★หลายสนามเลื่อนแข่ง แต่หัวตารางคะแนนไม่เลื่อนเปลี่ยนไป !!!!!!

หลายสนามเลื่อนแข่ง แต่หัวตารางคะแนนไม่เลื่อนเปลี่ยนไป !!!!!!


..........ก็ไม่รู้ว่าเป็นอะไรในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมานะครับ.. มีแต่เรื่องไม่ค่อยดี อดทนรอดูฟุตบอลพรีเมียร์ลีกมาเต็มๆ 1 อาทิตย์แต่กลับเลื่อนแข่งหลายคู่เพราะหิมะต่างพากันโปรยลงมาแบบไม่เกรงใจใคร

ที่หนักหน่อยก็คงเป็นของเรื่องทีมชาติ โตโก ในระหว่างเดินทางไปแข่งขันศึกฟุตบอล แอฟริกัน เนชั่น คัพ ได้ถูกกลุ่มผู้หวังแบ่งแยกดินแดนกระหน่ำลูกปืนเข้าใส่แบบไำม่ยั้งทำให้มีทั้งผู้เสียชีวิตและได้ัรับบาดเจ็บแถมกระทบต่อจิตใจนักเตะโดยตรง..

จิตใจพวกนี้มันทำด้วยอะไร ? ยังมีความเป็นคนอยู่หรือไม่ ? สาธุขอให้ไม่ทันไรเวรกรรมทั้งหลายตามทันแบบไม่ต้องรอชาติหน้าแต่ของชาตินี้และเร็วๆ ได้ยิ่งดี..!!

อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ฟุตบอลจะเลื่อนกันหลายคู่แต่ว่าเกมที่น่าสนใจยังคงเตะเหมือนเดิม.. อาร์เซน่อล เปิดรังรับการมาเยือนของ เอฟเวอตัน ส่วนปีศาจแดงมีคิวบุกไปเพื่อหวังเปิดซิงยัดเยียดการปราชัยให้กับทีมลูกโลก..

ก่อนที่เกมจะเริ่ม อาร์เซน่อล ตามหลังจ่าฝูงอย่าง เชลซี อยู่ 4 แต้มและแข่งน้อยกว่า 1 นัด.. เท่ากับว่าหากนัดนี้เอาชนะได้จะไล่จี้เหลือแค่แต้มเดียวทันทีเพราะโอกาสมาถึงแล้วจึงไม่มีใครอยากพลาดอะำไรในช่วงเวลาสำคัญ

ในครึ่งแรก เอฟเวอตัน ได้ประตูขึ้นนำไปก่อนจากลูกเปิดของนักเตะหมายเลข 9 คนใหม่นาม แลนดอน โดโนแวน โฟกัสเข้าหัว ลีออน ออสแมน โขกเต็มศีรษะเป็นประตูแต่ก็มาเจอ เดนิลสัน ตามตีเสมอได้ในเวลาถัดมา

แนวโน้มเกมย่อมเป็นเรื่องธรรมดาถ้าไอ้ปืนใหญ่จะโถมบุกหนักในครึ่งหลังและมันก็เป็นไปตามนั้น.. แต่ต้องเข้าใจครับว่าเวลาจะกดดันฝ่ายตรงข้ามให้แบบขึงเกมอยู่้ต้องดันแนวรับขึ้นสูงตามด้วย

และผลที่่ออกมาคือกองหลังปล่อยให้ สตีเฟ่น พีนาร์ หลุดเดี่ยวเข้าไปล่อเป้ากับ อัลมูเนีย ที่ออกมาปิดมุมแต่ดันเจอลูกชิพสุดเทพของดาวเตะทีมชาติแอฟริกาใต้เข้าไปคงต้องยกนิ้วให้มากกว่าไปโบ้ยว่าทำไม อัลมูเนีย ปฏิกริยาช้าไม่กระโดดปัดบอล ?

การขาด เชส ฟาเบรกาส ไปส่งผลกระทบอย่างมากในการสร้างสรรค์โอกาสเข้าทำ.. พอขาดนักเตะประเภทนี้ไปมันก็ทำให้จุดแข็งในการเล่นโอเพ่นเพลย์ของ อาร์เซน่อล ทำได้ไม่เต็มประสิทธิภาพนัก

มีเพียง ดิยาร์บี้ เท่านั้นที่ขับเคลื่อนแดนกลางให้มันต่อเนื่องได้ นอกนั้นถือว่าเล่นได้ต่ำกว่ามาตรฐานโดยเฉพาะ ตราโอเร่ ที่โดนสวดยับเป็นพิเศษ

แต่ทีมใหญ่มักตายยาก.. โทมัส โรซิกกี้ ลงมาเป็นซูเปอร์ซับตีเสมอให้กับทีมได้ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บพร้อมกับจบเกมแบ่งแต้มกันไปและเท่ากับว่า โอกาส ที่เคยมีก่อนเกมดันหลุดมือไปอย่างน่าเสียดาย

เกมรุกอันยอดเยี่ยมของ อาร์เซน่อล ในช่วงเวลาที่ผ่านมาถูกหยุดลงในนัดนี้ด้วยผลงานของ เอฟเวอตัน จากกุนซือ เดวิด มอยส์ ที่ถูกทัพปืนใหญ่บุกไปเคี้ยวทอฟฟี่กระจาย 6 - 1 เมื่อตอนต้นฤดูกาล..

ส่วนเกมที่ เซนต์ แอนดรูว์ ถ้าหาก แมนยูไนเต็ด เอาชนะได้จะเป็นการหยุดสถิติไร้พ่าย 11 นััดติดของ เบอร์มิ่งแฮม แถมยังแอบหนี เชลซี ขึ้นไปอยู่บนยอดดอยพร้อมตะโกนดังๆ ว่า จ่าฝูงหนาวมาก

เวลาผมดูกำลังดูทีมโปรดบุกเพลินๆ แต่ดันโดนยิงนำไปก่อนมันโคตรเสียอารมณ์อย่างบอกไม่ถูก อยากจะมองไปรอบข้างหาอะไรมาระบายโทสะซักหน่อยคงดีกว่าปล่อยให้คิ้วขมวดเพราะเดี๋ยวจะเสียสุขภาพจิต

เกมนี้เป็นกองเชียร์ของปีศาจแดงที่เจอเหตุการณ์แบบนั้น.. เล่นดีกว่าทุกอย่าง หาโอกาสเข้าทำได้แต่ดันมาเจอ คาร์เมรอน เจโรม ยิงประตูขึ้นนำไปก่อนแบบนี้น่าเจ็บใจยิ่งนัก

ที่สำคัญ แมนยูไนเต็ด พักหลังเป็นพวกที่ตายแล้วตายสนิทหรือไม่ก็ตื่นขึ้นมาดูโลกนิดหน่อยแต่ไม่เคยออกจากหลุมเพื่อแซงกลับมาชนะเลยสักครั้ง..

จริงอยู่ว่าครึ่งหลังจะมาตีเสมอได้จากการสกัดเข้าประตูตัวเองของ สก็อต แดน แต่ต้องยอมรับว่าหากไม่มี โทมัส คุสแช็ค เซฟกระจายเป็นว่าเล่นอาจจะได้เห็นผีตัวนี้ถูกฆ่าเป็นนัดที่ 2 ติดต่อกันหลังจากพึ่งแพ้ให้กับ ลีดส์ ยูไนเต็ด ในเอฟเอ คัพก็เป็นได้..

ปัญหาหลักอยู่ที่การปั้นเกมไม่ขึ้นจากแดนกลาง.. ถ้าจะให้พูดกันตรงๆ ก็คงประมาณว่ามิดฟิล์ดของ แมนยูไนเต็ด ดูนุ่มนิ่มไปหน่อย ใช้จุดเด่นแค่การผ่านบอลไปมาแต่ไม่สามารถกดดันเกมรับฝ่ายตรงข้ามได้ !!

ร้ายไปกว่านั้นก่อนเข้าสู่ช่วงทดเวลาบาดเจ็บ ดาร์เรน เฟลตเชอร์ มาโดนใบเหลือแดงไปอีกทำให้ทดเวลา 6 นาทีแทนจะได้ลุ้นแต่กลับต้องมาเสียวแทนว่าไอ้เจ้า คริสเตียน เบนิเตซ มันจะปล่อยของอีกมั้ย ?

และเมื่อเป็นแบบนี้ก็ทำให้เกมจบลงที่สกอร์ 1 - 1 และหัวตารางคะแนนไม่เลื่อนโดย เชลซี ยังคงเป็นจ่าูฝูงเหมือนเดิม

จุดเปลี่ยนจากการที่ปีศาจแดงจะฉวยโอกาสในเวลาที่ เชลซี ขาดสตาร์แห่งกาฬทวีปทั้งหลายถูกปลิวหายไปและคงบอกได้เป็นกลายๆ ว่าหาก สิงห์บลู ไม่พลาดกันเองคงได้เปรียบอย่างถึงที่สุดนับจากนี้..

มาคอยดูกันต่อว่า คาร์โล อันเชล็อตติ จะแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าอย่างไร้เมื่อไร้ผู้เล่นตัวหลักอย่าง ดิดิเยร์ ดร็อกบา และ มิคาเอล เอสเซียง จากศึก แอฟริกัน เนชั่น คัพ..

ถ้าหากคุณผ่านมันไปได้.. โมเมนตั้มครั้งใหญ่คงไม่หนีไปไหนนอกจากนอนรอคุณมาหยิบไปให้ได้ ณ สแตมฟอร์ด บริดจ์..


ขอขอบคุณรุปภาพจาก พี่เบน ฟรีคิก และ สยามสปอร์ต

Petrboat
_________________
 


ขออนุญาต คุณ  Petrboat  ทีโพสต์ไว้ ใน Soccersuck มา ณ ที่นี้ด้วยค่ะ

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์