Special Column : Chelsea Season Review 2009/2010
Carlo Ancelotti signs three-year deal with Chelsea
ฤดูกาล 2008/2009 เป็นปีที่แฟนบอล เชลซี ต้องจำชื่อของกุนซือแสนอบอุ่นชาวดัทช์ที่มีนามว่า กุส ฮิดดิ้งค์ ไปอีกนานหลังจากที่เข้ามากอบกู้สถานการณ์ของ เชลซี ขึ้นมาอีกครั้งด้วยการคว้าแชมป์ เอฟเอ คัพ ได้สำเร็จ
หลังจากนั้นมีอยู่ 1 คำถามที่ผุดขึ้นมานั่นก็คือใครจะมาคุม เชลซี ต่อหลังจากนี้ ? ความปราถนาสูงสุดของ โรมัน อบราโมวิช คือต้องการแชมป์ยุโรป..
1 มิถุนายน 2009 เชลซีแต่งตั้ง คาร์โล อันเชล็อตติ ขึ้นมาตามจุดประสงค์ของเสี่ยหมีโดยเซ็นสัญญา 3 ปีพร้อมกับนำสต๊าฟจาก มิลาน มาร่วมงานที่ สแตมฟอร์ด บริดจ์ ถึง 4 คน
ส่วนในเรื่องของนักเตะที่เข้ามาใหม่นั่นก็คือการเจียดเงินไปถึง 18 ล้านปอนด์เพื่อคว้าตัว ยูริ เชียร์คอฟ มาจาก ซีเอสเคเอ มอสโก.. รวมถึง รอส เทิร์นบูล กับ ดาเนี่ยล สเตอริดจ์ ที่หมดสัญญากับต้นสังกัดเก่าพอดี
ทำให้การเตรียมทีมของ อันเชล็อตติ เน้นนักเตะเก่าๆ เอาไว้โดยไม่ปล่อยใครออกไป เชื่อในลูกทีมที่มีอยู่และยืนหยัดการทำทีมตามทัศนคติของตัวเอง..
The First Formation : 4 - 4 - 2 Diamond
ระบบการเล่นแรกที่ อันเชล็อตติ อิมพอร์ตเข้ามาสู่ เชลซี คือแผนการเล่นแบบเก่าที่ใช้มาตั้งแต่ตอนคุม เอซิ มิลาน นั่นก็คือ 4 - 4 - 2 ไดมอนด์ หรือจะเรียกอีกอย่างว่า 4 - 1 - 2 - 1 - 2 ก็ได้เหมือนกัน
ลักษณะการเล่นจะไม่ใช้ปีกในการเข้าทำ แต่ใช้ฟูลแบ็คเติมเกมแบบสุดโตร่ง.. แผงกองกลาง 4 คนยืนเป็นรูปข้ามหลามตัด.. ช่วงที่นักเตะพร้อมและสมบูรณ์ที่สุดมจะมี เอสเซียง เป็นตัวรับ.. คู่เซนเตอร์มิดฟิล์ดคือ แลมพาร์ด กับ บัลลัค ส่วนตัวรุกเป็นหน้าที่ของ เดโก้
ทางด้านนักเตะสารพัดประโยชน์อย่าง มาลูด้า และ โจ โคล คือตัวสำรองที่ลงมาเล่นได้ทุกตำแหน่งในระบบนี้ สวนมากแล้ว มาลูด้า จะไปยืนเป็นกองกลางฝั่งซ้ายเวลา บัลลัค เจ็บแล้วโยก แลมพาร์ด ไปเล่นอีกฝั่งนึง
ส่วนนักเตะรูปหล่ออย่างท่าน โจ โคล จะคอยสลับกันเล่นกับ เดโก้ เพราะทั้ง 2 คนมีปัญหาเรื่องอาการบาดเจ็บอย่างต่อเนื่อง..
คู่กองหน้านำมาซึ่งการเข้าขาที่ลงตัวของ ดร๊อกบา กับ อเนลก้า เนื่องจากทั้ง 2 คนมีสไตล์การเล่นที่ต่างกัน เพราะฉนั้นจับมายืนขู่กองหลังฝ่ายตรงข้ามทั้งคู่ถือว่ามีผลงานที่ดีทีเดียว
สรุปแล้วตอนต้นฤดูกาลตัวหลักที่ลงกันครบตามระบบนี้ก็คือ
--------------------------Cech-------------------------
-Bosingwa-----Carvalho-----Terry----------A.Cole--
--------------------------Essien------------------------
-------------Ballack-----------------Lampard---------
--------------------------Deco-------------------------
----------------Drogba---------Anelka----------------
Pre Season
ศึกปรีซีซั่นของ เชลซี มีคิวไปทัวร์ อเมริกา 4 นัด.. เริ่มจากการชนะ ซีแอทเทิ่ล 2 - 0 ได้ประตูจาก ดาเนี่ยล สเตอริดจ์ และ แฟรงค์ แลมพาร์ด ท่ามกลางผู้เข้าชมถึง 65,000 คนพร้อมกับแสงแดดที่แรงจ้าเกินห้ามปราม
หลังจากนั้นก็ไปคว้าแชมป์ เวิร์ล ฟุตบอล ชาลเลนจ์ ได้สำเร็จจากการเอาชนะ อินเตอร์ มิลาน , เอซี มิลาน และ คลับ อเมริกา ก่อนปิดท้ายด้วยการกลับมาเล่นในอังกฤษกับ เรดดิ้ง
Community Shield
คอมมูนิตี้ ชิล์ด หรือ ฟุตบอลการกุศล ระหว่าง แมนยูไนเต็ด แชมป์พรีเมียร์ลีก พบกับ เชลซี แชมป์เอฟเอ คัพ ที่สนามเวมบลีย์ในสภาพที่มีแฟนบอลเข้ามาชมกันเต็มสนาม
ประตูแรกเกิดขึ้นจากการยิงไกลอันสุดสวยของ หลุยส์ นานี่ ก่อนที่ต้นครึ่งหลัง เชลซี จะมาตามตีเสมอจากการโหม่งจ่อๆ ของปราการหลังฝอยทอง ริคาร์โด้ คาร์วัลโญ่
จากนั้น เชลซี ก็มาได้ประตูออกนำจากจังหวะปัญหาที่ ปาทริซ เอฟร่า ถูก บัลลัค ทำฟาวส์แต่ผู้ตัดสินไม่เป่า.. ทำให้ ดร็อกบา ลากพาบอลหลบกองหลังปีศาจแดงและผ่านบอลให้ แลมพาร์ด ซัดเต็มข้อบอลแฉลบมือ เบน ฟอสเตอร์ เข้าประตูไปอย่างเลือดเย็น
เกมนี้ทำท่าว่าจะจบลงด้วยเสียงดีใจของสาวกสิงโตน้ำเงินครามอยู่แล้วแต่ เวนย์ รูนีย์ ก็มาทำประตูตีเสมอได้ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บเลยต้องไปดวลกันต่อในการยิงลูกจุดโทษ
เชลซี ยิงได้แม่นกว่าทำให้คว้าชัยไปครองได้สำเร็จและเป็นโทรฟี่ที่ 2 ของ อันเชล็อตติ ในการคุม เชลซี ก่อนที่ฤดูกาลใหม่จะเริ่มขึ้น..
Premier League
่นี่คือฤดูกาลที่มีการแย่งแชมป์ลีกสูงสุดของ อังกฤษ มันส์ในระดับที่มากกว่า 5 ดาว.. เชลซีเริ่มต้นฤดูกาลนี้ได้อย่างยอดเยี่ยมจากการชนะรวด 6 นัดนำเป็นจ่าฝูงก่อนที่จะไปสะดุดด้วยการแพ้ให้กับ วีแกน 3 - 1 ในเดือนกันยายน
ช่วงนั้นระหว่าง เชลซี กับ แมนยูไนเต็ด ต่างฝ่ายต่างสลับกันขึ้นไปนำเป็นจ่าฝูง.. แมทสำคัญในช่วงที่อันดับ 1 กันดำเนินไปอย่างต่อเนื่องจนมาถึงเดือนพฤศจิกายน มีบิ๊กแมทที่ สแตมฟอร์ด บริดจ์ เชลซี พบกับ แมนยูไนเต็ด
เกมนี้มีเพียงประตูเดียวจากการโขกของ จอห์น เทอร์รี่ ในนาทีที่ 76 ส่งผลให้ เชลซี มีแต้มทิ้งขาดปีศาจแดงในตอนนั้นถึง 5 แต้ม..
และเมื่ออยู่ในฟอร์มที่สุดยอดไม่นาน.. เชลซี มาเจอปัญหากับการจัดการลูกตั้งเตะ ทิ้งแต้มมากมายจากลูกเซตพีทที่มันซี๊ดได้ใจจนทำให้สถานการณ์แย่งแชมป์วนกลับมาสูสีอีกครั้ง
เชลซี ตอนนี้มีปัญหามากมายหลายเรื่อง ไล่ตั้งแต่โทษแบนห้ามซื้อนักเตะ กรณีข่าวฉาวของ จอห์น เทอร์รี่ ที่แอบไปลักลอบแทงข้างหลังเพื่อนรักอย่าง เวนย์ บริดจ์ จนต้องถูกปลดจากการเป็นกัปตันทีมชาติอังกฤษ
นั่นคือสาเหตุอีกอย่างนึงที่ทำให้ เชลซี ของ อันเชล็อตติ ฟอร์มตกอย่างหนัก.. ฤดูกาลนี้มี 1 นัดที่ เชลซี พ่ายคาบ้านนั่นก็คือเกมที่เจอ แมนซิตี้ บุกมาหักเขี้ยวสิงห์บลูถึงถิ่นเจ็บแค้นแสนเข็ญไปอีกนาน
และแล้ว เชลซี ที่นำเป็นจ่าฝูงมาตลอดก็ต้องถูก ปีศาจแดง ชิงกลับไปเพราะทำได้แค่เสมอกับ แบล็คเบิร์น 1 - 1 หลังจากตกรอบฟุตบอลยุโรปด้วยน้ำมือของนายเก่า โชเซ่ มูรินโญ่
แต่ทว่า.. แมทที่ตัดสินได้ทันทีว่าแชมป์พรีเมียร์ลีกเป็นนี้จะเป็นของใครคือช่วงต้นเดือนเมษายน.. เชลซี ไปเยือน แมนยูไนเต็ด ที่ โอลด์ แทรฟฟอร์ด ด้วยสภาพจิตใจที่แปรปรวน
เชลซี นำไปก่อนจากการไขว้ขายิงสุดคลาสสิกของ โจ โคล นั่นคือประตูเดียวที่ไม่มีเสียงค้านใดๆ .. แต่ลูกที่ทำให้ต้องพูดถึงไปอีกนานก็คือจังหวะ ดร็อกบา ทำประตูที่ 2 ให้กับทีมและเป็นลูกล้ำหน้าอย่างชัดเจนในชนิดที่ล้ำเกือบเมตร !!
อีก 1 ประตูปัญหาก็คือลูกแฮนด์บอลของ มาเคด้า.. ได้และเสียผลประโยชน์กันทั้งคู่.. หลังเกมนั้นทีมงานผู้ตัดสินโดนทำโทษไปตัดสินที่ แชมเปี้ยนชิพ หลังจากทำหน้าผิดพลาดแบบไม่น่าให้อภัย
ฟุตบอลลีกดำเนินมาจนถึงนัดรองสุดท้าย.. เชลซี นำปีศาจแดงอยู่เพียงแค่แต้มเดียวและมีคิวออกไปเยือน ลิเวอร์พูล ที่ แอนด์ฟิล์ด ในสถานการณ์ที่ต้องเอาชนะให้ได้เท่านั้น !!
ประตูของ เชลซี คงทำให้หลายคนแอบสะใจและสะเืทือนใจไปพอๆ กันเพราะกัปตันของหงส์แดงพลาดวันไหนไม่พลาด ดันมาพลาดในนัดที่ตัดสินแชมป์กันก็คือการส่งบอลคืนหลังพลาดทำให้โดน ดร็อกบา โฉบบอลไปล็อคหลบ เปเป้ เรน่า ก่อนยิงเข้าไปอย่างง่ายดาย
นัดสุดท้ายของฤดูกาลกับ วีแกน ขอให้ เชลซี เอาชนะได้เป็นพอ ทีมจะคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกได้เป็นสมัยที่ 3 หลังจากต้องทนดู แมนยูไนเต็ด เริงร่ากับการรายการนี้มา 3 ปีติด.. แน่นอนว่าของแบบนี้คงไม่มีใครยอมพลาด..
เชลซี ไล่ต้อน วีแกน ไปอย่างขาดลอย 8 - 0 ส่งผลให้ทีมทำสถิติยิงประตูมากถึง 103 ลูก.. มากที่สุดตั้งแต่ฟุตบอลลีกเปลี่ยนชื่อมาเป็นพรีเมียร์ลีก..
ปิดฉากอย่างสวยหรู แชมป์พรีเมียร์ลีกไม่หนีไปไหน ริบบิ้นสีน้ำเงินโบกไสวให้รู้ว่าแชมเปี้ยนส์ปีนี้คือ เชลซี !!!
Uefa Champions League
่เชลซี โชว์ฟอร์มได้สะเด่าใจแฟนบอลด้วยการเป็นแชมป์กลุ่มได้สำเร็จ ชนะได้ถึง 4 เกม และเสมอไป 2 เกม..
แต่ทว่าเมื่อผลการจับสลากรอบ 16 ทีมสุดท้ายปรากฏขึ้น.. ช็อคโลกกันทั่วฟ้า เชลซี ได้เจอกับ อินเตอร์ มิลาน โดยมีกุนซือสุดที่รักของพวกเขาคุมทีมคู่แข่งอยู่ นั่นก็คือ โชเซ่ มูรินโญ่..
นัดแรกที่ ซาน ซิโร่ งูใหญ่เป็นฝ่ายไล่ต้อนสิงห์บลูไปด้วยสกอร์ 2 - 1 ก่อนจะบุกไปยัดเยียดความปราชัยที่ สแตมฟอร์ด บริดจ์ 0 - 1 ต่อทันทีในเลกที่ 2 ส่ง เชลซี ตกรอบไปอย่างรวดเร็วสำหรับรายการนี้
Carling Cup
่ฟุตบอลถ้วยใบเล็กสุดของ อังกฤษ ปีนี้ เชลซี ตกรอบได้เร็วเหมือนปีก่อนอีกครั้ง..
เอาชนะ โบลตัน ได้ถึง 4 - 0 แต่ก็ไปพ่ายจุดโทษให้กับ แบล็คเบิร์น ในรอบต่อไปทำให้ตกรอบไปในชนิดที่เซ็งๆ แต่ไม่ซีเรียสมากมายนัก
FA Cup
ถือว่าเป็นแชมป์ส่งท้ายฤดูกาลของ เชลซี อย่างหมดจดงดงาม.. ในรอบแรกๆ เจอกับทีมต่ำกว่าพรีเมียร์ลีกทั้งหมดทำให้ผ่านมาได้แบบสบายๆ จนถึงรอบ 8 ทีมที่มาเจอกับ สโต๊ค ซิตี้ แล้วก็ไม่พลาดเข้าไปในรอบตัดเชือกพบกัน แอสตัน วิลล่า
เกมนี้ที่ เวมบลีย์ อึดอัดมากในครึ่งแรก.. ทำอะไรกันไม่ได้แต่ก็มามีถึง 3 ลูกในครึ่งหลังและเป็นทางสิงห์บลูที่ทำได้ทั้งหมดเข้าไปชิงกับ ปอร์ทสมัธ ที่ตกชั้นไปในปีนี้
นัดชิงต้องบอกว่ามีการหาโอกาสทำกันเป็นว่าเล่น.. แค่ 45 นาทีแีรกทาง เชลซี ทำได้ถึง 2 เสากับอีก 3 คานถึงกับขนาดที่ เพตเตอร์ เช็ก เบื่อจัดต้องออกมาทุ่มบอลให้เลย
แต่ว่าครึ่งหลังจุดเปลี่ยนของเกมอยู่ที่ เควิน ปริ๊นซ์ บัวเต็ง สังหารจุดโทษพลาด และกลับกัน ดร็อกบา โชว์ฟอร์มซูเปอร์ฮีโร่ซัดฟรีคิกเข้าประตูไปอย่างสวยงามทำให้ เชลซี ป้องกันแชมป์ เอฟเอ คัพ เอาไว้ได้สำเร็จ
The Best Formation : 4 - 3 - 3
จนแล้วจดรอด ระบบการเล่นที่ดีที่สุดของ เชลซี ก็ยังคงต้องกลับมาเล่น 4 - 3 - 3 อีกครั้งหลังจากที่นักเตะตัวหลักเปิดใจคุยกับ อันเชล็อตติ ตรงๆ ว่าชอบการเล่นแบบมีตัวริมเส้นมากกว่าการเน้นคุมพื้นที่ตรงกลาง
เมื่อ เชลซี หันมาเล่น 4 - 3 - 3 ก็มีผลงานดีต่อเนื่องและใช้จนถึงนัดสุดท้ายของฤดูกาล..
Player Of The Year
ดิดิเยร์ ดร็อกบา คว้ารางวัลนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีจากการโหวตของแฟนบอล..
ส่วนทางด้าน ฟลอล็องค์ มาลูด้า ก็ได้นักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีเช่นกันแต่คราวนี้เป็นการโหวตจากเพื่อนร่วมทีมด้วยกันเอง
Award
Drogba : Barclays Golden Boot
Petr Cech : Barclays Golden Glove
Chelsea FC : Barclays Merit award
ทั้งหมดที่ผมได้เขียนออกไป ไม่มีอะไรจะพูดนอกจากการซึ้งในผลงานของทีมโปรดปีนี้.. เอ้าสาวกสิงห์บลู.. ตะโกนดังๆ สิ..
ขอโทษครับ หลีกทางที พวกเราคือแชมป์พรีเมียร์ลีก..
เอี๊ยดดดดดด !!!
ขอโทษครับ หลีกทางอีกที พวกเราได้แชมป์เอฟเอ คัพ แล้ว..
ดับเบิ้ลแชมป์ !!!!!!!
**************************
ขอขอบคุณ : lentee , espn , uefa , premier league
โดย : Petrboat
http://www.teenee.com
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
