เผย 5 กลยุทธ์เยอรมันต้องทำเพื่อคว่ำสเปนทะลุเข้าซดฮอลแลนด์

.

เผย 5 กลยุทธ์เยอรมันต้องทำเพื่อคว่ำสเปนทะลุเข้าซดฮอลแลนด์


เว็บไซต์ โกลด์ จัดทำการวิเคราะห์ว่าเยอรมันต้องทำอย่างไรบ้างเพื่อจะให้เอาชนะทีมสเปน แชมป์ยุโรปทีมล่าสุดได้ หลังจากที่ในศึกฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรปปี 2008 สเปนเป็นฝ่ายเฉือนชนะเยอรมันมาได้อย่างหวุดหวิด แต่ครั้งนี้กลับวิเคราะห์กันว่าความทรงจำอาจไม่หวนกลับมาเป็นแบบเดิมอีกต่อไปแล้ว



ทีมสเปนของบิเซนเต้ เดล บอสเก้ เปลี่ยนแปลงทีมเพียงเล็กน้อย แต่ทางเยอรมันของโยอัคคิม เลิฟจัดการผ่าตัดแปลงทีมถึง 5 ตำแหน่งและสามารถทำให้อินทรีเหล็กกลายเป็นทีมที่มีประสิทธิภาพอย่างน่าหวดหวั่น ซึ่งหากโยอัคคิม เลิฟต้องการล้างแค้นสเปนให้ได้อาจต้องทำตามกลยุทธ์เหล่านี้



1. ถ่างกองกลางของสเปนออกให้มากที่สุด



แม้ว่า 11 ผู้เล่นตัวจริงของสเปนยังไม่เปิดเผยออกมา แต่สเปนมักถนัดเล่นในพื้นที่แคบๆมากกว่า แดนกลางของสเปนอย่าง ซาบี้ เอร์นานเดซ, ซาบี้ อลอนโซ และ เซร์คิโอ บุสเก็ต ล้วนเป็นผู้เล่นที่ถนัดเกมในกลางสนาม


 


สำหรับนักเตะอย่างอันเดรส อินเนียสต้าก็ถนัดเล่นกลางสนามมากกว่าด้านริมเส้น หากเยอรมันสามารถถ่ายบอลออกไปด้านข้างมากกว่าเล่นในกลาง จะทำหน้าผู้เล่นของสเปนต้องไปเล่นในตำแหน่งที่ไม่ถนัดและไม่เป็นธรรมชาติ ซึ่งจากผู้เล่นของเยอรมันแล้วดูจะได้เปรียบมากกว่าเพราะผู้เล่นเล่นได้อย่างเป็นธรรมชาติในแต่ละตำแหน่งอยู่แล้ว



2.กดดันสเปนแบบสุดๆ



เห็นได้ว่าสเปนมีปัญหาและเล่นได้อย่างยากลำบากตลอดทั้งทัวร์นาเม้นต์เมื่อต้องเล่นภายใต้ความกดดัน ยกตัวอย่าง เกมที่สเปนพบกับสวิตเซอร์แลนด์ และ ปารากวัย แต่สำหรับเยอรมันแล้วดูเหมือนว่าเป็นทีมที่รับความกดดันได้ดีเกมที่ผ่านมาเยอรมันต้องเล่นกับเมสซี่ และ รูนี่ย์แต่ก็สามารถทำผลงานได้ดี



เยอรมันต้องเล่นให้ได้เป็นทีมแบบที่ผ่านมา รับก็ต้องรับทั้งแผง โต้กลับก็ต้องเล่นแบบที่คู่ต่อสู้ยากคาดเดาได้ด้วยแนวรุกทั้งแผง ซึ่งการที่จะทำได้แบบนี้ต้องใช้ความมุ่งมั่นและผู้เล่นต้องพยายามแบบสุดๆ แต่หากทำได้ทีมเยอรมันจะเป็นทีมที่ได้เปรียบแบบเห็นๆ



3. ลาห์มต้องโชว์ฟอร์มด้วยการเป็นฮีโร่ของทีมให้ได้



ในทัวร์นาเม้นต์ก่อนๆ ลาห์มรับหน้าที่เป็นแบ็คขวาด้วยสไตล์การเล่นที่ดุดัน และเน้นเกมบุกสนับสนุนแนวรุกของเยอรมันได้ดี แต่ในทัวร์นาเม้นต์นี้บทบาทแบ็คขวาดูเหมือนจะเป็นแนวตำแหน่งแบ็คสไตล์มาตรฐานที่เน้นเกมรับริมเส้นและเติมเกมบ้างในบางเวลา เอื้อให้ผู้เล่นตัวสร้างสรรค์เกมอย่าง บาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์ และ โธมัส มุลเลอร์ทำเกมแทน ส่วนลาห์มทำหน้าที่เล่นเกมรับได้อย่างเหนียวแน่น



นัดนี้มุลเลอร์ติดโทษแบนไม่สามารถลงเล่นได้ อาจทำให้ลาห์มต้องเสี่ยงช่วยเติมเกมกับบาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์มากขึ้น



4. บีบให้ดาบิด บีย่าต้องไปเล่นริมเส้นมากขึ้น



หากเทียบคุณภาพแดนกลางของทีมสเปนกับเยอรมันแล้ว เยอรมันทำได้ 13 ประตู แต่ทีมสเปนทำประตูได้เพียงแค่ 6 ประตูและ 5 ประตูมาจาก ดาบิด บีย่า ถ้าลองย้อนไปในนัดพบปารากวัย บีย่าถูกตัดขาดไปจากแผงแนวรุกของทีม และถูกบีบให้ต้องวิ่งลงมาไล่บอลเอง ซึ่งเมื่อบีย่าต้องออกไปเล่นด้านข้างหรือลงไปไล่บอลมากขึ้นนั่นหมายความว่าสเปนจะไม่มีคนยืนค้ำเพื่อรับบอลและเข้าทำประตูในแดนหน้า(หากเล่นด้วยแผนการเล่น 4-5-1) หรือไม่ก็มีคนที่ไว้ใจได้ในการพังตาข่ายน้อยลงทีม สเปนก็จะอันตรายน้อยลงไปอีกมาก(ถ้าตอร์เรสยังไม่ได้ลง)



5. เล่นอย่างมีคุณภาพ



ที่ผ่านมา เยอรมันขึ้นชื่อว่าเล่นได้อย่างมีคุณภาพ (ในปี 2010) เกมรุกเด็ดขาดไร้ความปรานี หากมีโอกาสเยอรมันมักมองไปข้างหน้าอย่างเดียว ไม่เคยมองย้อนกลับหลัง ยกตัวอย่างแบบมิโลสลาฟ โคลเซ่ มีโอกาสทำประตู 11 ครั้ง และ 8 ครั้งของเขายิงเข้ากรอบโดย 4 ใน 8 ครั้งเป็นประตู



เมื่อต้องดวลกับสเปน เยอรมันอาจไม่ได้ครองบอลมากเท่าไหร่ เพราะฟุตบอลแบบสเปนจะเล่นสุดยอดมากเมื่อได้ครองบอลแล้ว นั่นหมายความว่าสเปนอาจผ่านบอลเป็นพันๆครั้งกว่าจะได้ชัยชนะ และการที่สเปนจะทำแบบนั้นได้ผู้เล่นต้องดันขึ้นไปในแดนหน้าเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งจะเปิดโอกาสให้เยอรมันได้สวนกลับและต้องคว้าโอกาสอันน้อยนิดเอาไว้ให้ได้  
                           
                            มติชนรายวัน

                                    

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์