ดร็อกพลาดโทษ!สิงห์เซ็งได้แค่เจ๊าไก่1-1

ดร็อกพลาดโทษ!สิงห์เซ็งได้แค่เจ๊าไก่1-1

 สิงห์บลูส์ เชลซี ชวดได้ประตูชัยช่วงท้ายเกม เมื่อ ดีดิเย่ร์ ดร็อกบา พลาดลูดจุดโทษสำคัญ ทำให้ทีมทำได้แค่เสมอ สเปอร์ส 1-1 ศึกฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อคืนที่ผ่านมา


ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ
สเปอร์ส 1 - 1 เชลซี



สนาม : ไวท์ ฮาร์ทเลน


 
     ศึกลอนดอนดาร์บี้ แม็ตช์ที่ไวท์ ฮาร์ทเลน สเปอร์สยังไม่มีราฟาเอล ฟาน เดอร์ ฟาร์ทที่บาดเจ็บ แต่ได้กัปตันทีมไมเคิ่ล ดอว์สันฟิตกลับมาลงเล่นเป็นเกมแรกในรอบเกินกว่าสามเดือนเสียบแทนวิลเลี่ยม กัลลาสที่เดี้ยงพอดี
 
     ส่วนเชลซีซึ่งก่อนเกมรูดลงไปอยู่อันดับสี่ของตารางใส่ชื่อดิดิเยร์ ดร็อกบาเป็นเพียงตัวสำรองร่วมกับแฟร้งค์ แลมพาร์ดซึ่งร้างสนามไปนานกว่าสามเดือนครึ่ง
 
     แม้จะเป็นทีมเยือน แต่เชลซีโชว์ความมั่นใจเดินเกมรุกใส่ก่อนทันที ขณะที่ทีมตราไก่เน้นดึงเกมช้าดูเชิงคู่แข่ง
 
     แต่แล้วในนาทีที่ 15 จากจังหวะได้ลุ้นหนแรก เจ้าบ้านก็เรียกเสียงกรี๊ดจากสาวกได้อย่างเร็วจี๋เมื่อเจอร์เมน เดโฟสปีดไปเก็บบอลโยนยาวทางกราบซ้ายแล้วจ่ายเข้าเขตโทษให้โรมัน พาฟลิวเชนโก้แตะหนีจอห์น เทอร์รี่ย้อนมาที่เสาแรกก่อนจะสับไกด้วยซ้ายจาก 16 หลาผ่านปีเตอร์ เช็กเข้าประตูอย่างเด็ดขาดพาไก่เมืองกรุงออกนำ 1-0
 
     สิงห์บลูส์พยายามรวบรวมสมาธิต่อเกมกันใหม่  กระทั่งนาทีที่ 23 ก็ได้เสียวจากรามิเรซที่พาบอลเจาะขึ้นทางขวาแล้วสาดเข้าหาปากประตู แต่ซาโลมง กาลูเข้าชาร์จระยะสี่หลาโด่งออกไป
 
     ถัดมาอีกสามนาที ทีมเยือนเกือบตีเสมอได้เมื่อนิโกล่าส์ อเนลก้าตักบอลจากริมเขตโทษด้านซ้ายเข้ามาหน้าประตู แต่กาลูยังทำเสียของโขกไปให้เอเรลโญ่ โกเมซกระโดดคว้าได้
 
     ขยับมาถึงนาทีที่ 31 สเปอร์สได้ลูกฟรีคิกทางกราบซ้ายหลังเปาโล แฟร์ไรร่าปะทะแกเร็ธ เบลล้ม เบลจึงลุกขึ้นมาวางบอลเข้าเสาไกล แต่พาฟลิวเชนโก้โฉบเข้าซัลโวด้วยหัวเกือกออกนอกกรอบ
 
     เชลซีพยายามกดดันเจ้าบ้านอย่างต่อเนื่อง และนาทีที่ 35 เบอนัวต์ อัสซู เอก็อตโต้ก็โดนจดชื่อจากการทำฟาวล์แฟร์ไรร่าทางกราบขวา ฟลอร็องต์ มาลูด้าจึงโยนลูกฟรีคิกเข้าไปลุ้นเขตโทษ แต่กาลูโขกจาก 12 หลาสะบัดหลุดเสาไกลไปอีก
 
     ท้ายครึ่งแรก อาคันตุกะเก็บครองบอลทำเกมรุกได้อย่างชัดเจนมากขึ้นทุกที และนาทีที่ 43 เบลก็ทำบอลหลุดเท้า แฟร์ไรร่าจึงเก็บไปป้ายคืนให้รามิเรซตักจากกราบขวาเข้าเขตโทษให้อเนลก้าเข้า ฮอสหกหลาสบายแฮ แต่ไม่เป็นประตูเนื่องจากกองหน้าชาวฝรั่งเศสล้ำหน้าอยู่ ครบ 45 นาทีแรกทีมตราไก่จึงนำไปก่อน 1-0
 
     ครึ่งหลังเชลซีส่งดร็อกบาลงบู๊ทันทีโดยถอดจอห์น โอบี มิเกลออก แต่เป็นสเปอร์สที่ได้ลุ้นก่อนในนาทีที่ 47 จากการขึ้นเกมทางขวาโดยลูก้า โมดริชจ่ายบอลให้อาร่อน เลนน่อนไหลมาหน้าเขตโทษอีกที ก่อนที่เดโฟจะกระทุ้งจาก 20 หลาเฉี่ยวออกไป
 
     ทีมเยือนยังไม่เสียขวัญ เน้นครองบอลต่อ และดร็อกบาได้สับไกจากระยะ 28 หลาในนาทีที่ 55 ทว่าโกเมซทะยานไปปัดพ้นกรอบได้
 
     นาทีต่อมา เชลซีหวิดทวงคืนได้อีกหนเมื่อมาลูด้าสาดบอลจากฝั่งขวาเข้าเขตโทษแล้ววิลสัน ปาลาซิออสโหม่งสกัดผิดเหลี่ยมหลุดเข้าไปหน้าประตูตัวเอง ดีที่ว่าโกเมซยังปัดพ้นคานได้ทัน
 
     จากนั้นในนาทีที่ 60 เจ้าถิ่นก็เปลี่ยนปีเตอร์ เคราช์ลงไปแทนเดโฟ และยังเล่นเกมรับได้อย่างเหนียวแน่น แทบไม่เปิดช่องให้แชมป์เก่าได้คลำเป้าเลย
 
     ผ่านมาอีกแปดนาที สิงโตน้ำเงินครามก็ถอดกาลูออกให้ดาเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ลงสนามหมายสอยตาข่ายให้ได้ และในที่สุดนาทีที่ 70 แฟนไก่ก็ต้องหงอยเมื่อเชลซีโยนบอลยาวจากแดนตัวเองขึ้นมาแล้วดอว์สันเบียดกับ ดร็อกบาไม่ดีพอ ปล่อยให้บอลกระดอนเข้าเขตโทษจึงเปิดโอกาสให้กองหน้าผิวสีได้ตะบันเต็มเกือก จาก 15 หลา แม้โกเมซจะปัดได้ แต่ด้วยความแรงบอลยังปลิ้นเข้าปะทะตาข่ายเป็นประตูตีเสมอ 1-1 ของทีมเยือน
 
     ถึงตรงนี้ สิงห์บลูส์มองหาประตูชัยแล้ว แต่นาทีที่ 74 ไมเคิ่ล เอสเซียงไปเสียบโมดริชจนกองกลางร่างจิ๋วร้องจ๊ากจึงรับใบเหลือง ก่อนที่อาคันตุกะจะเปลี่ยนแลมพาร์ดลงไปแทนมาลูด้าอีกรายในนาทีที่ 78 ขณะที่ไก่เดือยทองใช้งานร็อบบี้ คีนแทนพาฟลิวเชนโก้
 
     ช่วงทดเวลาบาดเจ็บ เชลซี มาได้ลูกจุดโทษ เมื่อ เอเรลโญ่ โกเมซ ไปทำฟาล์ว รามิเรส  ดร็อกบา รับหน้าที่สังหาร แต่ยิงไปติดเซฟของ โกเมซ ทำให้ทีมชวดได้ประตูอย่างน่าเสียดาย หมดเวลาทั้งคู่จึงเสมอกันไป 1-1
 

     รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
     สเปอร์ส :
เอเรลโญ่ โกเมส, อลัน ฮัตตัน, ไมเคิ่ล ดอว์สัน, เซบาสเตียง บาสซง, เบอนัวต์ อัสซู-เอก็อตโต้, อารอน เลนน่อน, วิลสัน ปาลาซิออส, ลูก้า โมดริช, แกเร็ธ เบล, เจอร์เมน เดโฟ, โรมัน พาฟลิวเชนโก้

     สำรอง :
คาร์โล คูดิชินี่, เวดราน ชอร์ลูก้า, ซานโดร, เดวิด เบนท์ลี่ย์, โจวานี่ ดอส ซานโต๊ส, ร็อบบี้ คีน, ปีเตอร์ เคร้าช์
 
     เชลซี :
ปีเตอร์ เช็ก, เปาโล แฟร์ไรร่า, บรานิสลาฟ อิวาโนวิช, จอห์น เทอร์รี่, แอชลี่ย์ โคล, รามิเรส, จอห์น โอบี มิเกล, ไมเคิ่ล เอสเซียง, ฟลอร็องต์ มาลูด้า, ซาโลมง กาลู, นิโกล่าส์ อเนลก้า

     สำรอง :
รอสส์ เทิร์นบุลล์, แพทริค ฟาน อานโฮล์ท, เจฟฟรี่ย์ บรูม่า, โจชัว แม็คอีแครน, แฟร้งค์ แลมพาร์ด, ดาเนี่ยล สเตอร์ริดจ์, ดีดิเย่ร์ ดร็อกบา
 

     ผู้ตัดสิน :
ไมค์ ดีน




สรุปผลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ
- โบลตัน ชนะ แบล็คเบิร์น 2-1
- วูล์ฟแฮมป์ตัน ชนะ เบอร์มิงแฮม 1-0
- สเปอร์ส เสมอ เชลซี 1-1


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์