สิงห์กลางรั่ว บุกแมวดำ !!!


                             ........................

          ##สิงห์กลางยุบ!ไร้เอสเซียง-แลมพ์บู๊แมวดำ

                             .........................

##
สิงห์บลู เชลซี จะไม่มี ไมเคิ่ล เอสเซียง กองกลางจอมบู๊ที่ติดโทษแบน ในเกมที่จะเปิดบ้านรับการมาเยือนของ ซันเดอร์แลนด์ ศึกฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ คืนนี้ 

ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ
วันอาทิตย์ที่ 14 พฤศจิกายน 2553
เชลซี - ซันเดอร์แลนด์

สนาม : สแตมฟอร์ด บริดจ์

คาร์โล อันเชล็อตติ กุนซือ สิงโตน้ำเงินคราม ต้องเจอปัญหาในแดนกลาง ไมเคิ่ล เอสเซียง ฮีโที่ยิงประตูชัยเฉือน ฟูแล่ม 1-0 ในนัดล่าสุดเมื่อวันพุธที่ผ่านมา โดนใบแดงในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ ทำให้ต้องเริ่มต้นติดโทษแบน 3 นัดตั้งแต่เกมนี้

ปัญหาแดนกลางอีกอย่าง แฟร้งค์ แลมพาร์ด กองกลางคนสำคัญ ที่ใช้เวลาเรียกความฟิตอยู่นาน 2 เดือนหลังการผ่าตัดโคนขาหนีบ ล่าสุดบาดเจ็บที่กล้ามเนื้อระหว่างซ้อมเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ทำให้ต้องหยุดพักไปอีก 2-3 สัปดาห์ ทั้งที่คาดหมายว่าอาจจะฟิตสมบูรณ์ในเกมวันอาทิตย์นี้

แนวรับยังไม่มี อเล็กซ์ ปราการหลังบราซิล ที่พลาดเกมกับ ฟูแล่ม เพราะเจ็บเข่า พลาดลงเล่นต่อ ขณะที่ นิโกล่าส์ อเนลก้า กองหน้าฝรั่งเศส ที่พลาดเกมเดียวกันเพราะบาดเจ็บบริเวณหลัง ฟิตกลับคืนทีมได้ไม่มีปัญหา

ระบบการเล่น 4-3-3 ปีเตอร์ เช็ก ลงเฝ้าเสา แนวรับใช้ โชเซ่ โบซิงวา, บรานิสลาฟ อิวาโนวิช, จอห์น เทอร์รี่, แอชลี่ย์ โคล แดนกลางมี รามิเรส, จอห์น โอบี มิเกล, ยูริ เซียร์คอฟ สามประสานแดนหน้ากลับมาใช้ นิโกล่าส์ อเนลก้า, ฟลอร็องต์ มาลูด้า, ดีดิเย่ร์ ดร็อกบา

ด้าน สตีฟ บรูซ กุนซือ แมวดำ ยังเจอปัญหาเดิมๆ คืออาการบาดเจ็บเอ็นหลังหัวเข่าของ ดาร์เรน เบนท์ ศูนย์หน้าดาวซัลโวของทีม อย่างไรก็ตาม บรูซ หวังว่านักเตะคนสำคัญจะฟิตกลับมาทันเกมเจอกับ เอฟเวอร์ตัน สัปดาห์หน้า

อย่างไรก็ตาม ปัญหาดังกล่าวก็หมดไป เพราะ อซาโมอาห์ กียาน กองหน้าค่าตัวแพงเป็นสถิติใหม่ของสโมสร ซัลโวประตูมาอย่างต่อเนื่อง ช่วยทีมเซฟแต้มในเกมล่าสุดที่บุกเสมอ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ 1-1 เมื่อวันอังคารที่ผ่านมาด้วย

แนวรับ จอห์น เมนซาห์ มีปัญหาที่หัวไหล่ พลาดเกมนี้แน่นอน ขณะที่ แอนทอน เฟอร์ดินานด์ ที่ลงเล่นเป็นแบ็กซ้ายในนัดที่แล้ว ก็มีปัญหาบาดเจ็บเอ็นหลังหัวเข่าตั้งแต่ต้นเกม ต้องให้ ฟิล บาร์ดสลี่ย์ ลงแทนเช่นเดียวกับเกมนี้ หรือไม่อาจขยับ คีแรน ริชาร์ดสัน ไปยืนแบ็กซ้าย แล้วส่ง สตีด มัลบร็องก์ กลับมาเป็นตัวจริง

ระบบการเล่น 4-4-2 เคร็ก กอร์ดอน ลงเฝ้าเสา แผงหลังใช้ เนดุม โอนูโอฮา, ไมเคิ่ล เทอร์เนอร์,ไตตัส บรัมเบิ้ล, คีแรน ริชาร์ดสัน แดนกลางมี อาห์เหม็ด เอลโมฮามาดี้, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, ลี แคตเทอร์โมล, สตีด มัลบร็องก์ คู่หน้า แดนนี่ เวลเบ็ค ยืนคู่ อซาโมอาห์ กียาน

รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม 

เชลซี : ปีเตอร์ เช็ก - โชเซ่ โบซิงวา, บรานิสลาฟ อิวาโนวิช, จอห์น เทอร์รี่, แอชลี่ย์ โคล - รามิเรส, จอห์น โอบี มิเกล, ยูริ เซียร์คอฟ - นิโกล่าส์ อเนลก้า, ฟลอร็องต์ มาลูด้า, ดีดิเย่ร์ ดร็อกบา

ซันเดอร์แลนด์ : เคร็ก กอร์ดอน - เนดุม โอนูโอฮา, ไมเคิ่ล เทอร์เนอร์,ไตตัส บรัมเบิ้ล, คีแรน ริชาร์ดสัน - อาห์เหม็ด เอลโมฮามาดี้, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, ลี แคตเทอร์โมล, สตีด มัลบร็องก์ - แดนนี่ เวลเบ็ค, อซาโมอาห์ กียาน

ผู้ตัดสิน : คริส ฟอย

สิงห์ผูกขาดชนะแมวดำ 11 นัดติด

เชลซี ผูกขาดเอาชนะ ซันเดอร์แลนด์ มาได้ติดต่อกัน 11 นัดแล้ว ซึ่งเป็นเกมพรีเมียร์ลีกทั้งหมด โดยเฉพาะเกมล่าสุดที่ สแตมฟอร์ด บริดจ์ เมื่อฤดูกาลที่แล้ว สิงโตน้ำเงินคราม เปิดบ้านไล่ถล่มถึง 7-2 เมื่อช่วงต้นปีนี้

ครั้งสุดท้ายที่ แมวดำ เอาชนะ สิงโตน้ำเงินคราม เกิดขึ้นในฤดูกาล 2000-01 เป็นเกมที่ สแตมฟอร์ด บริดจ์ ดอน ฮัตชิสัน ยิงสองประตู และ เกวิน แม็คแคน กับ เควิน ฟิลลิปส์ บวกอีกคนละลูกในเกมที่ ซันเดอร์แลนด์ บุกถล่ม 4-2

ฤดูกาลที่แล้ว สิงห์บลูส์ เริ่มต้นด้วยการบุกไปชนะ แมวดำ ที่ สเตเดี้ยม ออฟ ไลท์ ก่อน 3-1 ดาร์เรน เบนท์ ยิงก่อน แต่โดน มิชาเอล บัลลัค, แฟร้งค์ แลมพาร์ด และ เดโก้ ยิงแซงสามลูกรวด

ส่วนอีกนัดที่ สแตมฟอร์ด บริดจ์ เชลซี ไล่ถลุงมันเท้า 7-2 นิโกล่าส์ อเนลก้า กับ แลมพาร์ด ยิงสองประตู ที่เหลือได้จาก ฟลอร็องต์ มาลูด้า, แอชลี่ย์ โคล และ บัลลัค ส่วน แมวดำ ได้จาก โบโล่ เซนเด้น กับ เบนท์

                   ........................



....................

รอยกล้าพูด!ไม่ควรเทียบผลงานเกมสิงห์กับสโต๊ค
 


รอย ฮ็อดจ์สัน กุนซือ ลิเวอร์พูล ยังหาข้อแก้ตัวไม่เลิก บอกห้ามเปรียบเทียบแนวทางการเล่นของ เชลซี กับ สโต๊ค ซิตี้ หลังพวกเขาเพิ่งทำงามหน้า แพ้ ช่างปั้นหม้อ 0-2 เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ชี้โดนเล่นงานด้วยลูกทุ่มไกล กับการโยนยาว จนแข้ง หงส์แดง เป๋ไปเป๋มา และสุดท้ายก็แพ้ในที่สุด 

รอย ฮ็อดจ์สัน ผู้จัดการทีม หงส์แดง ลิเวอร์พูล สโมสรยักษ์หลับแห่งศึกพรีเมียร์ลีก ออกมาเผยว่า ไม่ควรเปรียบเทียบสไตล์การเล่นของ เชลซี กับ สโต๊ค ซิตี้ หลังเกมล่าสุด พวกเขาเพิ่งโดน ช่างปั้นหม้อ ทุบ 0-2 เมื่อวันเสาร์ที่ 13 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา

ลิเวอร์พูล เพิ่งทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม ในเกมชนะ เชลซี เมื่อสุดสัปดาห์ที่แล้ว และคว้าชัยชนะ 3 เกมรวด แต่สุดท้ายต้องฟอร์มสะดุด ในแมตช์เสมอ วีแกน แอธเลติก ล่าสุดยังทำผลงานหลุดโลก เมื่อแพ้ สโต๊ค แบบหมดรูป โดย ฮ็อดจ์สัน กล่าวว่า เชลซี กับ สโต๊ค เป็น 2 ทีมที่แตกต่างกันมาก วันนี้เราต้องป้องกันลูกทุ่มไกล และการโยนบอลยาวที่โจมตีใส่แนวรับของเรา ไม่ว่าจะเป็นลูกเตะมุม และบอลก็พุ่งเข้าเขตโทษของเราตลอด

ในเกมกับ เชลซี ซึ่งเป็นทีมที่ผ่านบอลไปทั่วสนาม และคุณต้องควบคุมพวกเขาให้ได้ ผมไม่คิดว่า คุณจะสามารถเปรียบเทียบการสู้ของ เชลซี กับ สโต๊ค ได้หรอก ทุกๆ ทีมที่มาเยือนที่นี่ก็รู้ว่ามันเป็นเกมที่พิเศษ สิ่งที่คุณต้องทำก็คือ พยายามป้องกันให้แข็งแกร่งเหมือนกับที่เราทำในครึ่งแรก และไม่เสียประตู รวมทั้งทำอะไรมากกว่าที่ผมคิดว่าเราสามารถทำได้ในเกมรุก

ตอนที่เราเสียประตูที่สอง ผมรู้ว่า มันต้องเสี่ยง และให้เซนเตอร์ฮาล์ฟขึ้นมาเล่นเป็นกองหน้าตัวเป้า ประตูแรกเป็นอีกครั้งที่เราโดนเล่นงานด้วยลูกทุ่มไกล ซึ่งก่อนหน้านี้เราก็ป้องกันได้ดีอย่างที่เราสามารถทำได้ แต่โชคร้ายหลังจากเสียประตูแรก คุณต้องทำเรื่องที่เสี่ยงพอสมควร และใส่แนวรุกเพิ่มเข้าไป ซึ่งนั่นเกือบทำให้เรากลับมาสู่เกม โชคร้ายที่มันไม่เกิดขึ้น เราต้องยอมรับความพ่ายแพ้

นอกจากนี้ อดีตกุนซือ ฟูแล่ม เผยเหตุผลที่ทีมของเขาไม่สามารถกลับมาสู่เกมได้ หลังจากที่ เฟร์นานโด ตอร์เรส มีปัญหาบาดเจ็บ แม้นักเตะจะฝืนร่างกายอยู่ในสนามต่อไปจนจบเกม แต่ก็ทำอะไรไม่เป็นชิ้นเป็นอัน โดย ฮ็อดจ์สัน หวังว่า เอล นินโญ่ จะฟิตทันลงเล่นในแมตช์ต่อไป พบ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด วันเสาร์ที่ 20 พ.ย.นี้

ผมไม่รู้ว่า อาการบาดเจ็บของ ตอร์เรส จะส่งผลกระทบต่อฟอร์มของเขาในครึ่งหลังหรือเปล่า บางทีมันอาจเป็นไปได้ เขาโดนเตะที่ข้อเท้า และก็มีอาการบิดนิดหน่อย แต่เรามีเวลาทั้งสัปดาห์ ซึ่งหวังเป็นอย่างยิ่งว่า เขาจะฟิตสมบูรณ์ กุนซือประสบการณ์สูง กล่าวทิ้งท้าย

.............................
www.teenee.com


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์