน้อง? ตลาดเปิดอ้าซ่ามาตั้งแต่หลังคริสต์มาสจนถึงวันนั้น มีเวลาตั้งเดือนเพิ่งคิดจะย้าย
 

จากวันที่เพิ่งขอย้ายถึงเส้นตายแห่งการย้ายทีม น้องตอร์มีเวลาให้ลิเวอร์พูลหาของมาแทนแค่สามสี่วัน
  

นอกจากเวลาจะน้อยเกินไปในการหาตัวแทนระดับน้องตอร์ ที่สโมสรอุตส่าห์ไปดึง หลุยส์ ซัวเรซ มาให้เป็นคู่ มันยังแปลว่าลิเวอร์พูลจะต้องซื้อของแพงโดยใช่เหตุในช่วงเวลาอันจุ๊ดจู๋ที่เหลืออยู่
 

จึงเป็นที่มาของการที่ แอนดี้ คาร์โรลล์ มีราคาค่าตัวแพงชิบระดับ ดาบิด บีย่า หรือ ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ และแพงกว่าน้องตอร์เองตอนถูกซื้อมาจากแอตเลติโก มาดริด เสียอีก
 

การย้ายตัวฉลองตรุษจีนของน้องตอร์จึงกลายเป็นเรื่อง (อาจ) ตัดสินใจถูก แต่ผิดจังหวะ หรือภาษาปะกิตคือ “ไทม์มิ่ง” ไม่เหมาะ
 

นอกจากปล่อยให้ลิเวอร์พูลต้องวิ่งแข่งกับเวลาแล้ว ยังทำให้เกรดของตัวเองตกลงมานี้ดส์นึง เนื่องจากช่วงเปิดตลาดหน้าหนาว สินค้าเกรด เอ เขาไม่เคลื่อนย้ายกัน
 

แต่เอาเถอะ! ไหนๆ สิงห์บลูส์ก็ตีหัวกองหน้าชาวหงส์เข้าบ้านไปแล้ว ในฐานะเดอะ ค็อป ตนหนึ่ง จึงต้องพยายามครวญเพลง Always Look on the Bright Side of Life เข้าไว้
     

พยายามเข้าใจน้องตอร์ที่อยากจะไปเอาดีที่อื่นเพราะอยู่กับลิเวอร์พูลแล้วไม่เห็นจะได้อะไร ซึ่งในเมื่อมึง เอ้ย! น้องอยู่แล้วทีมพี่ก็ไม่เคยได้อะไรขึ้นมา ก็ไปซะเถอะค่ะ
     

พูดสั้นๆ คือ “อย่าได้แคร์” (กรุณาทำท่ายักไหล่ประกอบ) หรือ “ช่างแม่มันค่ะ”
     

ที่ชาวหงส์ควรแคร์ในตอนนี้คือ หลุยส์ ซัวเรซ ซึ่งมีข่าวว่า “คิง เคนนี่” เขาหยิบเสื้อเบอร์ 7 ให้ใส่นั่นแล
     

จะใส่เบอร์ 7 ในบางทีมนี่ จิตต้องแข็งไม่พอ ร่างกายต้องแข็งแรงด้วยนะคะ ไม่งั้นซัวเรซอาจทำผลงานทาบ แฮร์รี่ คีวล์ หรือ ร็อบบี้ คีน นักเตะเบอร์ 7 สองคนหลังสุดของลิเวอร์พูลก็เป็นได้
 

คิดแล้วก็อยากจะถอนหายใจ ยังไม่ทันจะตั้งไข่ในสีเสื้อใหม่ ต้องหาทางทำลายมนต์ดำกันก่อนซะแระ
 

ถึงได้บอกไง ไอ้ที่ไปแล้วก็แล้วไป สู้ใส่ใจไอ้ที่มาใหม่ดีกว่า ยังไงๆ จะมีหรือไม่มีน้องตอร์ 2 ปีนี้ลิเวอร์พูลก็ไม่ได้แชมป์หรอกชิมิ!
 

และยังไงๆ ลูคัส ของชาวเราก็ยังอยู่ทั้งคน!!!


 
มาเฟียรี่


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์