น่องจาย!โอกาสเพียบพ่ายเชลซีเละ4-1

ปืนใหญ่อาร์เซนอลกำลังปิดฤดูกาลอย่างสุดหงอยหลังเล่นในบ้านตัวเองและโชว์เทพพับสนามบุกอยู่ข้างเดียวแต่เจอความเด็ดขาดของเชลซียิงกระซวกตุงเช็ดเม็ดเอาชนะถึงเอมิเรสต์ สเตเดียม 4-1 ไม่เหลือให้ลุ้นแม้กระทั่งอันดับ 3

พรีเมียร์ลีก

วันอาทิตย์ที่ 10 พฤษภาคม 2552


อาร์เซนอล 1-4 เชลซี

ประตู : 0-1 อเล็กซ์ น.28,0-2 อเนลก้า น.38,0-3 ตูเร่ น.49(ทำเข้าประตูตัวเอง),1-3 เบนด์เนอร์ น.70,1-4 มาลูด้า น.87


ศึกศาลาคนเศร้าสำหรับสองทีมที่ตกรอบรองชนะเลิศแชมเปี้ยนส์ลีกโดยอาร์เซนอลวันนี้ตั้งใจจะเอาชนะเชลซีเพื่อลบความผิดหวังแพ้คาบ้านต่อแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดเกมนี้จึงมีตัวรุกครบครันทั้งนาสรี่,ฟาน เพอร์ซี่,วัลค็อตต์และเชสก์ ฟาเบรกัสส่วนอังเดร อาร์ชาวินยังไม่ฟื้นไข้

ด้านเชลซีที่ตกเป็นข่าวฉาวไปทั่วโลกกับพฤติกรรมในเกมเสมอบาร์ซ่าก็ยังคงผู้เล่นชุมเดิมนำโดยขาแร็พดิดิเยร์ ดร็อกบาส่วนมิชาเอล บัลลัคนั่งสำรอง

ครึ่งแรก

หยั่งกะวินนิ่งเมื่อเล่นมาแค่ 18 วินาทีอาร์เซนอลได้โอกาสครั้งแรกเกือบเป็นประตูจากการเคาะบอลสั้นๆจนวัลค็อตต์ลากทะลวงขึ้นมาแล้วทำชิ่ง 1-2 กับฟาน เพอร์ซี่ที่ยืนล้ำหน้าแต่ไลน์แมนพลาดอีกแล้วทำให้เจ้าหนูทีมชาติอังกฤษได้โอกาสยิงเต็มข้อแต่บอลเหินข้ามคานออกไป

เกมเป็นของเจ้าถิ่นเกือบข้างเดียวมาจะ 10 นาทีแรกแล้วโดยเชลซีทำได้แค่ตั้งรับอย่างเดียวแต่ไม่น่าเป็นปัญหาเพราะเกมรุกเด็ดๆอย่างบาร์ซ่ายังเอาอยู่มาแล้วเลย

แต่นาทีที่ 8 ปืนใหญ่หวิดขึ้นนำหลังนาสรี่แทงทะลุตัดหลังแบ็คให้วัลค็อตต์ใช้ความเร็ววิ่งตัดทะลุเข้าเขตโทษก่อนยิงดีดด้วยขวาแต่เช็กรู้ทันปิดเสาปัดออกหลังไป

อีก 3 นาทีโอกาสแรกของเชลซีก็ทำเอาแฟนเดอะกันเนอร์เสียวเหมือนกันจากจังหวะลูกทุ่มตรงปีกขวาเป็นอเนลก้าพลิกบอลกระชากมาถึงหน้ากรอบก่อนไหลให้แลมพ์ยิงด้วยอีซ้ายบอลติดไซด์จากพุ่งกลางประตูเลี้ยวออกสามเหลี่ยม ถ้าเข้าสวยงามแน่

เกมแลกกันสนุกเลยนาทีถัดมานาสรี่พลิกบอลหนีมิเกลตรงระยะ 30 หลาก่อนแทงออกกรอบโทษฝั่งขวาให้วัลค็อตต์ตบเข้ากลางให้เชสก์วิ่งมารอแปเน้นๆตรงบริเวณจุดโทษแต่ดิยาบี้ขโมยซีนวิ่งมาแหย่ยิงด้วยอีซ้ายบอลแป๊กออกหลังไม่ได้ลุ้นเลย

อาร์เซนอลมาเป็นชุดๆนาที 18 จังหวะสวนกลับดิยาบี้กระชากขึ้นมาทางปีกซ้ายก่อนลากมาถึงกรอบโทษแล้วยึกยักหลอกอเล็กซ์จนปาดตัดหลังเข้ากรอบให้วัลค็อตต์วิ่งมาแปย้อนซรตรงระยะ 13-14 หลาบอลพุ่งถากเสาออกไปนิดเดียว วัลค็อตต์มีโอกาสเยอะเหลือเชื่อจริงๆ

พอไม่ได้แล้วเนี่ยอาร์เซนอลเกือบพังบ้างหลังอีก 3 นาทีต่อมาหลังดร็อกบาโชว์ส่งไขว้แบบฟุตซอลตรงปีกซ้ายมุมอับให้แอขลีย์ โคลที่วิ่งทำทางมาควบพรวดเดียวเข้ากรอบโทษฝั่งซ้ายแล้วตบให้มาลูด้าแปยิงเน้นๆแต่บอลโดนไม่แรงผ่านมือฟาเบียงสกี้ถูกกิกส์เคลียร์พ้นเขตอันตราย

นาที 25 อาร์เซนอลได้ฟรีคิกก่อนเปิดมาวัดดวงในกรอบโทษปรากฏเจอสกัดบอลโด่งย้อยเป็นน้ำพุแต่ดิยาบี้เกี่ยวลงมาเหมือนจะถูกมือแต่กรรมการไม่ว่าอะไรทำให้ซงมาเก็บตกหมุนตัวยิงตรงระยะจ่อๆ 6 หลาแต่ไม่ตรงกรอบหลุดเสาสุดสยอง

สุดท้ายและวนาที 28 ปืนใหญ่เข้าสูตรบุกแทบตายเจอโป้งเดียวจอดเมื่อเชลซีได้ฟรีคิก 35 หลาเป็นดร็อกบาปั่นบอลพุ่งมาเข้าหัวอเล็กซ์ที่กระโดดโขกสูงกว่าใครบอลแฉลบคานตกพื้นเสียเพดานตาข่ายเข้าไปสุดงาม ฟาเบียงสกี้ได้แต่ยืนมือแล้วมีกระตุกนิดหน่อยตอนบอลชนคาน

เกมของเจ้าถิ่นเหนือกว่ามากแต่จังหวะสุดท้ายเล่นหลายจังหวะเกินไปนาที 36 มาอีกชุดเคาะบอลกลางสนามก่อนฟาน เพอร์ซี่กระชาตั้งแต่วงกลมมาถึงหน้าเขตโทษเชลซีก่อนป้ายออกขวาให้เชสก์แตะเข้าเขตโทษก่อนยึกยักจ่ายยัดเข้ากลางเป็นฟาน เพอร์ซี่ที่วิ่งเลยพยายามยิงมั่วๆร้อนถึงกองหลังเชลชีเคลียร์ทิ้งตรงหน้ากรอบประตู

แล้วดูสิ...อีก 2 นาทีต่อมาเชลซีมาขึ้นนำง่ายๆ 2-0 จากจังหวะที่อเนลก้าพลิกบอลหนีนาสรี่เกือบๆกลางสนามก่อนม้วนลากขึ้นมาถึงหน้ากรอบโทษแล้วยิงเต็มข้อบอลติดไซด์ทะลุซิลแวสตร์เสียบหน้าต่างเข้าไปสุดงดงาม นิโก้ยิงเสร็จก็ไม่ดีใจเพราะเป็นการยิงทีมเก่านั่นเอง

ทดเจ็บเชลซีเกือบได้ลูกสามหลังเอเซียงเลี้ยงมาแล้วแตะต่อให้มาลูด้าลากลุยฝ่าดงตีนมาถึงหน้าเขตโทษก่อนแยงจังหวะสุดท้ายดึงตัวประกบมา 2 คนบอลมาถึงอเนลก้าที่บรรจงแปกะให้ลอดขาฟาเบียงสกี้แต่จอมหนึบโปแลนด์รู้ทันล้มตัวหุบขาบล็อกหวุดหวิด

ครึ่งหลัง

เละ เละ...เล่นมา 4 นาทีปืนใหญ่เจอยิงลูกสามสุดง่ายดายและต้องชมมิเกลที่จ่ายไซด์ก้อยสุดติ่งให้แอชลีย์ โคลวิ่งควบไปเอาถึงข้างกรอบโทษฝั่งซ้ายแล้วตบเข้าในเป็นตูเร่ที่สไลด์ตัดบอลด้วยความหวังดีแต่บอลค่อยๆกลิ้งชนเสาเข้าประตูตัวเองไปซะงั้น แย่แล้วปืนโต

จากนั้นนาที 51 ดิยาบี้แทงให้ฟาน เพอร์ซี่ที่เหมือนจะยืนเหลื่อมล้ำหน้าพอไลน์แมนไม่ยกแข้งดัทช์เลยกระชากลากเลื้อยก่อนแต่งเข้าซ้ายหนีกองหลังเชลซีที่วิ่งกลับมาช่วยชะลอสองคนแต่สุดท้ายซัดเต็มๆหน้ากรอบเช็กล้มตัวปัดออกหลังทันควัน

อีก 4 นาทีต่อมาวัลค็อตต์เปิดบอลสุดงามจากกรอบโทษฝั่งขวามาที่จุดนัดพบให้เชสก์วิ่งมาสไลด์ยิงที่ระยะ 6 หลาเสาสองแต่เอสเซียงวิ่งมาบีบแท็คเกิ้ลเร็วทำให้บอลแหกข้ามคานออกไปเอง

นาที 57 วัลค็อตต์ยิงทิ้งยิงขว้างอีกแล้วหลังลูกชุลมุนหน้าเขตโทษเป็นซงเก็บตกแล้วชิพตัดหลังให้วัลค็อตต์จับบอลในกรอบแล้วยิงสวนเช็กที่ปรี่ออกมาปิดมุมแต่บอลกลับออกเสาไกลออกไปซะงั้น

อีก 7 นาทีต่อมาสกอร์เกือบเป็น 4-0 หลังการต่อบอลขึ้นมาของเชลซีจากแลมพ์ออกซ้ายให้มิเกลแตะไหลให้โคลเติมเกมขึ้นมาวิ่งเปิดครอสจากกรอบโทษบอลเลยทุกคนมาถึงโบซิงวาโปรถีบที่ยิงโป้งเดียวข้ามมือฟาเบียงสกี้ข้ามคานนิดเดียว

และแล้วนาที 70 ความพยายามของอาร์เซนอลก็เป็นผลเมื่อซาญ่าเปิดบอลจากปีกขวาหลังนาสรี่ไหลคืนมาให้เป็นเบนด์เนอร์หอกยันส์หลวมกระโดดเทคเหนือเอสเซียงโขกเต็มกบาลบอลตุงตาข่ายไม่มีเหลือ ไล่มาแล้ว 3-1

อีก 4 นาทีต่อมาเหมือนเดจาวูเมื่อซาญ่าคนเดิมเปิดจากขวาให้เบนด์เนอร์ได้โขกอีกแต่คราวนี้เช็กล้มตัวตระครุบติดสองมือหนึบ

ก่อนหมดเวลา 7 นาทีลูกชุลมุนจากจังหวะเตะมุมของเจ้าถิ่นเกือบได้ลูกสองหลังตูเร่นัวเนียนมาถึงเส้นหลังในกรอบจนบอลไปถึงซิลแวตร์ที่ยิงอัดเผาขนติดบล็อกเช็กก่อนทะลักมาถึงกิบส์ที่สวนตูมเดียวข้ามคานออกไปไกล

เจ้าถิ่นบุกเพลินๆนาที 86 เจอสวนโป้งเดียวเจอเม็ดสี่จากจังหวะที่แลมพ์แทงทะลุให้มาลูด้าหนีล้ำหน้าเข้าไปล่อเป้ายิงติดขาฟาเบียงสกี้แต่อเนลก้ายังไววิ่งมาซ้ำ 6 หลาบอลชนเสากระเด้งไปเข้าทางมาลูด้าที่ยืนอยู่ใช้ขาสกิดเข้าไปง่ายๆ

หมดเวลาเชลซีบุกมาเอาชนะเละเทะ 4-1 ได้เบียดลุ้นแย่งรองแชมป์กับลิเวอร์พูลต่อไปส่วนอาร์เซนอลได้ที่ 4 ต้องไปคัดเลือกแชมเปี้ยนส์ลีกทีมเดียวแน่นอนแล้วและเป็นการเสียท่าที่เอมิเรสต์ในพรีเมียร์ลีกนัดแรกนับตั้งแต่ถูกวิลล่าบุกชนะ 2-0 เมื่อวันที่ 15 เดือนพย.ปีที่แล้วและ 2 นัดหลังในบ้านตัวเองโดนถึงเน้นๆถึง 7 ลูกโดยที่สัปดาห์หน้าต้องมีคิวไปเจอแมนฯยูฯอีกต่างหาก

รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม

อาร์เซนอล :
ลูคัส ฟาเบียงสกี้,บาคารี่ ซาญ่า,โคโล่ ตูเร่,มิกาเอล ซิลแวสตร์,เคียราน กิบส์,ธีโอ วัลค็อตต์(อเดบายอร์ น.67),เชสก์ ฟาเบรกัส ,วาสซาริกิ ดิยาบี้(เบน์เนอร์ น.60),ซาเมียร์ นาสรี่,อเล็กซ์ ซง(เดนิลสัน น.67),โรบิน ฟาน เพอร์ซี่

เชลซี : ปีเตอร์ เช็ก,โจเซ่ โบซิงวา(อิวาโนวิข น.77),อเล็กซ์,จอห์น เทอร์รี่,แอชลีย์ โคล,มิกาเอล เอสเซียง,จอห์น โอบี มิเกล,แฟร็งค์ แลมพาร์ด,นิโกลาส์ อเนลก้า,ดิดิเยร์ ดร็อกบา,ฟลอร็องต์ มาลูด้า(บัลลัค น.88)
































เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์