เชว่า ว่าที่ตำนาน ~

เชว่า ว่าที่ตำนาน

เชื่อว่าหลายคนน่าจะรู้จักและยังจำกันได้กับเพชฌฆาตลูกหนังนามว่า อังเดร เชฟเชนโก้ ได้ประกาศอำลาแขวนสตั๊ดล่วงหน้าหลังเสร็จศึกยูโร 2012 รอบสุดท้ายที่ประเทศของตัวเองเป็นเจ้าภาพ

คิดไปก็น่าใจหายอยู่เหมือนกันสำหรับ เชว่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งใครที่เป็นกองเชียร์ทีมเอซี มิลานต่างยกย่องให้เขาคือฮีโร่ช่วย ปีศาจแดงดำ คว้าแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เมื่อปี 2003

แต่คนเราเมื่อขึ้นไปอยู่จุดสูงสุดย่อมลงมาต่ำ ชีวิตของกองหน้าวัย 34 กะรัตต้องพลิกผันเมื่อตัดสินใจย้ายข้ามฟากจาก มิลาน สู่เมืองผู้ดีรับใช้ เชลซี ถือเป็นย่างก้าวเดินที่ผิดพลาดจนกู่ไม่กลับถึงปัจจุบัน

อย่างไรก็ตามตลอดระยะเวลาค้าแข้งตั้งแต่ยังเป็นเยาวชนปี 1986 ถึงทุกวันนี้ เชว่า ได้รังสรรค์สิ่งดีๆต่างๆมากมาย เราเลยถือโอกาสย้อนความทรงจำไปด้วยกัน


*แจ้งเกิด
ปี 1986 เด็กเล็กๆวัยเพียง 10 ขวบเท่านั้นนามว่า อังเดร เชฟเชนโก้ ฉายแววความเป็นดาวยิงระดับโลกได้ถือกำเนิดลงเล่นให้ทีมดินาโม เคียฟชุดเยาวชน ด้วยฝีเท้าจัดจ้านทำให้เขาก้าวกระโดดขึ้นไปเล่นกับรุ่นพี่รุ่นอายุ 14 ปี


*สร้างชื่อกับเคียฟ
เพื่อนเรียกสั้นๆว่า เชว่า พัฒนาฝีเท้าไม่หยุดยั้งจนก้าวขึ้นเป็นตัวหลักประจำทีมดินาโม เคียฟ ถูกสื่อท้องถิ่นขนานนามให้เป็น เครื่องจักรพังประตู โดยเฉพาะเกมที่กล่าวถึงมากที่สุดการซัลโวแฮททริคในครึ่งแรกเพียงครึ่งเดียว แต่ที่น่าทึ่งกว่านั้นสโมสรที่ตกเป็นเหยื่อก็คือ บาร์เซโลนา โคตรทีมแห่งลา ลีกา สเปน ก่อนถล่มยับ 4-0 ในรอบแบ่งกลุ่มฤดูกาล 1997-1998


*จากดินสู่ดาวก้าวเป็นซูเปอร์สตาร์
ฤดูกาลถัดมาความเก่งกาจของ เชว่า ถูกทีมที่ดีที่สุดในยุคนั้นก็คือ เอซี มิลาน ซื้อตัวมาล่าตาข่ายในซาน ซิโร่ แม้กัลโช่ เซรี่ อา ถือเป็นลีกที่ได้รับการยกย่องว่าหินที่สุดในโลกมีเกมรับเหนียวแน่นแต่เพียงแค่ปีแรก เชฟเชนโก้ ซัลโวกระจาย 24 ประตูใน 32 เกมพร้อมสร้างประวัติศาสตร์กลายเป็นแข้งต่างชาติคนแรกที่ได้แชมป์สคูเด็ตโต้ในปีแรก

ปี 2003 ถือเป็นปีทองของ เชฟเชนโก้ กลายเป็นซูเปอร์ฮีโร่เป็นคนซัลโวจุดโทษผ่านมือสุดยอดนายทวารมือหนึ่งของโลก จานลุยจิ บุฟฟ่อน กลายเป็นประตูตัดสินชัยชนะให้ มิลาน คว้าแชมป์ยุโรปมาครองอย่างยิ่งใหญ่ ก่อนที่หอกยูเครนคว้ารางวัล บัลลง ดอร์ ตอบแทนความดีความชอบ


*ดำดิ่งหกคะเมนตีลังกา
หลังมีส่วนร่วมในความสำเร็จกวาดแชมป์ภายในประเทศและนอกประเทศรวมถึง บัลลง ดอร์ เชฟเชนโก้ ถึงจุดอิ่มตัวอยากลิ้มลองความท้าทายใหม่ๆดูบ้าง สืบด้วยสายสัมพันธ์แน่นสนิทกับ โรมัน อบราโมวิช เจ้าของทีมเชลซีทำให้เขาตอบตกลงโยกมาเล่นในถิ่นสแตมฟอร์ด บริดจ์ เมื่อปี 2006 สวมเสื้อหมายเลข 7 แถมมีสุดยอดกุนซือ โจเซ่ มูรินโญ่

แต่น่าเสียดาย เชว่า ไม่สามารถปรับตัวเข้ากับพรีเมียร์ลีกซึ่งมีสไตล์การเล่นที่แตกต่าง เน้นใช้พละกำลังเข้าปะทะ อดีตดาวดังเคียฟกระเด็นตกไปอยู่ม้านั่งสำรองก่อนถูกส่งคืน มิลาน อีกครั้งในปี 2008 แต่ อนิจจา ความเชื่อมั่นของหัวหอกยูเครนหดหายไปด้วยไม่สามารถกลับมาเป็นคนเดิมได้อีกแล้ว ยิงไม่ได้เลยแม้แต่ประตูเดียวตลอดการเล่น 18 เกม

ผลงานตกต่ำน่าใจหายทำให้ทีมปีศาจแดงดำส่งคืนกลับสู่กรุงลอนดอนอีกครั้ง ทว่าเจ้านายเก่าของเขา คาร์โล อันเชล็อตติ บอก เชว่า ไม่อยู่ในแผนอีกแล้วอนุญาตคัมแบ็คสู่อ้อมกอด ดินาโม เคียฟ สโมสรอู่ข่าวอู่น้ำเมื่อซัมเมอร์ปี 2009 ด้วยประสบการณ์อันโชกโชนทำให้เขาได้ปลอกแขนกัปตันทีม


*ความน่าภาคภูมิใจของคนทั้งชาติ
เชฟเชนโก้ ถือเป็นวีรุบุรุษของประเทศไม่เสื่อมคลายไม่ว่าผลงานระดับสโมสรจะตกต่ำแค่ไหนแต่คงใช้ไม่ได้กับทีมชาติ เชว่า ถูกยกให้เป็นไอดอลของแข้งรุ่นน้องหวังเจริญรอยตาม เขาสวมปลอกแขนกัปตันนำหน้าน้องๆเดินลงสู่สนามอยู่เสมอ ถึงปัจจุบันนี้เขาคือเจ้าของสถิติดาวซัลโวสูงสุดตลอดกาลแห่งยูเครนยิงไป 49 ประตูและไม่น่าจะหยุดเพียงแค่นี้ยังมีรายการยูโร 2012 รอบสุดท้ายที่บ้านเกิดของเขาเป็นเจ้าภาพให้ทิ้งทวน


http://bleacherreport.com/articles/485392-andriy-shenchenko-the-story-of-a-true-legend


ลูกกลมกลม

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์