หงส์แดงจะแรงฤทธิ์หรือตะหงิดกับเชลซี

หงส์แดงจะ แรงฤทธิ์ หรือ ตะหงิด เมื่อพบเชลซี ....!!!!!???


..........เชื่อได้ว่าวันอาทิตย์ที่กำลังจะถึงนี้คงไม่มีใครพลาดฟุตบอลคู่บิ๊กแมทระหว่าง เชลซี ที่เตรียมเปิดบ้านต้อนรับการมาเยือนของ ลิเวอร์พูล อย่างแน่นอน.. แต่ลึกๆ แล้วพวกเราคนไทยก็ต้องเผื่อเวลาไปเชียร์ เมืองทอง ยูไนเต็ด พบกับ ชลบุรี เช่นกัน..

ใครจะว่ายังไงก็ไม่ทราบรู้อย่างเดียวตอนนี้ทุกๆ บ้านน่าจะกระสับกระส่ายอย่างแรงเพราะว่าฝนตกซอยถี่ไม่เว้นตลอดทั้งวัน.. มองโลกในแง่ดีก็ประหยัดไฟไม่ต้องเปิดแอร์แต่ถ้ามองแบบแย่ๆ จะทำอะไรก็ไม่ได้ทำ..

คิดดูอีกทีก็เหมือนท้องฟ้าแกล้งพวกเราชาวโลกเหมือนกันนะครับ.. ตอนดึกๆ หัวค่ำเวลานอนทำไมไม่ตกเข้าไป ? เวลาเรียนหรือทำงานดันมาตกแบบ หยิมๆ และตก สั้นๆ แต่ตก ยาวๆ ซะอย่างนั้น

ไอ้เราก็นึกน้อยใจ.. นี่ถ้าตอนฟุตบอลเตะและดันฝนตกขึ้นมาคงเป็นอันว่าจานดาวเทียมทรูวิชชั่นคงรับสัญญาณไม่ได้เลยต้องร้อง ซี้ด นั่งดูทีวีบนอินเตอร์เน็ท..

เข้าเรื่องกันดีกว่าหลังจากบ่นพรึมพรำมานาน.. ก่อนเกมจะเริ่มพวกเราคงรู้อยู่แล้วว่าทัพหงส์แดงพ่ายให้กับ ฟิออเรนติน่า ในศึกยูฟ่าแชมเปี้ยนสลีกส่วน เชลซี บุกไปเฉือนหืด อโพเอล 1 - 0

สกอร์อาจจะต่่างกันแต่ความรู้สึกโดยรวมคงไม่ไกลเกินความจำเป็น.. แมทนี้จะเล่นกันสบายถ้า แมนยูไนเต็ด ไม่ชนะ ซันเดอร์แลนด์ ในคืนวันเสาร์แต่ถ้าตรงกันข้ามคงเล่นกันเกร็งแบบสุดๆ

ทางฝั่งเจ้าบ้านจะไม่มี เพตเตอร์ เช็ก ที่โดนใบแดงในวันที่พบกับ วีแกน แต่ที่เหลือต้องเรียกว่าสมบูรณ์เกือบทั้งหมดเนื่องจาก โจ โคล กับ เดโก้ หายเจ็บกลับมาแล้วแถมพ่วงด้วย ยูริ เซอร์คอฟ อีกหนึ่งคน

ส่วนลูกทีมของ ราฟาเอล เบนิเตซ อาจจะไม่มีปัญหาในเรื่องของความฟิตแต่คงต้องเน้นกับระบบแผงหลังให้ควงคู่กันแน่นแฟ้นกว่าเดิมเพราะปฏิเสธไม่ได้ว่าตอนนี้ คาราเกอร์ กับ สเคอเทล ยังไม่ใช่คนเก่าหลังจากโขกกันหัวล้างข้างแตกในนัดแรกของฤดูกาล..

อาจจะไม่ใช่เกมที่เรียกว่าสำคัญอย่างสุดซึ้งเพราะพึ่งเตะกันไปไม่กี่นัด.. แต่่ทว่าสิ่งที่ควรตระหนักที่สุดไม่ใช่ความกดดันในสนามเพราะสถานการณ์ของผู้จัดการทีมทั้ง 2 ฝ่ายต้องเรียกว่าอยากโชว์ของดีด้วยกันทั้งคู่

คนหนึ่งเปิดซิงพบกับบิ๊กโฟร์นัดแรกของซีซั่นนั่นคือ คาร์โล อันเชล็อตติ ต้องเผชิญกับแรงฤทธิ์จากหงส์แดงที่เคยบุกมาเอาชนะ เชลซี เมื่อซีซั่นก่อนที่ แสตมฟอร์ด บริดจ์..

เริ่มต้นดีมีชัยไปกว่าครึ่งคงต้องปราณีตในการวางแผนต่างๆ ให้รูปเกมไหลลื่นที่สุด.. แต่ถ้าเกิดมันไม่ได้ดีดั่งที่หวังไว้คงจะเป็นมหันตภัยครั้งใหญ่ของ อันเช่ บนถิ่นผู้ดีที่ตื้่นเต้นเหนือคำบรรยาย..

ทางด้าน ราฟา คงไม่ค่อยพอใจกับผลงานของลูกทีมมากนักหลังจากเกมรับเปรียบได้ดั่งจุดอ่อนในฤดูกาลนี้.. ยิ่งพูดมักยิ่งเจ็บ ถ้าจุดไหนมันเปราะบางแล้วยิ่งตอกย้ำเข้าไปอีกดอกคงทวีคุณกลายเป็นสอง..

ปัญหาหลักของ ลิเวอร์พูล คือจะทำอย่างไรไม่ให้แผลเก่ามันซ้ำรอย.. ของแบบนี้มันแก้ไขกันได้แต่อยู่ที่ว่ามันจะมาเมื่อไหร่ ? และควรทำอย่างไรเพื่อลบจุดบอดของตนเองและข่มเกมรุกของคู่แข่งเป็นปฏิกริยาตอบสนองเสียแทน ?

ถึงตอนนี้อาจจะมองเห็นปัญหาไปซะทุกอย่างแต่ก็ใช่ว่ามันจะมีเรื่องร้ายเสมอไปเนื่องจากพบเห็นในตอนนี้ยังดีกว่าไปเห็นในภายภาคหน้าเพราะถึงตอนนั้นจะมาแก้ไขทีหลังคงไม่ไหว

ดูกันต่อไปว่าผลจะจบลงแบบไหน? ใครจะยิ้ม ใครจะตะหงิด คงบอกไม่ได้เพราะต่างฝ่ายต่างร้อนลุ่มและกระหายใน 3 คะแนนด้วยกันทั้งคู่..