6 เหตุผลแห่งความคลาสสิค สิงห์ vs หงส์

6 เหตุผลแห่งความคลาสสิค 'สิงห์ vs หงส์'

6 เหตุผลแห่งความคลาสสิค 'สิงห์ vs หงส์'
วันที่ 4/15/2009 8:26:24 PM


สุด ยอดเกมแห่งฤดูกาล (ที่หลายคนการันตีให้ล่วงหน้า) ผ่านไปที่สแตมฟอร์ด บริดจ์ ท่ามกลางเส้นขนที่ยังลุกตั้งชูชันด้วยความตื่นเต้นตลอด 90 นาทีเศษที่ ไม่มีใครยอมใครเลยระหว่าง สิงโตน้ำเงินคราม กับ หงส์แดง

1.
ไม่มีจอห์น เทอร์รี่
ศูนย์ รวมดวงใจของทีมเชลซี ที่เป็นผู้นำในยามวิกฤติอย่าง จอห์น เทอร์รี่ ไม่สามารถจะลงสนามได้เนื่องจากโทษใบเหลืองแบบไม่จำเป็นในการฟาวล์ เปเป้ เรน่า ในเกมแรกที่แอนฟิลด์ ทำให้เขาต้องนั่งดูเกมจากข้างสนาม
ด้วย เหตุนี้เองทำให้ลิเวอร์พูล สามารถเปิดแนวรุกที่หาช่องเล่นงานแนวรับของสิงห์บลูส์ ได้แบบเมามันในนัดนี้ เนื่องจากถึงจะเก่งแค่ไหน แต่ไม่ว่าจะอเล็กซ์ หรือริคาร์โด้ คาร์วัลโญ่ ก็ไม่สามารถที่จะทดแทน ไลออนคิง อย่างเทอร์รี่ ได้ทั้งหมด เพราะเจที ไม่ได้มีแค่ท่าทางโผงผางแหกปากโวยวายเท่านั้น แต่ยังสามารถบัญชาแนวรับให้อยู่เป็นปึกแผ่นได้อย่างดีด้วย
สกอร์ที่ยิงกันแหลกรานในเกมนี้มีเหตุผลสำคัญจากเรื่องนี้ด้วย
2.
ดรายเป่าผม ของฮิดดิ้งค์
ถึง จะท่าทางดูสงบนิ่ง แต่ถึงเวลาจำเป็น หมีใจดีอย่างกุส ฮิดดิ้งค์ ก็พร้อมจะงัด ดรายเป่าผม ออกมาใช้ตวาดใส่ลูกทีมเหมือนต้นตำหรับอย่างเซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน เหมือนกัน
งานนี้ไม่มีใครรู้ว่าจะมีข้าวของอะไรเสียหายบ้างหรือเปล่าในห้องแต่งตัวของนักเตะเชลซี
รู้แค่ว่าเขี่ยบอลเล่นครึ่งหลังเท่านั้นแหละ นักเตะสิงห์บลูส์วิ่งกันแบบกลัวตาย เอ๊ย...ลืมตายเลยทีเดียว
3.
แท็คติกของราฟา
ไม่ ใช่ครั้งแรกที่เดอะ ค็อป ต้องหันหน้ามามองคนข้างๆ (หรือแชทถามเพื่อน) เกี่ยวกับการจัดทีมของราฟา ที่เดาไม่ออกว่าตกลงใครเล่นตำแหน่งอะไรกันแน่ เพราะก่อนนี้ก็เคยมีกรณีที่ ฟาบิโอ ออเรลิโอ เล่นกองกลางตัวรับ และอันเดรีย ดอสเซน่า ยืนปีกซ้ายมาแล้ว
ครั้งนี้เขาดร็อปปีกซ้ายทั้งตัวจริงและตัวสำรองอย่าง อัลเบิร์ต ริเอร่า และไรอัน บาเบิล และให้ยอสซี่ เบนายูน ลงมายืนทำเกมรุกแทน
ไม่มีใครบ่นในเกมนี้เพราะว่าลิเวอร์พูล เล่นได้น่าประทับใจโดยเฉพาะครึ่งแรกที่นำไปก่อนถึง 2-0 ชนิดมีหวังจะสร้างปาฏิหารย์เข้ารอบได้ แต่ก็มีคนถามว่าถ้าราฟา ให้ริเอร่า ที่กำลังเล่นได้ท็อปฟอร์มในช่วงนี้ลงตัวจริง
บางทีลิเวอร์พูล น่าจะเอาคืนตัวแสบในเกมที่แล้วอย่าง บรานิสลาฟ อิวาโนวิช จนเสียคนเลยก็เป็นได้?
4.
พี่เจิดหายไป
ไม่ ได้มีแค่เชลซี เท่านั้นที่เสียกัปตันทีมอย่าง จอห์น เทอร์รี่ไป เพราะฝั่ง หงส์แดง ก็เสีย สตีเว่น เจอร์ราร์ด ยอดกัปตันไปเหมือนกัน
บาง คนก็ว่าการหายไปของสตีวี่จี น่าจะส่งผลร้ายแรงมากกว่าด้วยซ้ำเพราะฟอร์มในช่วงหลังเห็นได้ชัดว่า พี่เจิดคือคนที่นำลิเวอร์พูล กลับมาสู่ฟอร์มระดับสุดยอดอีกครั้ง โดยเฉพาะการได้จับคู่กับเฟร์นานโด ตอร์เรส
ลิเวอร์พูล อาจจะเล่นได้น่าประทับใจในเกมนี้ แต่แฟนหงส์ก็อดคิดไม่ได้ใช่มั้ย
If only....พี่เจิดอยู่ ปาฏิหารย์ครั้งใหม่อาจเกิดขึ้นก็ได้
5.
เช็กจอมเหวอ...เรน่าจอมวืด
เกม ที่สแตมฟอร์ด บริดจ์ คงจะไม่มันขนาดนี้ถ้าไม่มีความผิดพลาดของสองนายทวารชั้นนำของพรีเมียร์ลีก ทั้ง ปีเตอร์ เช็ก และโฆเซ่ เรน่า ที่วืดวาดด้วยกันทั้งสองคน
โดย เฉพาะเช็ก ที่ เสียสุนัข ไปจากการโดน ฟาบิโอ ออเรลิโอ ลักไก่ปั่นฟรีคิกเข้าไป ก็ยังดู ประหม่า ตลอดเวลา ทำเอาแนวรับของเชลซี ที่ไม่สมประกอบอยู่แล้วปั่นป่วนไปด้วย
ส่วน เรน่า ความผิดพลาดที่ทำให้เสียประตูแรกในช่วงต้นครึ่งหลัง ความผิดอาจไม่ชัดนักเพราะจะว่าไปลูกยิงของดร็อกบา มันสะกิดเปลี่ยนทางนิดเดียว แต่ขึ้นชื่อเป็นประตูระดับท็อป ลูกแบบนี้มันต้องทำให้ดีกว่านี้
6.
หงส์ลงแดง?
สกอร์ 3-1 ที่แอนฟิลด์ ทำให้ลิเวอร์พูล ไม่มีอะไรต้องเสียอีกนอกจากมาเปิดฉากลุยแหลกเพื่อเอาชนะ 3 ลูกขึ้นไปให้ได้ (หรืออย่างแย่ก็ 3-1 เท่าเดิม)
นอก จากนี้การที่ลูกทีมของ ราฟา ไม่มีเกมจะลงเล่นในเกมสุดสัปดาห์เนื่องจากตกรอบเอฟเอ คัพ ไปแล้ว ตรงข้ามกับเชลซี ที่ยังมีห่วงอยู่ในช่วงสุดสัปดาห์ในเกมเอฟเอ คัพ รอบตัดเชือก และยังอาจจะมีเหตุผลอีกเรื่องคือ การต้องการอุทิศชัยชนะให้แก่แฟนบอลที่เสียชีวิตถึง 96 คนจากเหตุโศกนาฏกรรมที่ฮิลส์โบโร่ห์ ด้วย
ด้วยเหตุนี้พี่หงส์เลยเล่นเหมือนคนลงแดงอย่างที่เห็น

และเป็นบุญตาของคนที่ได้ดูเกมระดับสุดยอดที่ถูกจัดเข้าทำเนียบเกมคลาสสิคของวงการฟุตบอลไปแล้ว!!!

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์