สิงห์เน่า!กัมบิอัสโซ่ซัดชัยงูเบียด2-1

สิงห์บลู เชลซี จ่าฝูงพรีเมียร์ลีก พลาดท่าบุกไปพ่าย งูใหญ่ อินเตอร์ มิลาน 1-2 ศึกฟุตบอลยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้าย นัดแรก เมื่อคืนที่ผ่านมา


ฟุตบอลยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้าย นัดแรก
อินเตอร์ (อิตาลี) 2 - 1 เชลซี (อังกฤษ)



สนาม : ซาน ซีโร่


 


อินเตอร์ตัดสินใจส่งนายทวารชูลิโอ เซซาร์ที่มีบาดแผลบริเวณใบหน้าจากอุบัติเหตุทางรถยนต์เฝ้าตาข่าย ขณะที่คู่หอกเลือกใช้บริการซามูเอล เอโต้กับดีเอโก้ มิลิโต้ทำให้โกรัน ปานเดฟนั่งเป็นตัวสำรองเช่นเดียวกับมาริโอ บาโลเตลลี่ที่หายเจ็บ
 
สำหรับตำแหน่งแบ็คซ้ายที่เป็นปัญหามีผู้เล่นเดี้ยงพร้อมกันหลายราย ฮาเวียร์ ซาเน็ตติได้รับมอบหน้าที่
 
ส่วนเชลซีซึ่งขาดสองแบ็คซ้ายเช่นกันทั้งแอชลีย์ โคล และยูริ ซีร์คอฟที่ไม่สมบูรณ์ส่งฟลอร็องต์ มาลูด้าลงเสียบและปล่อยซาโลมง กาลูเลื้อยทางซ้ายแทน ขณะที่ชูเลียโน่ เบลเล็ตติฟูลแบ็คแซมบ้าถูกจับให้นั่งเป็นตัวสำรอง
 
อย่างไรก็ดี แฟร้งค์ แลมพาร์ดกองกลางตัวกลั่นก็หายป่วยทันเวลา
 
เกมเริ่มขึ้นโดยเชลซีเป็นฝ่ายบุกเข้าหาก่อนอย่างมั่นอกมั่นใจ แต่แค่ 3 นาทีก็ถูกอินเตอร์โต้กลับจนตาข่ายทะลุเมื่อเอโต้ไหลบอลจากหน้าเขตโทษเข้าทางซ้ายให้เวสลีย์ ชไนเดอร์จ่ายไปที่มิลิโต้อีกทอด ก่อนที่กองหน้างูใหญ่จะโชว์ชั้นเชิงโยกหนีจอห์น เทอร์รี่พร้อมทั้งง้างยิงหักข้อจาก 12 หลาส่งบอลเข้าปะทะตาข่ายที่เสาแรกให้เจ้าถิ่นนำเร็ว 1-0
 
สิงห์บลูส์พยายามตั้งลำกันใหม่ และในนาทีที่ 9 ติอาโก้ ม็อตต้าก็โดนจดชื่อในจังหวะยกเท้าสูงยันใส่ใบหน้าของมิชาเอล บัลลัคที่ใช้ศีรษะโหม่งบอล
 
จากนั้นในนาทีที่ 15 เชลซีก็ได้ลูกฟรีคิกทางกราบซ้ายระยะ 35 หลาหลังจากบัลลัคถูกเดยัน สแตนโกวิชขวางทางลุย และเป็นดิดิเยร์ ดร็อกบาที่วิ่งเข้ากระหน่ำเต็มเกือกไปที่เสาแรกส่งบอลพุ่งชนคานดังสนั่นหวั่นไหว
 
เกมของทีมเยือนยังคงดุดัน จากนั้นอีกสามนาที ดร็อกบาก็ผ่านบอลขวางสนามจากทางซ้ายมาให้บัลลัคสับไกระยะ 25 หลาถูกเซซาร์ปัดทิ้งได้
 
ผ่านมาถึงนาทีที่ 22 งูใหญ่ก็โต้ขึ้นมาได้น่ากลัวอีกครั้ง และเป็นมิลิโต้เจ้าเก่าที่หลุดเข้าเขตโทษด้านซ้ายได้จึงโยกหลอกริคาร์โด้ คาร์วัลโญ่หนึ่งครั้งก่อนจะทิ้งตัวล้มในจังหวะที่กองหลังเชลซีแหย่ขาดักอีกทีแต่ไม่โดน ผู้ตัดสินจึงมอบใบเหลืองให้กองหน้าอาร์เจนไตน์ตามระเบียบโทษฐานตบตา
 
กระนั้นนาทีต่อมา กาลูก็ไปเสียบชไนเดอร์กลิ้งเป็นลูกขนุนจึงโดนไข้เหลืองเล่นงานเช่นกัน
 
ล่วงมาถึงนาทีที่ 28 สิงโตน้ำเงินครามยังเจาะเข้าเขตโทษงูใหญ่ไม่ได้ จอห์น โอบี มิเกลจึงลองเข่นจาก 25 หลาดูอีกราย แต่ไม่ผ่านมือเซซาร์
 
อินเตอร์สบโอกาสทองอีกครั้งในนาทีที่ 33 เมื่อชไนเดอร์มีพื้นที่ไหลบอลจากฝั่งซ้ายเข้ามาหน้าประตูสวย แต่เอโต้วอลเลย์ด้วยซ้ายจาก 10 หลาจั่วลมไปเองแม้ไม่มีใครประกบ เชลซีจึงโชคดีรอดพ้นจากการเสียประตูเพิ่ม
 
กระทั่งผ่านมาถึงช่วงทดเวลาเจ็บ แนวรับของเจ้าบ้านที่เล่นกันได้อย่างรัดกุมมาตลอดก็พลาดท่าจนได้ เปิดพื้นที่ให้กาลูหลุดเข้าเขตโทษด้านขวา วอลเตอร์ ซามูเอลจึงไล่กวดตามไปเบียดแล้วล้มลงไปด้วยกันทั้งคู่ แต่ผู้ตัดสินมองว่าขุนพลสิงห์บลูส์เจตนาทิ้งตัวจึงปฏิเสธที่จะเป่าให้เป็นลูกโทษท่ามกลางความตกตะลึงของอาคันตุกะ ครบ 45 นาทีจึงเป็นอินเตอร์ที่นำอยู่ 1-0
 
ครึ่งหลังเชลซีเริ่มบุกกันใหม่ และนาทีที่ 51 บรานิสลาฟ อิวาโนวิชก็ระเบิดฟอร์มพาบอลลุยขึ้นมาทางขวาพร้อมทั้งกระชากตัดเข้าในมาจ่ายต่อให้กาลูยิงด้วยลูกแปจากหน้าเขตโทษส่งบอลตกพื้นกระดอนผ่านจังหวะปัดของเซซาร์ตุงตาข่ายแบบไม่คาดฝัน จึงเป็นอันว่าสกอร์พลิกเป็น 1-1 อย่างรวดเร็ว
 
อย่างไรก็ดี ถัดมาอีกสี่นาที แฟนงูใหญ่ก็ได้เริงร่ากันอีกจากการเลื้อยขึ้นทางซ้ายไปสาดบอลเข้าเขตโทษของชไนเดอร์ที่ถูกกองหลังเชลซีเคลียร์ออกมา เอสเตบัน กัมบิอาสโซ่จึงปรี่เข้าสังหารที่แถวสองกระทบอิวาโนวิช แต่กอกลางสกินเฮดได้ซ้ำดาบสองตุงตาข่ายช่วยให้แชมป์เซเรียอานำ 2-1
 
จากนั้นงูใหญ่ก็เปลี่ยนผู้เล่นในนาทีที่ 58 โดยส่งมาริโอ บาโลเตลลี่ลงไปกดดันทีมจากเมืองผู้ดีแทนมอตต้า
 
แต่แล้วอีกสองนาทีต่อมา ปีเตอร์ เช็คก็เดี้ยงเองในจังหวะกระโดดคว้าบอลแล้วกล้ามเนื้อกระตุกโดยไม่มีใครเข้าปะทะ แถมเล่นต่อไม่ไหวต้องหามออกไปโดยมีเอ็นริเก้ อิราลิโอลงมาแทน
 
จวบจนนาทีที่ 66 สิงห์บลูส์ก็น่าจะทวงคืนได้อีกหนจากการลุยขึ้นทางซ้ายของมาลูด้าแล้วจ่ายบอลมาหน้าประตูให้แลมพาร์ดเข้าแปเต็มๆจาก 12 หลาถูกเซซาร์ปัดป้องได้อย่างเฉียดฉิว
 
งูใหญ่เปลี่ยนผู้เล่นตามมาอีกรายในนาทีที่ 67 โดยใช้งานปานเดฟแทนเอโต้ จากนั้นในนาทีที่ 76 ทีมเยือนก็ส่งดาเนียล สเตอร์ริดจ์ลงไปแทนกาลู
 
และแม้จะถูกเชลซีกดดัน แต่เจ้าบ้านก็ต้านอยู่ กระทั่งครบ 90 นาทีอินเตอร์จึงคว้าชัยไปก่อนในเกมแรกด้วยสกอร์ 2-1
 
รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม
 
อินเตอร์ มิลาน: ชูลิโอ เซซ่าร์ - ดั๊กลาส ไมค่อน, วอลเตอร์ ซามูเอล, ลูซิโอ, ฮาเวียร์ ซาเน็ตติ (กัปตันทีม) - เดยัน สแตนโควิช, เอสเตบัน กัมบิอัสโซ่, ติอาโก้ ม็อตต้า - เวสลี่ย์ สไนจ์เดอร์ - ซามูแอล เอโต้, ดีเอโก้ มิลิโต้

สำรอง: ฟรานเชสโก้ ตอลโด้ (ผู้รักษาประตู) - อีวาน คอร์โดบา, แม็คโดนัลด์ มาริก้า, ซัลลี่ย์ มุนตารี่, ริคาร์โด้ กวาเรสม่า, โกรัน ปานเดฟ, มาริโอ บาโลเตลลี่
 
เชลซี: ปีเตอร์ เช็ก - บรานิสลาฟ อิวาโนวิช, ริคาร์โด้ คาร์วัลโญ่, จอห์น เทอร์รี่ (กัปตันทีม), ฟลอร็องด์ มาลูด้า - มิชาเอล บัลลัค, จอห์น โอบี มิเกล, แฟร็งค์ แลมพาร์ด - นิโกล่าส์ อเนลก้า, ซาโลมง กาลู - ดีดิเย่ร์ ดร็อกบา

สำรอง: เฮนริเก้ ฮิลาริโอ (ผู้รักษาประตู) - อเล็กซ์, ชูเลียโน่ เบลเล็ตติ, เจฟฟรี่ย์ บรูม่า, ฟาบิโอ บอรินี่, ดาเนี่ยล สเตอร์ริดจ์, โจ โคล
 
ผู้ตัดสิน: มานูเอล เมฆูโต้ กอนซาเลซ (สเปน)




ขอบคุณเนื้อข่าว จาก siamsport


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์