ภาพสะท้อนของความคิดที่มีต่อ เสี่ยหมี

ภาพสะท้อนของความคิดที่มีต่อ เสี่ยหมี


...ห่างหายไปซักระยะหนึ่งแล้วกับการเขียนคอลัมน์ เพราะตั้งใจใว้ว่าจะเขียนก็ต่อเมื่อ คอลัมน์ นิส ประจำบอร์ดติดภาระกิจหรือไม่มีเวลาว่างมาเขียน ผมถึงจะมาคอยสอดแทรกให้ อันที่จริงช่วงนี้ผมก็ไม่ค่อยได้เปิดคอมซักเท่าไหร่บวกกับงานที่ช่วงนี้ชั่งแสนจะ ยุ้งซะเหลือเกิน

arsenal
วันนี้มีเวลาว่างเลยกะจะเข้ามาอัพเดทข่าวสารเกี่ยวกับสโมสรซักหน่อย พอเข้ามาก็มาเจอข่าวที่ค่อนข้างจะช็อกและขัดกับความรู้สึกอยู่เหมือนกันนั่น ก็คือ ข่าวการปลด เรย์ วิลกิ้นส์ มือขวาของ อันเช นั่นเอง

ผมเลยตัดสินใจเดินฝ่า ดงทีน พูดถึง เสี่ยหมี ที่รักและเคารพของเราทุกคน ในอีกด้านของความรู้สึกสักหน่อยก็แล้วกัน ถึงแม้ว่าวันนี้ผมจะโดนทีนจนเลือดสาดแต่เลือดที่สาดออกมาก็เป็นสีน้ำเงิน สีเดียวกับพวกท่านนั่นแหละ


เป็นที่ยอมรับโดยทั่วกันว่าตั้งแต่ โรมัน อบราโมวิช ก้าวเข้ามาโอบอุ้ม สิงโตน้ำเงินคราม ในปี 2003 นั้นถือว่าเป็นการก้าวเข้ามาเปลี่ยนแปลงทีม เชลซี อย่างแท้จริง โรมัน อบราโมวิช ได้เปลี่ยนแปลงสโมสรดังในลีคเมืองผู้ดี และไม่เคยมีเกียรติประวัติประดับบารมีมากนัก ให้กลายเป็น มหาอำนาจลูกหนังระดับหัวแถวของโลก ที่มีสิทธิ์ลุ้นถ้วยแชมป์ทุกรายการที่ลงแข่งขัน จะว่าไปแล้วก็คงเหลือแต่ถ้วย ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก กระมั้งที่ เชลซี ยังไม่เคยได้มาเชยชม

ในปีแรกทีมของ อบราโมวิช ได้ “มิสเตอร์ทิงเคอร์แมน” เคลาดิโอ รานิเอรี่ เทรนเนอร์ชาวอิตาเลี่ยนเป็นคนทำทีม เค้าสามารถพาทีมไปถึงรอบตัดเชือกเข้าไปเจอกับ โมนาโก ในนัดแรกนั้น เชลซี แพ้ไปก่อน 3-1 นัดที่สองกลับมาเล่นในบ้านทีมสามารถทำผลงานได้ดีในครึ่งแรกนำไปก่อน 2-0 แต่ครึ่งหลังกลับมาโดน โมนาโก ยิงคืนสองประตูรวดทำให้ เชลซี อกหักในถ้วยใบนี้ พร้อมกับการตกงานของ รานิเอรี่

หลังจากนั้นในปีที่ 2 เสี่ยหมี แสดงเจตนารมอย่างชัดเจนว่าต้องการที่จะได้ ถ้วยพรีเมียร์ลีก และถ้วยแชมเปี้ยนส์ลีก มาตั้งโชว์ที่ “เดอะ บริด” ให้จงได้

โรมัน อบราโมวิช เริ่มต้นลงทุนอย่างบ้าคลั่งโดยการผลานเงิน คว้านักเตะชั้นดีอย่าง ปีเตอร์ เช็ก, ดีดิเย่ร์ ดร็อกบา พร้อมกับสองนักเตะแชมป์ยุโรปในปี 2004 ของทีม ปอร์โต้ อย่าง เปาโล แฟร์ราร่า และ ริคาร์โด้ คาร์วัลโญ่ ไม่เพียงแค่นั้นเค้ายังได้ผู้จัดการทีมคนใหม่ที่มาแทนที่ของ รานิเอรี่ นั่นก็คือ “เดอะ สเป....ล วัน” โชเซ่ มูรินโญ่ เค้าสามารถพาทีม เชลซี เขียนประวัติศาสตร์บนผืนผ้าใบลูกหนังได้อย่างมากมายจนกลายเป็นหนึ่งในตำนานของสโมสรไปโดยปริยาย

แต่กระนั้น ต่อให้เป็น โชเซ่ มูรินโญ่ ที่ว่าแน่ๆก็ยังอยู่ไม่ได้เพราะปัญหาการขัดแย้งกับ โรมัน อบราโมวิช เจ้าของทีมชาวรัสเซีย

ที่ผ่านมานั้น อบราโมวิช ได้ใช้ผู้จัดการทีมได้เปลืองอย่างมาก ไม่ว่าผู้จัดการคนไหนจะพาทีมประสบความสำเร็จมากน้อยแค่ไหนก็ตามนั้นไม่ได้เป็นเครื่องการันตีว่าเค้าผู้นั้นจะได้อยู่ในตำแหน่งต่อไป แต่หากว่ากฎเหล็กของการเป็นผู้จัดการทีม เชลซี นั้นน่าจะอยู่ตรงที่การอยู่แบบไม่ขัดใจและตอบสนองความต้องการทุกๆอย่างของ เสี่ยหมี เสียมากกว่า

สำหรับแฟน เชลซี เองต่างก็คงรู้กันดีว่ามีอยู่หลายๆครั้งหลายๆเหตุการณ์ที่การบริหารทีมนั้นขัดต่อความรู้สึกของแฟนบอลอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นการปลดผู้จัดการทีมจากความขัดแย้งส่วนตัว ปลดเพราะปัญหาความไม่พอใจ หรือไม่ได้ดั่งใจนั่นแหละ

อย่างกรณีล่าสุด การปลด เรย์ วิลกิ้นส์ ออกจากตำแหน่งผู้ช่วยผู้จัดการทีม เรย์ วิลกิ้นส์ นั้นถือว่าเป็นคนหนึ่งที่อยู่กับสโมสรมาอย่างยาวนานarsenalถึงแม้จะไม่ตลอดก็ตามและก็มีความดีความชอบมากมายแถมยังเป็นที่ชื่นชอบของนักเตะและแฟนบอล เชลซี อีกต่างหากแทบจะไม่มีเหตุผลในการปลดออกตำแหน่งเลยด้วยซ้ำ จากที่ได้ติดตามข่าวมาเหตุผลที่ปลดก็น่าจะมีอยู่หลักๆ ข้อสองข้อ เช่น เรย์ วิลกิ้นส์ เริ่มไม่เป็นที่ถูกใจของ อบราโมวิช หลังเสนอแนะให้ซื้อนักเตะที่เค้าไม่เห็นด้วย และต้องการลดอํานาจของวิลกิ้นส์ที่มีในแคมป์ฝึกซ้อมเชลซี


ครั้งแล้วครั้งเล่า ที่บุคคลที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับทีม เชลซี อย่างเช่น คาร์โล อันเชล็อตติ จอร์น เทอร์รี่ ออกมาพูดกับสื่อว่าความต้องการสูงสุดของเจ้าของทีมอย่าง โรมัน อบราโมวิช นั้นคือ ถ้วย ยูฟ่า แชมป์เปี้ยนส์ลีก นั่นก็คงเป็นเพราะว่าเป็นถ้วยแชมป์ใบเดียวที่ เชลซี ยังไม่เคยสัมผัส

หลายครั้งที่บุคคลเหล่านี้ออกมาพูดกับสื่อในลักษณะแบบเดียวกัน ทำให้ผมอดคิดไม่ได้ว่า ความต้องการของ โรมัน อบราโมวิช เป็นความต้องการเพื่อตอบสนองความต้องการของตัวเองหรืออยากให้สโมสรประสบความสำเร็จกันแน่ ผมก็ได้แต่ภาวะนาว่าของให้เป็นเหมือนอย่างหลังมากกว่า

ไม่อยากคิดเลยว่าถ้าความต้องการ ถ้วยแชมป์เปี้ยนส์ลีก ของ โรมัน อบราโมวิช นั้นเป็นความต้องการเพื่อตอบสนองความต้องการของตัวเองเหมือนซื้อ เกาะ เครื่องบิน เรือยอร์ช ถ้าถึงเวลานั้นในขณะที่แฟนบอลของ “สิงโตน้ำเงินคราม เชลซี “ กำลังหลงระเริงในความสำเร็จ ในความคิดของ เสี่ยหมี คงกำลังคิดว่า...ถึงเวลาเอาคืนจาก เม็ดเงินที่ลงทุนแล้วหล่ะ...


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์