กุนซือคนใหม่ของสิงห์บลูค่ะ

บททดสอบแรกของ Mr.Fixer






กุส ฮิดดิ้งค์ ได้ชื่อว่าเป็นยอดกุนซืออมตะคนหนึ่งของวงการฟุตบอลเนื่องจากเป็นคนที่ประสบความสำเร็จในระดับสูงมาอย่างต่อเนื่อง และมีความพิเศษในตัวที่สามารถจะ ปั้น ทีมอะไรก็ได้ให้กลับมาเป็นยอดทีมอีกครั้ง
ผลงานที่ผ่านๆมา โดยเฉพาะในระยะหลังที่ไม่ว่าจะเป็นกับทีมชาติเกาหลีใต้, ทีมชาติออสเตรเลีย การปั้นพีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่น ให้เป็นทีมเบอร์หนึ่งของลีกดัตช์ (ทั้งที่ขายนักเตะตัวหลักกินทุกปี แถมยังทำงานควบกับคุมทีมจิงโจ้ด้วย)

ล่าสุดก็ไปเผชิญความท้าทายกับทีมชาติรัสเซีย และทำให้ทีมเข้าถึงรอบรองชนะเลิศยูโร 2008 ได้แบบไม่มีใครคาดฝัน ด้วยรูปแบบการเล่นที่ต้องบอกว่ามี สไตล์ โดยแท้


มันก็น่าจะพอการันตีให้เราได้ถึงความเอกอุของยอดกุนซือชาวดัตช์ ผู้ยืนยงผ่านกาลเวลามาไม่น้อยไปกว่าเซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน เสียเท่าไหร่


อย่างไรก็ดี กับงานใหม่ที่กำลังจะเริ่มต้นออกสตาร์ทอย่างจริงจังในวันพรุ่งนี้แล้วกับทีม สิงโตน้ำเงินคราม เชลซี งานของกุส ฮิดดิ้งค์ ก็ถือว่ายากไม่น้อย


ใช่ มันเป็นงานที่เข้าทางเพราะว่าเชลซี เวลานี้กำลังย่ำแย่มานาน ทีมเสียความสมดุล เสียความมั่นใจไปเยอะมากในช่วง 2-3 เดือนหลัง จากการที่หลุยส์ เฟลิเป้ สโคลารี่ ไม่สามารถจะ คุม ลูกทีมได้อยู่หมัด


งานที่โรมัน อบราโมวิช มอบหมายให้กับกุนซือในดวงใจที่เฝ้ารอคอยจังหวะกันมานานหลายปี ก็คือการชุบชีวิตเชลซี ให้กลับมามีโอกาสลุ้นแชมป์อีกครั้งให้ได้


หรืออย่างน้อยที่สุดก็ต้องไม่อยู่ต้อยต่ำกว่าทีมไม่รู้หัวนอนปลายเท้าอย่าง สิงห์ผยอง แอสตัน วิลล่า ที่นำหน้าอยู่ในเวลานี้อีก


อาจเป็นดวงสมพงษ์ เส้นชะตาฟ้าที่ลิขิตมาบังเอิญพอดีเหลือเกิน ที่เกมแรกของฮิดดิ้งค์ คือการบุกไปเยือนเจ้าสิงห์ผยอง (สมชื่อ) ตัวนี้ที่วิลล่า ปาร์ค พอดี


และแต้มต่อเวลานี้ก็เริ่มใกล้เคียงกัน เพราะวิลล่า หลุดฟอร์มมาใน 2 เกมหลังทั้งพ่ายยับต่อเอฟเวอร์ตัน และไล่ตามตีเสมอ ซีเอสเคเอ มอสโก ในเกมยูฟ่า คัพ เมื่อวันพุธ ซึ่งฮิดดิ้งค์ ก็ไปโผล่ในวิลล่า ปาร์ค ดูฟอร์มว่าที่คู่แข่งเกมแรกด้วยตาตัวเอง โดยมีโรมัน อบราโมวิช นั่งเคียงข้างแสดงให้เห็นถึงสายสัมพันธ์แนบแน่น ที่ยืนยันได้ว่าจะไม่มีการดัดหลัง หักหลังเหมือนที่อัฟราม แกรนท์ หรือสโคลารี่โดน


ทั้งนี้กล่าวได้เลยว่าโจทย์แรกของกุนซือชาวดัตช์คนนี้ สำคัญมากถึงขั้นที่อาจตัดสินเส้นทางของเชลซี ในช่วงที่เหลือของฤดูกาลนี้ได้เลยว่าจะกลับมามีความหวังหรือไม่


ถ้าชนะโมเมนตัมทุกอย่างจะกลับมาเข้าทางเขาทันที ฮิดดิ้งค์ ผู้เป็นพ่อมดนักชุบชีวิตก็จะเป็นชื่อที่โจษขานอีกครั้งอย่างรวดเร็วในหมู่แฟนบอลและวงการสื่อมวลชน


เมื่อทุกอย่างเข้าทาง กลไกลในการสร้างความเปลี่ยนแปลงก็ไม่ยาก เชลซี มีศักยภาพพอที่จะสู้กับทีมไหนก็ได้อยู่แล้ว


แต่ถ้าพลาดท่าถึงขั้นปราชัยต่อทีมของมาร์ติน โอนีล ขึ้นมา ฮิดดิ้งค์ จะต้องเผชิญกับเครื่องหมายคำถามตัวโต ซึ่งจะลามไปถึงปมปัญหาภายในทีมที่พร้อมจะโดนสื่อขุดมาเล่นงานกันไม่หยุดหย่อน


จุดที่น่าเป็นห่วงสำหรับเชลซี เวลานี้อยู่ที่ความเป็น อมตะ ของเกมรับที่เคยมี มันหายไปไหนหมดไม่ทราบได้


กำแพงสีน้ำเงินที่เคยตั้งตระหง่านไล่ตั้งแต่ไลน์แบ็กโฟร์ที่นำโดยราชาสิงห์ จอห์น เทอร์รี่ ไปจนถึงทวารบาล ปีเตอร์ เช็ก มีรอยร้าวให้เห็นบ่อยๆ และหลายครั้งเป็นความผิดพลาดที่เห็นแล้วไม่น่าเชื่อว่าจะใช่แนวรับชุดเดียวกับที่เสียประตูยากเย็นเหลือเกินในช่วง 3-4 ฤดูกาลก่อน


มันอาจเป็นเพราะในฤดูกาลนี้พวกเขาขาดควายธนูที่พร้อมไล่ขวิดคู่แข่งไม่ให้ย่างกรายเข้ามาอย่าง มิชาแอล เอสเซียง ที่ได้รับบาดเจ็บตั้งแต่ต้นฤดูกาล


และนาทีนี้ต่อให้ มิเคล จะเล่นได้เนียนตาแค่ไหน ใครบ้างที่จะไม่คิดถึง คนแบกน้ำ อย่าง โคล้ด มาเกเลเล่


จุดนี้น่าสงสัยว่าฮิดดิ้งค์ จะแก้ไขได้อย่างไร เพราะเรารู้กันว่ายอดกุนซือชาวดัตช์คนนี้เป็นโค้ชที่ถนัดในเรื่องของเกมรุกมากกว่าศาสตร์ในการเล่นเกมรับ ตามประสาคนที่มาจากชาติที่เล่นฟุตบอลสวยงามอย่างฮอลแลนด์


ทีมชาติรัสเซีย เป็นทีมที่เล่นฟุตบอลได้น่าตื่นตาตื่นใจที่สุดในยูโร 2008 แต่ก็มีเกมรับที่แย่เกือบที่สุดในรายการด้วยเช่นกัน


แต่ถ้ามองย้อนกลับไปที่ผลงานกับทีมชาติออสเตรเลีย อาจจะพอทำเนาได้เหมือนกัน เพราะในฟุตบอลโลก 2006 ทีมซอคเกอรูส์ ก็เหนียวแน่นหนึบทีมหนึ่ง เพียงแต่มันเป็นเพราะปัจจัยในทีมที่ไม่เอื้อให้พวกเขาเล่นแบบตระการตานัก


ไหนจะเรื่องปัญหาของพลังทำลายล้างในเกมรุกที่ระยะหลังมันเสื่อมลงไปมาก โดยเฉพาะพวกขิงแก่อย่าง ดร็อกบา, บัลลัค และน้องใหม่แต่หัวใกล้หงอกอย่างเดโก้


ตัวตลกในสายตาแฟนบอลอย่าง ฟลอร็องต์ มาลูด้า อีกเล่า จะทำอย่างไรให้กลับมาเล่นในฟอร์มเดียวกับที่เคยเล่นให้โอลิมปิก ลียง จนเป็นดาวเด่นในวงการฟุตบอลยุโรป


สรุปแล้วฮิดดิ้งค์ มีอะไรต้องปรับจูนแก้ในเกือบทุกจุด ด้วยทรัพยากรที่มีจำกัดเพราะเข้ามารับงานหลังตลาดการซื้อขายผู้เล่นปิดทำการไปแล้ว


นายช่างใหญ่ประสบการณ์สูงอย่างเขาจะรับมือไหวหรือเปล่า ก็น่าลุ้นดู เพราะเวลานี้เชลซี ยังเหลือลุ้นแชมป์อีกทั้ง 3 รายการคือพรีเมียร์ลีก (แบบห่างๆ), ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก และเอฟเอ คัพ


ถ้าทำได้ .... อย่าว่าแต่ให้ล้านนึงเลย


อะไรก็ได้ เสี่ยหมีพร้อมประเคนให้อยู่แล้ว!



ที่มา: msn.ฟุตบอล

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์