เพียวริคุ!เชลซีเขี้ยวอัด 3-0 ชนะ 4 นัดรวด

เพียวริคุ!เชลซีเขี้ยวอัด 3-0 ชนะ 4 นัดรวด

ใครเป็นกุนซือก็ยังเล่นบอลโหดเหมือนเดิมสำหรับเชลซีหลังเปิดบ้านโชว์ตำราเกมรุกสุดพลิ้วยำใหญ่น้องใหม่เบิร์นลีย์แบบไม่ไว้หน้า 3-0 จากประตูของอเนลก้า,บัลลัคและอ.โคลทำสถิติเพียวๆชนะรวด 4 นัดมี 12 แต้มนำฝูงอย่างสุดน่ากลัว

พรีเมียร์ลีก

วันเสาร์ที่ 29 สิงหาคม 2552


เชลซี 3-0 เบิร์นลีย์

ประตู : 1-0 อเนลก้า น.45,2-0 บัลลัค น.47,3-0 โคล น.52



ครึ่งแรก

เชลซีเปิดฉากบุก
เชลซีเปิดฉากมาบุกแหลกแบบไม่ต้องคิดมากและแค่ 3 นาทีได้โอกาส 2-3 ครั้งจากดร็อกบาที่เข้าฮอร์ตเสาแลกแต่ออกหลังก่อนเป็นอเนลก้าและบัลลัคที่ได้ส่องแต่ยังไม่เข้าเป้า

นิโก้หรือสาก!?
นาทีที่ 6 อเนลก้าทำแฟนบอลช็อกเพราะอุตสาห์ทำดีฉกบอลที่ทีมเยือนคืนหลังตรงกลางสนามกระชากหลุดเดี่ยวแบบวิ่งกลางท้องนาปรี่เข้าเขตโทษตัวต่อตัวกับเยนเซ่นแต่แทนที่จะยิงหรือทำอะไรซักอย่างกลับเลี้ยงไปให้นายทวารโคนมล้มตัวดักทางคว้าบอลติดมือซะงั้น ไปๆมาๆอย่าว่าแต่ไม่เข้าเลยไม่ได้ง้างยิงด้วยซ้ำ ช็อกจริงๆแถมจังหวะเบิร์นลีย์สวนกลับมาเกือบถูกแม็คคานที่เลี้ยงเป็นท่อทะลุมาจากระยะ 30 หลามาถึงหน้า

แลมพ์พลาดเชลซีเกือบโดน
อีก 3 นาทีต่อมาเบิรน์ลีย์เกือบขึ้นนำจากลูกที่แลมพาร์ดไม่รู้ทำอะไรแบบหันหลังครองบอลแล้วช้าเป็นเรือสินเธาว์เลยถูกเฟลทเชอร์ฉกกระชากเข้าไปถึงเขตโทษก่อนตบบอลเข้าในให้แพเตอร์สันจับแล้วเลือกมุมยิงแต่เจอเช็กปรี่มาปิดมุมเลยอัดออกข้างเสาแบบสนลาน แฟนบอลกุมหัวเสียดาย ส่วนแลมพ์โล่งอกเพราะพลาดคนเดียวเต็มๆ

เยนเซ่นซูเปอร์เซฟ
นาที 21 เชลซีพลาดโอกาสขึ้นนำอย่างไม่น่าเชื่อจากจังหวะที่โบซิงวาตัดบอลได้และฝากให้เดโก้ที่ไหลนิ่มๆเข้าในเขตโทษให้บัลลัคล็อกหลบเร็วจนตัวเข้าประกบหลงทางหลังหักแต่จังหวะจะยิงให้ข้ามเป็นเยนเซ่นปรี่ออกมายื่นมือขวาปัดสุดยอด ทางบอลดีเหลือเกินสำหรับจอมหนึบวัย 34 ปีผู้นี้

2 นาทีต่อมาลูกเตะมุมของแลมพ์บอลตกมาใส่เทอร์รี่แถวๆจุดโทษเลยส่องด้วยอีซ้ายแบบดีดๆแต่ไปตรงตัวเยนเซ่นที่ตั้งท่าเหมือกำลังจะยกโอ่งทุบบอลออกมาอย่างหวุดหวิด

ก็ยังขนะเยนเซ่นไม่ได้
ผ่านมาถึงครึ่งชั่วโมงบอลยังวันเวย์แต่เชลซีก็ยังเจาะไม่เข้าเพราะขนาดลูกโขกตั้งย้อนจากเสาสองของเทอร์รี่คืนให้แลมพ์วอลเลย์หวดตามน้ำจังหวะเดียวไปตรงตัวเยนเซ่นที่เซฟด้วยการทุบสองมืออีก


เชลซีบุกแทบตายเจาะไม่เข้า
เชลซีเจออุปสรรคหนักเพราะเจาะเข้าตรงกลางไม่ได้ครั้นจะออกปีกก็บุกไม่สุดเพราะไม่มีปีกธรรมชาติโดยต้องพึ่งแบ็คทั้งสองข้างและก่อนหมดเวลานาทีเดียวดร็อกบากระชากหนีเฟลทเชอร์หลุดไปถึงเส้นหลังก่อนตบยัดเข้ากลางเป็นแลมพาร์ดเบียดแย่งยิงกับตัวประกบบอลปลิ้นไม่แรงทำให้เยนเซ่นล้มตัวตระครุบเอาไว้ได้อีก


นิโก้ปลดล็อกทดเจ็บ 1-0
เกมทำท่าจะจบที่สกอร์ 0-0 แต่แล้วทดเจ็บเอสเซียงโชว์สายตาเมื่อจ่ายบอลแรงเลียดจากกลางสนามตัดหลังแบ็คให้ดร็อกบาวิ่งควบไปด้านข้างกรอบโทษแล้วลากมถึงตรงมุมแคบ 6 หลาก่อนบรรจงแทงไหลตั้งให้อเนลก้าวิ่งสไลด์มากับกองหลังแต่สุดท้ายแหย่หัวเกือกหลาเดียวบอลชนเสาเกือบไม่เข้ายังดีเหลี่ยมในเลยเสียบตาข่าย จังหวะนี้เอสเซียงจ่ายบอลคมมาก เป็นตัวรับที่เล่นเหมือนตัวรุก ไม่ใช่เคาะบอลคืนไปมาทำตัวไร้ประโยชน์

ครึ่งหลัง

บัลลัคโขกหาย 2-0
เล่นมาแค่ 2 นาทีเชลซีบทจะได้ก็ง่ายเหลือเกินจากจังหวะที่อเนลก้าได้บอลตรงแถวหน้ากรอบเขตโทษทางซ้ายแล้วเงยหน้าเหมือนจะโยนแต่ไหลขนานเส้นกรอบโทษด้านข้างให้แลมพ์วิ่งมาเติมแล้วหยอดนิ่มๆให้บัลลัคทิ้งตัวโขกลงพื้นบอลทะลุเยนเซ่นเข้าไปไม่เหลือ

ไหลเป็นโจ๊ก โคลคล้ำยิงงามหยด
อีกไม่กี่นาทีเชลซีมาหนีเป็น 3-0 จากลูกที่แอชลีย์ โคลเจอรุมสองตรงหน้ากรอบโทษเลยแตะให้แลมพ์แล้วตัวเองก็วิ่งทำทางทำให้มิดฟิลด์หน้าใสไม่ต้องคิดมากทำชิ่งชิพบอลหยอดเข้าในกรอบก่อนที่อดีตแบ็คอาร์เซนอลจะวิ่งเข้าไปวอลเลย์ชิงจังหวะเอาชนะแข้งเบิร์นลีย์บอลพุ่งวาบแสกหน้าเยนเซ่นเข้าไปสุดงามหยดหย้อยจริงๆ

เอสเซียงเกือบเฮ
นาที 67 เชลซีที่เล่นอย่างสนุกสนานได้โอกาสอีกจากจังหวะที่เอสเซียงพยายามจะแทงบอลทะลุเข้ากรอบให้เพื่อนแต่ติดตัววิ่งประกบบอลกระเด้งมาเข้าทางแข้งกาน่าที่คราวนี้กระชากควบมาถึงระยะทำการ 20 หลาตะบันยิงหักข้อด้วยอีซ้ายบอลพุ่งเข้ามุมร้อนถึงเยนเซ่นต้องพุ่งปัดปลายมืออีก

เยนเซ่นร้องกูชักเหนื่อย
ถ้าไม่มีเยนเซ่นเบิร์นลีย์โดนไม่ตำกว่า 7-8 ลูกไปแล้วและนาที 76 เอสเซียงที่วันนี้จะเอาชื่อขึ้นสกอร์บอร์ดให้ได้รับบอลจากแลมพ์ที่ไหลมาแล้วทำท่าจะยิงไกลด้วยขวาแต่ล็อกก่อนแต่งยิงด้วยซ้ายติดไซด์ร้อนถึงลุงเยนเซ่นบินปัดออกหลัง

จากจังหวะเตะมุมแลมพ์ปั่นมาเป็นบัลลัคหันหลังโขกตรงกรอบ 6 หลาเสาแรกไร้ตัวประกบบอลย้อยกำลังจะเสียบใต้คานแต่เยนเซ่นถอยหลังปัดได้อีก

เกือบฟันธงถูกเป๊ะ
ก่อนหมดเวลา 3 นาทีสกอร์กำลังจะ 4-0 แต่เมียร์ดันเป็นมารหัวขนวิ่งมาเคลียร์ลูกที่กาลูตัวสำรองหลุดเข้ากรอบโทษแล้วกระดกบอลจากด้านมุมแคบค่อยๆกลิ้งไปเสาสอง ป๊าดโธ่

แต่สุดท้ายทดเจ็บ 2 นาทีก็ไม่ได้ช่วยทำให้สกอร์เปลี่ยนแปลงหมดเวลาเชลซีถล่ม 3-0 นำจ่าฝูงด้วยสถิติชนะรวด 4 นัดและหากรวมเมื่อปลายฤดูกาลที่แล้วเข้าไปด้วยก็ 9 นัดติดต่อกันแล้ว

รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม

เชลซี :
ปีเตอร์ เช็ก,โจเซ่ โบซิงวา(เบลเล็ตติ น.66),ริคาร์โด้ คาร์วัลโญ่,จอห์น เทอร์รี่,แอชลีย์ โคล,มิกาเอล เอสเซียง,มิชาเอล บัลลัค(มิเกล น.83),เดโก้,นิโกลาส์ อเนลก้า,ดิดิเยร์ ดร็อกบา(กาลู น.75)

เบิร์นลีย์ : ไบรอัน เยนเซ่น,ไทรอน เมียร์ส ,คล้าก คาร์ไลส์,อังเดร บิเคย์,สตีเฟ่น จอร์แดน,เกรแฮม อเล็กซานเดอร์(แม็คโดนัลด์ น.74),ร็อบบี้ เบล็ค(เกเรร์โร่ น.78),เวด เอเลียต,คริส แม็คคาน,มาร์ติน แพตเตอร์สัน(กุดยอห์นสัน น.59),สตีเฟ่ล เฟลทเชอร์























เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์