สิงโตน้ำเงินคราม เชลซี ไม่สามารถกดดันจ่าฝูง แมนฯยูไนเต็ด ได้ หลังทำศึกลอนดอนดาร์บี้ โดน ไก่เดือยทอง สเปอร์ส จิกพัง 0-1 จากประตูโทน ประตูชัยของ ลูก้า โมดริช แต่ยังรั้งอันดับสองของตารางอยู่ ในแมตช์พรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อวันเสาร์ที่ 21 มี.ค.ที่ผ่านมา
ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ
สเปอร์ส 1 - เชลซี 0
ลอนดอน ดาร์บี้แมตช์ที่ ไวท์ ฮาร์ท เลน สเปอร์ส เจ้าถิ่นปรับทัพตำแหน่งเดียวส่ง เวดราน ชอร์ลูก้า ลงยืนแบ็กขวาแทน ดีดิเย่ร์ โซโกร่า ส่วนแนวรุกยังใช้ ดาร์เรน เบนท์ จับคู่ ร็อบบี้ คีน เหมือนเดิม
ด้านทีมเยือน เชลซี ได้ ดีดิเย่ร์ ดร็อกบา หายเจ็บเข่า ฟิตทันลงสนามคู่ นิโกล่าส์ อเนลก้า ในแดนหน้า ส่วนแนวรับขาด ริคาร์โด้ คาร์วัลโญ่ ที่เจ็บ ทำให้ต้องส่ง อเล็กซ์ ลงเล่นแทน
อย่างไรก็ตาม เกมนี้ถูกเลื่อนออกไป 30 นาที เพราะมีข่าวเรื่องการวางระเบิดด้านนอกสนาม ขณะเดียวกัน ฟาบิโอ คาเปลโล่ ก็เข้ามาชมเกมนี้ด้วย
เริ่มเกมขึ้นมา เป็น เชลซี ที่ครองบอลบุกได้มากกว่า นาทีที่ 8 มิกาแอล เอสเซียง ทำชิ่งกับเพื่อนแล้วตะบันด้วยซ้ายระยะ 22 หลา เอเรลโญ่ โกเมส รับไม่อยู่มือ ชูเลียโน่ เบลเลตติ จะพุ่งเข้าซ้ำ แต่ โกเมส ยังคว้าเอาไว้ได้
ถัดจากนั้นนาทีเดียว ไก่เดือยทอง มีโอกาสลุ้นประตูบ้าง เจอร์เมน จีนัส เก็บบอลได้หน้าเขตโทษเยื้องไปทางขวา แล้วกดเปรี้ยงด้วยขวาเฉี่ยวคานออกไปนิดเดียว
แม้จะมีจังหวะครองบอลน้อยกว่า แต่ สเปอร์ส เกือบได้ประตูอีกครั้งในนาทีที่ 18 จากบอลยาว ดาร์เรน เบนท์ ขึ้นโหม่งเช็ด แล้วบอลกระเด้งข้ามตัว อเล็กซ์ ไปถึง ร็อบบี้ คีน ตามบอลเข้าไปกดด้วยซ้ายในเขตโทษ ปีเตอร์ เช็ก ต้องปัดออกหลัง
นาทีที่ 25 เจ้าบ้านน่าได้ประตูนำอีกครั้ง เวดราน ชอร์ลูก้า เติมขึ้นมาทางขวา แล้วไหลเรียดเข้ากลางให้ ร็อบบี้ คีน วิ่งเข้าแปเน้นๆ ไปตรงตัว เช็ก
สิงห์บลูส์ ก็กลับมามีเสียวอีกหนในนาทีที่ 33 นิโกล่าส์ อเนลก้า ได้ยิงด้วยเท้าขวาเล่นเสาแรก แต่ โกเมส ปัดออกหลังไปได้เช่นกัน จบครึ่งแรก สกอร์ยัง 0-0
กลับมาเล่นครึ่งหลัง โอกาสแรกเป็นของ ไก่เดือยทอง และก็เป็นประตูขึ้นนำ 1-0 ทันทีตั้งแต่นาทีที่ 50 อารอน เลนน่อน ลุยขึ้นมาทางกราบขวา แล้วเปิดเรียดมาที่กรอบเขตโทษให้ ลูก้า โมดริช แปด้วยขวาจังหวะเดียวส่งบอลเบียดเสาเข้าไปอย่างสุดสวย หมดสิทธิ์ป้องกันสำหรับ ปีเตอร์ เช็ก
พอได้ประตูนำ รูปเกมของเจ้าบ้านเริ่มดีขึ้นเรื่อยๆ นาทีที่ 57 ลูก้า โมดริช เตะมุมฝั่งซ้ายให้ เลดลี่ย์ คิง โหม่งเฉี่ยวกรอบออกไป
ถัดมา 2 นาที สเปอร์ส ได้โอกาสอีก ลูก้า โมดริช ได้ซัดในเขตโทษระยะ 12 หลา แต่คราวนี้ไม่ผ่านมือ ปีเตอร์ เช็ก
นาทีที่ 61 เชลซี ต้องส่ง ริคาร์โด้ กวาเรสม่า ลงมาเสริมเกมรุกแทน ชูเลียโน่ เบลเลตติ
เชลซี น่าได้ประตูตีเสมอเป็นอย่างยิ่งในนาทีที่ 78 จอห์น เทอร์รี่ เติมขึ้นมาโหม่งลูกฟรีคิกทางกราบขวา บอลจะเสียบเสาอยู่แล้ว แต่ โกเมส ปัดเอาไว้ได้ปลายนิ้ว
จบเกม สเปอร์ส เฉือนชนะ เชลซี ไปได้หวุดหวิด 1-0
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
สเปอร์ส : เอเรลโญ่ โกเมส, เวดราน ชอร์ลูก้า, เลดลี่ย์ คิง, โจนาธาน วู้ดเกต, เบอนัวต์ อัสซู-เอก็อตโต้, อารอน เลนน่อน, เจอร์เมน จีนัส, วิลสัน ปาลาซิออส, ลูก้า โมดริช, ร็อบบี้ คีน, ดาร์เรน เบนท์
สำรอง : คาร์โล คูดิชินี่, ดีดิเย่ร์ โซโกร่า, ไมเคิ่ล ดอว์สัน, ทอม ฮัดเดิลสตัน, เจมี่ โอฮาร่า, เดวิด เบนท์ลี่ย์, โรมัน พาฟลิวเชนโก้
เชลซี : ปีเตอร์ เช็ก, โชเซ่ โบซิงวา, อเล็กซ์, จอห์น เทอร์รี่, แอชลี่ย์ โคล, ชูเลียโน่ เบลเลตติ, มิชาเอล เอสเซียง, มิชาเอล บัลลัค, แฟร้งค์ แลมพาร์ด, นิโกล่าส์ อเนลก้า, ดีดิเย่ร์ ดร็อกบา
สำรอง : ฮิลาริโอ, บรานิสลาฟ อิวาโนวิช, ไมเคิ่ล มานเซียนน์, จอห์น โอบี มิเกล, ริคาร์โด้ กวาเรสม่า, ฟลอร็องต์ มาลูด้า, ฟรังโก้ ดิ ซานโต
ผู้ตัดสิน : ไมค์ ดีน
|
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
