เอสเซียงซัดโทนเชลซีคัมแบ็ครองฝูง

เอสเซียงซัดโทนเชลซีคัมแบ็ครองฝูง

เชลซี 1-0 แมนฯซิตี้

ประตู :
1-0 เอสเซียง น.17

ครึ่งแรก

นาทีที่ 14 เชลซีโชว์ทีมเวิร์และเซนส์บอลหลังทำชิ่งสั้นๆจังหวะเดียวไม่มีจับประมาณ 3-4 ทอดก่อนที่อเนลก้าจะไขว้หลังให้แลมพาร์ดหลุดเข้าเขตโทษแต่เจอริชาร์ดสเข้าถึงสไลด์เตะทิ้งทัน

แต่แล้วอีก 3 นาทีต่อมาเชลซีขึ้นนำจนได้และต้องบอกว่าแมนฯซิตี้หรือแฟนเชลซีเองก็งงเพราะแลมพ์รับอาสาเตะฟรีคิกเกือบ 40 หลาที่นักเตะเรือใบยังเดินมาตั้งกำแพงกันอยู่เลยแต่แนวรับทีมเยือนกลับปล่อยให้เอสเซียงยืนอยู่เลยกรอบเขตโทษเข้ามานิดนึงแบบไร้ตัวประกบทำให้แลมพ์รีบแทงให้แบบไม่ต้องคิดมากจนดาวเตะกาน่าวอลเลย์ตามน้ำบอลเฉือนข้างเท้าปลิ้นเข้าประตูแบบเชย์ กิฟเว่นยืนงงๆ อธิบายจังหวะนี้ยากต้องหาดูคลิปเอาเองแต่เป็นการฉวยโอกาสที่สุดยอดและต้องชมเอสเซียงว่ายิงเข้าไปได้อย่างไร

นาที 24 แมนฯซิตี้หวิดตีเสมอได้หลังโรบินโญ่แทงออกซ้ายให้บริดจ์เติมขึ้นมาก่อนตบกลับให้ไคเซโด้จับหนึ่งจังหวะและหมุนตัวยิงด้วยอีซ้ายบอลพุ่งถากเสาไกลออกไปแบบมีลุ้น

อีก 8 นาทีต่อมาอเนลก้าได้บอลหลุดทะลุเข้าเขตโทษก่อนเจอโอนูฮาทั้งรั้งทั้งเหนี่ยวแถมทิ้งตัวหวดข้อเท้าไม่ถูกบอลจนหอกเลสเบลอส์ล้มลงแต่ไมค์ ไรลีย์ไม่ว่าอะไร น่าได้จุดโทษจริงๆ

ก่อนหมดเวลา 9 นาทีบัลลัควิ่งมาแซะบอลจากด้านหลังไอร์แลนด์ก่อนดร็อกบาจะวิ่งมากระชากบอลเข้ากรอบเขตโทษแล้วดึงกองหลังมาสองคนก่อนตอกส้นสุดสวยให้บัลลัควิ่งมายิงแต่เจอบีบทำให้บอลเหินข้ามคานอย่างน่าเสียดาย ถ้าเข้าจะเป็นการประสานงานที่สวยสุดๆของไอ้แมลงสาบแน่นอน

เกมของเรือใบเหมือนไม่ได้ถึงกับโงหัวไม่ขึ้นเพราะเกมรุกก็ยังพอต่อบอลกันขึ้นมาได้เนื่องจากมีตัวเก็บบอลดีๆอย่างไรท์ ฟิลลิปส์,โรบินโญ่แต่ในจังหวะพื้นที่สำคัญต้องการความแน่นอนมากกว่านี้

ครึ่งหลัง

เล่นไปนาทีเศษๆเอสเซียงไหลบอลให้ดร็อกบาจับบอลหลุดเข้าเขตโทษแต่จังหวะกำลังจะยิงเน้นๆเจอการเสียบแบบแซนด์วิชของดันน์และโอนูฮาโดยฝ่ายหลังถูกบอลจริงแต่คนแรกนี่สอยข้อเท้าเต็มๆ ชวดโอกาสอย่างน่าเสียดาย

อีกนาทีเดียวเอสเซียงที่วันนี้เล่นดีเหลือเกินฝากบอลให้อเนลก้าพลิกหมุนตัวยิงนอกกรอบบอลผ่านมือกิฟเว่นหลุดข้างเสาสุดหวาดเสียว

นาที 52 เชลซีมาเรื่อยๆและดร็อกบายังเผาโอกาสต่อไปหลังโบซิงวาลากมาจากปีกขวาแล้วตัดเข้าในก่อนไหลตัดช่องให้ดร็อกบาสอดคู่มากับตัวประกบแต่ใช้ความใหญ่บังและแตะหนีก่อนสับยิงตรงมุมแคบฝั่งขวาซึ่งกิฟเว่นล้มตัวดักทางปัดเอาไว้ได้สุดสวย

อีกนาทีเดียวเอสเซียงทำชิ่ง 1-2 กับแลมพ์ก่อนที่แข้งพระจันทร์เดือนมืดจะกระชากแล้วส่องไกลบอลพุ่งเลียดถากเสาแบบน่าเข้าสุดๆ เอสเซียงเค้าสุดยอดจริงๆ!!

ทีมเยือนเริ่มดันเกมเพื่อตีเสมอมากขึ้นเรื่อยๆจนทำให้จังหวะสวนกลับต้องวิ่งกันเหนื่อยโดยเฉพาะไมคาห์ ริชาร์ดสกลับมาแทบไม่ทันเพราะเติมเกมรุกจนเพลิน

นาที 63 เชลซีน่าจะได้ลูกสองหลังเบลเลตติตัวสำรองรับบอลจากเอสเซียงตรงระยะ 30 หลาก่อนแต่งแล้วสับด้วยอีซ้ายบอลเลียดขนาดพื้นผ่านมือกิฟเว่นไปแล้วแต่ชนเสากระเด้งออกมาอย่างไม่น่าเชื่อ

แต่เอทูฮูลงมาไม่ถึง 10 วินาทีได้โอกาสส่องยิงหน้าเขตโทษบอลพุ่งถากเสาไกลออกไปแบบหวาดเสียวสุดๆ

เชลซีไม่ใช่ว่าไม่มีโอกาสแต่บอลไปป้วนเปี้ยนหน้าประตูจะได้ยิงก็ไม่ได้ยิงจนแฟนเสียวน้ำแฉะกันอย่างต่อเนื่อง

ก่อนหมดเวลา 4 นาทีโบซิงวาเปิดบอลจากปีกขวาเข้าในเป็นมาลูด้าจับลงแล้วล็อกหลอกจนโอนูฮาเสียหลักและยิงด้วยอีซ้ายผ่านกิฟเว่นไปแล้วแต่ดันน์เคลียร์ทิ้งบนเส้นเหลือเชื่อ

หมดเวลาเชลซีโอกาสมากมายแต่ทำเพิ่มไม่ได้ชนะหวุดหวิด 1-0 แซงลิเวอร์พูลกลับมายืนเป็นรองจ่าฝูงตามหลังแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดเหลือ 4 แต้มแต่เตะมากกว่าหนึ่งนัดส่วนเรือใบยังไม่ชนะใครนอกบ้านต่อไป 15 นัดโดยเกมสุดท้ายที่ชนะนอกบ้านคือถล่มซันเดอร์แลนด์ 3-0 ในช่วงสิ้นเดือนสิงหาคมปีที่แล้ว

รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม

เชลซี :
ปีเตอร์ เช็ก,โจเซ่ โบซิงวา,ริคาร์โด้ คาร์วัลโญ่,จอห์น เทอร์รี่,แอชลีย์ โคล,มิชาเอล บัลลัค,มิกาเอล เอสเซียง,แฟร็งค์ แลมพาร์ด,เดโก้(เบลเล็ตติ น.41),นิโกลาส์ อเนลก้า,ดิดิเยร์ ดร็อกบา(มาลูด้า น.71)

แมนฯซิตี้ : เชย์ กิฟเว่น,ไมคาห์ ริชาร์ดส,เนดุม โอนูฮา,ริชาร์ด ดันน์,เวย์น บริดจ์,ฌอน ไรท์ ฟิลลิปส์,สตีเฟ่น ไอร์แลนด์,ปาโบล ซาบาเลต้า,เอลาโน่ (เอทูฮู น.66),โรบินโญ่(โบยินอฟ น.81),เฟลิเป้ ไคเซโด้(อีแวนส์ น.55 )




























http://www.sportbox.tv/images/actionimages/football/2009/03/15/1237129499_spt_ai_chelseavmancity_22.jpg



 

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์