ดร็อกบา เบิ้ลสิงห์บลูส์นำสองหนโดนเรดดิ้งตีเจ๊า 2-2

โดย ผู้จัดการออนไลน์ 26 ธันวาคม 2549 21:55 น.



ดิดิเย่ร์ ดร็อกบา เบิ้ลสกอร์แต่ สิงห์บลูส์ เชลซี ยังโดน เดอะ รอยัลส์ เรดดิ้ง อาศัยลูกฮึดตามตีเสมอ 2-2 ในศึกฟุตบอลพรีเมียร์ชิป อังกฤษ นัดบ็อกซิ่งเดย์ ทำให้ แชมป์เก่า ไม่สามารถแซง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ขึ้นไปรั้งตำแหน่งจ่าฝูงได้




ศึกฟุตบอล พรีเมียร์ชิป อังกฤษ นัดบ็อกซิ่งเดย์


เชลซี 2-2 เรดดิ้ง

โฮเซ่ มูรินโญ่ นำพลพรรค สิงห์บลูส์ เชลซี เปิดสแตมฟอร์ด บริดจ์ รับการมาเยือนของ เรดดิ้ง ซึ่งถ้าหากนัดนี้แชมป์เก่าคว้าชัยจะแซง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ขึ้นนำเป็นจ่าฝูงพรีเมียร์ชิป ชั่วคราว อย่างไรก็ดีเกมนี้เจ้าบ้านมีปัญหาในแนวรับ จอห์น เทอร์รี่ กัปตันทีมยังเจ็บ คาลิด บูห์ลารุซ ติดโทษแบน ต้องส่ง เปาโล แฟร์ไรร่า มาเล่นเป็นเซ็นเตอร์ฮาล์ฟจำเป็น

ด้าน เดอะ รอยัลส์ ซึ่งนำมาโดย สตีฟ ค็อปเปลล์ ไม่มีปัญหาในการจัดทัพ แต่ก็มีการเปลี่ยนแปลงตัวผู้เล่น โดยเลือกที่จะดร็อป สตีเฟ่น ฮันท์ ซึ่งเคยทำให้ ปีเตอร์ เช็ก นายทวารเจ้าบ้านกะโหลกศีรษะแตกมาแล้วไว้ที่ข้างสนาม พร้อมกับส่ง บรินยาร์ กุนนาร์สสัน มาช่วยเกมแดนกลาง ส่วนแดนหน้าก็หยอด ลีรอย ลิต้า มาช่วยเกมรุก เควิน ดอยล์



เริ่มเกมการแข่งขันไปได้นาทีเศษ

การเติมเกมรุกขึ้นมาของ เฌเรมี่ เอ็นจิตั๊ป ทำให้แฟนๆ เจ้าถิ่นได้ลุ้น เมื่อแบ็กทีมชาติแคเมอรูนจ่ายเข้าในให้ ดิดิเย่ร์ ดร็อกบา ตอกส้นต่อให้ แฟร้งค์ แลมพาร์ด ได้ยิงแต่บอลเฉียดเสาออกไปไม่ห่าง เกมยังเป็นของ เชลซี

นาทีที่ 12 อังเดร เชฟเชนโก้ พาบอลไปเองก่อนแทงทะลุช่องให้ ดร็อกบา ได้ยิงแต่ติดเซฟของ มาร์คัส ฮาห์เนมันน์

ครึ่งทางของครึ่งแรกผ่านไป แม้ว่า สิงห์บลูส์ จะเป็นฝ่ายครองเกมบุกได้มากกว่าแต่ทาง เรดดิ้ง ก็ตั้งรับกันอย่างเป็นระบบระเบียบสามารถยันเอาไว้ได้ เจ้าถิ่นได้โอกาสอีกครั้ง แลมพาร์ด หยอดฟรีคิกให้ ดร็อกบา ได้ขวิดแต่นายทวารทีมเยือนอาศัยปฏิกิริยาปัดบอลออกหลังไปได้อีก

ถึงนาทีที่ 37 แฟนๆ เชลซีได้เฮจนได้เมื่อ แลมพาร์ด เปิดลูกเตะมุมให้ ดร็อกบา กระโดดโขกผ่านเส้นประตูเข้าไปเป็นสกอร์นำ 1-0 สำหรับแชมป์เก่าเมื่อจบ 45 นาทีแรก

เปิดฉากในครึ่งหลัง เจ้าถิ่นลงมาเป็นฝ่ายทำเกมบุกขู่ทีมเยือนทันที เชฟเชนโก้ ซึ่งเกมนี้ได้โอกาสจาก โฮเซ่ มูรินโญ่ จึงพยายามโชว์ฝีเท้าเต็มที่และก็ได้โอกาสลากบอลเข้าไปยิงแต่กดไม่ลงบอลเหินข้ามคานออกไป

นาทีที่ 55 เรดดิ้ง เกือบตีเสมอเมื่อ เจมส์ ฮาร์เปอร์ ทำเกมขึ้นมาทางขวาก่อนเปิดเข้ากลาง ริคาร์โด้ คาร์วัลโญ่ สกัดบอลผิดเหลี่ยมไปหน้าประตูตัวเองแต่ เควิน ดอยล์ ดันเหยียดขาทิ่มบอลที่หน้าประตูโล่งๆ ไม่โดน



ทีมเยือนเริ่มเป็นฝ่ายกดดัน แชมป์เก่า อย่างต่อเนื่อง สตีฟ ซิดเวลล์ ได้ง้างวอลเล่ย์ด้วยขวาแต่บอลพุ่งเข้าแค่ข้างตาข่าย เมื่อเกมเริ่มไม่ค่อยดี มูรินโญ่ ปรับทัพให้เจ้าบ้านทันทีเมื่อผ่านหนึ่งชั่วโมงส่ง ฌอน ไรท์-ฟิลลิปส์ ลงมาเล่นแทน เชฟเชนโก้ และจากจังหวะสวนกลับเกือบทำให้เชลซีนำห่าง ซาโลมอน คาลู ได้เก็บตกยิงไกลจากนอกกรอบเขตโทษแต่บอลติดไซด์หลุดกรอบออกไป อย่างไรก็ตาม

ถึงนาทีที่ 67 เสียงเชียร์ทีมเยือนดังลั่นเมื่อ เกล็น ลิตเทิล โยนบอลไปเสาสองให้ ลิต้า โขกตีเสมอ 1-1

เข้าสู่ช่วง 20 นาทีสุดท้าย มูรินโญ่ ทิ้งไพ่สองใบสุดท้ายส่งทั้ง แอชลี่ย์ โคล และจอห์น โอบี มิเกล ลงมาเล่นแทน เฌเรมี่ และเวย์น บริดจ์ ซึ่งวันนี้เติมเกมไม่ได้

เกมเดินทางมาถึงนาทีที่ 72 เสียงเชียร์ในสแตมฟอร์ด บริดจ์ กระหึ่มอีกครั้งเมื่อ ไรท์-ฟิลลิปส์ กระชากขึ้นไปทางขวาก่อนเปิดบอลให้ ดร็อกบา โขกบอลเข้าไปตุงตาข่ายให้เชลซีนำอีกครั้ง 2-1 พอเสียประตู เรดดิ้ง เป็นฝ่ายทำเกมบุกอีกครั้ง ดอยล์ ได้ส้มหล่นยิงในกรอบแต่ดันซัดบอลเหินข้ามคานออกไป

หลังจากพยายามอยู่พักใหญ่ เรดดิ้ง ตามตีเสมอสำเร็จเป็น 2-2 ในนาทีที่ 85 โดย ดอยล์ เลี้ยงขึ้นไปทางซ้ายก่อนเปิดบอลเข้ากลาง แอชลี่ย์ โคล เตะสกัดไปโดน มิคาเอล เอสเซียง เข้าประตูตัวเองเป็นการมอบของขวัญให้แก่ทีมเยือนในวันบ็อกซิ่งเดย์ อย่างแท้จริง ช่วงท้ายเกม เชลซี โถมบุกเข้าใส่ ดร็อกบา ได้โหม่งลูกเตะมุมแต่บอลไปตรงตัว ฮาห์เนมันน์ ครบ 90 นาที เชลซี ทำได้แค่เสมอกับ เรดดิ้ง มีเพิ่มเป็น 46 คะแนนจากการลงสนาม 20 นัด ยังตามหลัง ผีแดง แมนฯ ยูไนเต็ด จ่าฝูง 1 แต้ม


รายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริงของทั้งสองทีม


เชลซี : เอ็นริเก้ ฮิลาริโอ , เฌเรมี่ เอ็นจิตั๊ป , เปาโล แฟร์ไรร่า , ริคาร์โด้ คาร์วัลโญ่ , เวย์น บริดจ์ , มิคาเอล เอสเซียง , มิชาเอล บัลลัค , แฟร้งค์ แลมพาร์ด , ซาโลมอน คาลู , อังเดร เชฟเชนโก้ , ดิดิเย่ร์ ดร็อกบา

เรดดิ้ง : มาร์คัส ฮาห์เนมันน์ , แกรม เมอร์ตี้ , อิบราฮิม ซองโก้ , อีวาร์ อิงกิมาร์สสัน , นิค ชอรี่ย์ , เกล็น ลิตเทิล , บรินยาร์ กุนนาร์สสัน , สตีฟ ซิดเวลล์ , เจมส์ ฮาร์เปอร์ , เควิน ดอยล์ , ลีรอย ลิต้า


ผลฟุตบอลพรีเมียร์ชิป อังกฤษ นัดบ็อกซิ่งเดย์



เชลซี 2-2 เรดดิ้ง
[1-0 : ดิดิเย่ร์ ดร็อกบา (น.37) , 1-1 : ลีรอย ลิต้า (น.67) , 2-1 : ดิดิเย่ร์ ดร็อกบา (น.72) , 2-2 : มิคาเอล เอสเซียง (น.85)]

ท็อตแน่ม ฮอทสเปอร์ 2-1 แอสตัน วิลล่า
[1-0 : เจอร์เมน เดโฟ (น.58) , 2-0 : เจอร์เมน เดโฟ (น.78) , 2-1 : แกเร็ธ แบร์รี่ (น.82)]

เวสต์แฮม ยูไนเต็ด 1-2 ปอร์ทสมัธ
[0-1 : ลินวอย ไพรมัส (น.16) , 0-2 : ลินวอย ไพรมัส (น.38) , 1-2 : เท็ดดี้ เชอริงแฮม (น.81)]

แบล็คเบิรน์ อัดหงส์1-0
แมนยูถลุงวีแกน 3-0

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์