ฤา จะเป็นงานเลี้ยงอำลาเกมยุโรป ของ ... ฮิสดิ้ง ??

ภายหลังตำแหน่งกุนซือของสิงโตลอนดอน ได้เปลี่ยนมือจาก “ฟิลิเป้ สโคราลี่” มาเป็นของบุคคลมากประสบการณ์ “กุส ฮิงดิ้ง” ด้วยสัญญาเพียงแค่จบฤดูกาล

ชื่อของชายผู้ถือสัญชาติดัชท์คนนี้ได้รับคำยกย่องในฟุตบอลน็อคเอ้าท์ ไม่ว่ารายการใดก็ตามทั้งระดับชาติหรือสโมสร มีผลงานชิ้นโบว์แดงให้ประจักษ์แก่สายตาไล่กันไป เกาหลีใต้ ไอนด์โฮเฟ่น ออสเตรเลีย รัสเซีย จนถึงการจับเล่นชิ้นร้อนของ เสี่ยหมี “โรมัน อบราโมวิช” ในครั้งนี้

สัมผัสแรกของ “ฮิสดิ้ง” กับของเล่นชิ้นใหม่ของเขานั้นเป็นไปอย่างราบรื่นด้วยบุกไปยัดเยียดความปราชัยให้กับวิลล่า ที่ฟอร์มร้อนแรงอยู่อันดับ 4 อยู่ในขณะนั้นด้วยผลต่าง 1 ประตู

และด้วยผล 1- 0 อีกครั้ง งานเลี้ยงของจริงสำหรับต้อนรับ “บิ๊กกุส” ถูกจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ในฟุตบอลยุโรป ที่เปิดสแตมฟอร์ด บริจด์ต้อนรับยูเวนตุส อาคันตุกะจากอิตาลี ภายใต้การคุมทีมของ เคลาดิโอ รานิเอรี่ “ทิงเกอร์แมน” คนเก่าของเชลซี

จากการต้อนรับอย่างเอิกเกริกยิ่งใหญ่ สู่ผลงานอันยอดเยี่ยมทำให้ชื่อของเชลซียังมีลุ้นฟุตบอลถ้วยอยู่ถึง 2 รายการใหญ่คือ เอฟเอ คัพ ที่เข้าไปรอชิงดำกับเอฟเวอตัน ตอนปลายเดือนพฤษภาคม ส่วนอีกหนึ่งคือ “บิ๊กเอียร์” ที่เชลซีพยายามทำทุกอย่างเพื่อคว้ามันมาประดับไว้ที่ตู้โชว์ของสโมสรให้ได้

อย่างก็ตาม “งานเลี้ยงต้องมีวันเลิกลา” วันเปิดสแตมฟอร์ด บริจด์รอรับพลพรรค “บาเซโลนิสต้า” จะเป็นการคุมเชลซีลงเล่นฟุตบอลยุโรปในบ้านเป็นครั้งสุดท้ายถ้า “ฮิสดิ้ง” พ่ายแพ้ แต่ทว่าหากเขาเป็นฝ่ายที่กำชนะชัยนั้นก็ไม่ได้หมายความว่าพวกเขาจะได้แข่งนัดชิงชนะเลิศที่สนามแห่งนี้เช่นกัน

ถึงผลจะออกทางหัวหรือก้อย ไม่ว่าการแข่งขันจะแพ้หรือชนะ แต่แมทนี้คือบรรยากาศฟุตบอลยุโรปเกมสุดท้ายที่ “กุส ฮิสดิ้ง” จะได้แสดงฝีมือต่อหน้าแฟน เดอะบลู และที่น่าสนใจคือเขาจะวางแผนการเล่นอย่างไร

สิ้นเสียงนกหวีดยาวของ “โวล์ฟกัง สตาร์ค” ที่ คัมป์ นูว์ ผลการแข่งขัน 0 - 0 บนสกอร์บอร์ดเป็นตัวเลขที่เป็นเหมือนดาบสองคมกับเชลซี จริงอยู่ในเกมเลกแรกนั้นบรรดาชาว “คาตาลุนญ่า” ไม่มีโอกาสจะได้ลุกเฮ
เพราะแทคติกของเชลซีที่เอารถเมล์มาจอดขว้างประตูเอาไว้ตลอด 90 นาทีอย่างที่สื่อสเปนเขาว่าเอาไว้ แต่อย่าลืมว่าในเลกที่สองรถเมล์คันนี้ภายใต้การควบคุมของกุนซือชาวดัชท์จะต้องพยายามขับขึ้นมาลุ้นประตูและอาจทำให้หลังบ้านต้องมีพื้นที่ว่างแน่นอน เมื่อใดก็ตามถ้าเกิดพลาดเสียประตูก็จะต้องเหนื่อยเป็นสองเท่า

สภาพของผู้มาเยือนจากต่างแดน “เป๊ป กวาดิโอล่า” มีปัญหาใหญ่ในคู่เซ็นเตอร์ กาเบรียล มิลิโต้มีอาการเจ็บมายาวนานก่อนแล้ว ราฟาเอล มาร์เกวซล่าสุดเดี้ยงไปอีกหนึ่งราย คาเลส ปูโยล ซึ่งไม่ได้บาดเจ็บแต่ดันต้องมาติดคาดโทษห้ามลงสนามในเกมสำคัญ เหลือเพียงดาวรุ่งอย่าง มาร์ติน คาเซเรส ที่จะได้จับคู่กับ เคราดจ์ ปีเก้เท่านั้น และแน่นอน “ฮิสดิ้ง” จะใช้ความแข็งแกร่งและลูกกลางอากาศจัดการกับจุดอ่อนตรงนี้


ส่วนการเจาะแนวรับต่างดาวน่าจะไม่ใช่เรื่องที่ “บิ๊กกุส” ต้องคิดมาก แต่ปัญหามันจะมาเกิดตรงที่บุกอย่างไรไม่ให้โดนสวนมาแล้วเสียประตู เพียงเพราะว่าคู่แข่งขันคือทีมที่ชื่อว่า “บาเซโลน่า” พวกเขาพร้อมจะใส่เกียร์ 5 เดินหน้าบุกอยู่ตลอดเวลา ตั้งแต่จำความได้ยังไม่เคยเห็นบาซ่ามาเน้นเกมรับ หรือเคาะบอลไปมาเพื่อถ่วงเวลา อีกหนึ่งจุดสำคัญหากคิดจะมองไกลจองตั๋วเครื่องบินไปนัดชิงชนะเลิศที่กรุงโรมแล้วการเล่นเกมรับของ อเล็กซ์ มิชาเอล บัลลัค รวมถึงกองหน้าอย่าง อเนลก้า จะต้องใช้ความระเอียดในการตัดเกมสูงมากเพราะถ้าพลาดถ้าโดนใบเหลือขึ้นมา ก็จะหมดโอกาสลงสนามในนัดชิงทันที

แต่เชื่อเหลือเกินว่าบรรยากาศในเกมแบบนี้ กองเชียร์ของสิงโตน้ำเงินครามจะส่งเสียดังร้องเพลงเชียร์และชูผ้าพันคอคล้ายว่าจะเป็นงานเลี้ยงส่งท้ายการคุมทีมเล่นฟุตบอลยุโรปให้แก่ กุส ฮิสดิ้ง ผู้จัดการทีมพาร์ทไทม์ของพวกเขาเอง หากเปรียบได้ว่าเชลซีคือผับชื่อดังแห่งหนึ่งฉันใด กุส ฮิ้งดิ้งก็ต้องเป็นเพียงนักดนตรีที่มาสร้างสีสรรค์ให้ในช่วงเวลาหนึ่งฉันนั้น และเวลาในขณะนี้ก็คงล่วงเลยมาถึงเที่ยงคืนแล้ว อีกเพียงไม่นานก็จะถึงตี 1 เวลาที่จะต้องแยกย้ายกันไป

ในท้ายที่สุดผลระหว่างเกมคู่นี้จะเป็นอย่างไร...ถึงแม้ “นอสตราดรามุส” ยังมีชีวิตอยู่ก็ไม่สามารถคาดเดาได้ว่าตื่นเช้าใครมาจะ เศร้า หรือ สุขสมหวัง ....

_________________
จำเอาไว้ว่าแฟนบอลมีแค่ 2 ประเภท

ประเภทแรกคือเชียร์ด้วยความบันเทิงและเรียนรู้ฟุตบอล เมื่อทีมแพ้ก็จะยิ้มรับ และวิเคราะห์อย่างใจเย็น ไม่อาฆาตใครจนขาดสติ

ประเภทที่สองคือเชียร์ตามกระแส เชี้ยร์เพื่อเอาไว้ข่มคนอื่น เมื่อแพ้ก็จะโวยวาย ตามด่า ตามอาฆาต และตามน้ำ และทุกอย่างที่ตรงข้ามกับประเภทแรก

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์