แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส 1 - 1 เชลซี
อีกคู่ที่อีวู้ด พาร์ค แบล็คเบิร์นประสบปัญหาขาดแคลนแนวรับทั้งกาแอล ชีเวต์ และไรอัน เนลเซ่นที่บาดเจ็บ ทำให้ฟิลโจนส์เซ็นเตอร์ฮาล์ฟวัย 18 ปีได้ประเดิมสนามในพรีเมียร์ลีกเป็นเกมแรกให้สโมสร
ส่วนเชลซีไม่มีมิชาเอล บัลลัคเดินทางมากับทีมโดยเป็นซาโลมง กาลูที่ได้เสียบแทน ขณะที่อีกตำแหน่งซึ่งเปลี่ยนไปจากเกมแชมเปี้ยนส์ลีกนัดพ่ายอินเตอร์ มิลานได้แก่เปาโล แฟร์ไรร่าซึ่งได้แทนที่ยูริ ซีร์คอฟ
เริ่มเกมมาได้แค่ 6 นาที กุหลาบก็เฉาอย่างเร็วจี๋เมื่อนิโกล่าส์ อเนลก้าโชว์ความพลิ้วกระชากบอลขึ้นกราบขวาพร้อมทั้งหลุดเข้าเขตโทษได้จึงป้ายย้อนมาแบบถวายพานให้ดิดิเยร์ ดร็อกบาแปด้วยเท้าซ้ายจาก 15 หลาเข้าเสาแรกผ่านเจสัน บราวน์ที่ทิ้งตัวปัดช้าพาเชลซีออกนำ 1-0
พอเสียความบริสุทธิ์ เจ้าถิ่นก็พยายามเดินหน้า แต่ยังเป็นสิงโตน้ำเงินครามที่มีพิษสงมากกว่าโดยนาทีที่ 22 กาลูขยับขึ้นทางขวาพร้อมทั้งสลัดหนีเอล ฮัดจิ ดิยุฟที่ลงไปช่วยเกมรับเข้าเขตโทษได้จึงจ่ายมาหน้าประตู แต่เอนลก้าปรี่เข้าจิ้มด้วยหัวเกือกจาก 10 หลาโด่งออกไป
นาทีต่อมา ทีมเยือนได้เสียวอีกจากจังหวะขลุกขลิกในเขตโทษที่อเล็กซ์ได้วอลเลย์อย่างถนัดถนี่ ดีที่ว่ามาร์ติน โอลส์สันเข้ามาบล็อคได้ทันก่อนที่บอลจะพุ่งเข้าหาปากประตู
ถัดจากนั้น แบล็คเบิร์นก็เริ่มงัดบอลโด่งออกมาโจมตีทีมเมืองกรุง แต่ไม่ได้สร้างปัญหาให้คู่แข่งแต่อย่างใด
กระทั่งนาทีที่ 39 เชลซีเกือบทะลวงประตูได้อีกเม็ดเมื่อฟลอร็องต์ มาลูด้าสบโอกาสพาบอลขึ้นมาซัลโวจากระยะ 18 หลาเต็มแรง แต่บราวน์ทุบทิ้งได้อย่างไม่น่าเชื่อ
อย่างไรก็ดี นาทีที่ 45 สิงห์บลูส์ก็ต้องเปลี่ยนบรานิสลาฟ อิวาโนวิชที่กัดฟันเล่นต่อไม่ไหวหลังเจ็บข้อเท้าในจังหวะพยายามแย่งบอลจากดิยุฟแล้วล้มลงไปถูกคู่แข่งเหยียบออกโดยมีซีร์คอฟถูกส่งลงสนามก่อนที่เกมในครึ่งแรกจะจบลงด้วยสกอร์นำ 1-0 ของเชลซี
เริ่มครึ่งหลังมาได้สองนาที กุหลาบไฟก็ได้ลูกทุ่มด้านซ้าย มอร์เท่น กัมพส์ พีเดอร์เซ่นจึงทุ่มแรงเข้าไปหน้าปากประตูแล้วรอสส์ เทิร์นบูลล์ถูกดิยุฟเข้าเบียดจึงออกมาชกบอลไมถึง ทำให้คริสโตเฟอร์ แซมบ้าๆสบโอกาสโขกจากสิบหลา แต่ซีร์คอฟที่คุมเส้นประตูโหม่งทิ้งออกมาช่วยสิงห์บลูส์เอาไว้ได้
ถึงกระนั้น เจ้าบ้านยังเดินหน้าต่ออย่างฮึกเหิมก่อนจะเปลี่ยนเดวิด ดันน์ออกในนาทีที่ 56 ให้เบร็ตต์ เอเมอร์ตันลงไปปั้นเกมแทน
จากนั้นในนาทีที่ 63 กุหลาบไฟก็ใช้งานเจสัน โรเบิร์ตส์แทนนิโกค่า คาลินิชอีกราย และอีกเจ็ดนาทีต่อมาสาวกเจ้าบ้านก็ได้ระเบิดเสียงเฮเมื่อกัมพส์ พีเดอร์เซ่นสาดบอลจากริมสนามฝั่งขวาไปเสาสองแล้วดิยุฟโขกตุงตาข่ายจากหกหลาโดยแฟร์ไรร่าคุมไม่อยู่ จึงเป็นอันว่าแบล็คเบิร์นตีเสมอเป็น 1-1
เป็นอย่างนี้ เชลซีจึงต้องเร่งเกมกันใหม่ พร้อมทั้งปล่อยเดโก้ลงบู๊แทนกาลูในนาทีที่ 74 แต่สุดท้ายก็คว่ำเจ้าบ้านไม่สำเร็จ จบเกมทั้งสองฝ่ายจึงแบ่งแต้มกันไปด้วยผลลัพธ์ 1-1 ทำให้สิงห์บลูส์ต้องรั้งอันดับสามตามเดิม แต่ยังแข่งน้อยกว่า แมนฯยูฯ และ อาร์เซน่อล อยู่ 1 เกม
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
แบล็คเบิร์น : เจสัน บราวน์, มิเชล ซัลกาโด้, คริสโตเฟอร์ แซมบ้า, ฟิล โจนส์, มาร์ติน โอลส์สัน, เดวิด ดันน์, สตีเว่น เอ็นซอนซี่, คีธ แอนดรูว์ส, มอร์เท่น กัมส์ท พีเดอร์เซ่น, เอล-ฮัดจิ ดิยุฟ, นิโกล่า คาลินิช
สำรอง : มาร์ค บันน์, ลาร์ส ยาค็อบเซ่น, ปาสกาล ชิมบงด้า, อามีน ลินกานซี่, เบร็ตต์ เอเมอร์ตัน, ดาวิด ฮอยเล็ตต์, เจสัน โรเบิร์ตส์
เชลซี : รอสส์ เทิร์นบุลล์, บรานิสลาฟ อิวาโนวิช, อเล็กซ์, จอห์น เทอร์รี่, เปาโล แฟร์ไรร่า, ซาโลมง กาลู, จอห์น โอบี มิเกล, แฟร้งค์ แลมพาร์ด, ฟลอร็องต์ มาลูด้า, นิโกล่าส์ อเนลก้า, ดีดิเย่ร์ ดร็อกบา
สำรอง : แยน เซเบ็ค, ยูริ เซียร์คอฟ, เนมานย่า มาติช, เจฟฟรี่ย์ บรูม่า, เดโก้, โจ โคล, ดาเนี่ยล สเตอร์ริดจ์
ผู้ตัดสิน : สตีฟ เบนเน็ตต์
ขอบคุณข่าวจาก SIAMSPORT
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
