เหลือเชื่อ!5นาที2ลูกเชลซีพลิกซิวสโต๊ค

เหลือเชื่อ!5นาที2ลูกเชลซีพลิกซิวสโต๊ค

 

หลุยส์ เฟลิเป้ สโคลารี่รอดตายอย่างเหลือเชื่อเมื่อเชลซีจากที่กำลังจะแพ้คาบ้านและรอถูกสื่อสับเละเทะพลิกสถานการณ์เอาชนะสโต๊คที่มายิงขึ้นนำก่อนโดยมาได้ 2 ประตูจากเบลเล็ตตินาที 89 และแลมพาร์ดนาที 90+4 ทำให้ยังตามหลังจ่าฝูงแมนฯยูแต้มเดียวต่อไป

บรรยายเกมโดยลูกแม่กิ่ง

เชลซี 2-1 สโต๊ค ซิตี้

สนาม :
สแตมฟอร์ด บริดจ์

ประตู : 0-1 รอรี่ ดีแลป น.60, 1-1 ชูเลียโน่ เบลเล็ตติ น.88, 2-1 แฟรงค์ แลมพาร์ด น.90+4

ผู้ชม : 41,788 คน

เกมออกสตาร์ตมาเป็นเป็นทางเชลซี ที่ครองบอลและเปิดเกมรุกได้ดีกว่าตามความคาดหมาย เพียงแต่โอกาสยิงประปรายที่มีมาเรื่อยๆของนักเตะเจ้าถิ่นนั้นไม่ได้มาตรฐานเท่าที่ควร ทำให้บุกยังไงยิงยังไงก็ไม่ผ่านโธมัส โซเรนเซ่น เสียที ร้ายกว่านั้นยิงติดบล็อกแนวรับก็มีอีกเยอะ

อาการตื้อตันยังมีเรื่อยๆ ถึงนาที่ 27 เชลซี ก็หวังจะได้มือที่สามอย่างผู้ตัดสินเป่าช่วยให้ได้จุดโทษในจังหวะที่คาลู โดนชอว์ครอสส์ ปะทะในเขตโทษแต่ปีเตอร์ วอลตัน ยังไม่มองว่าเป็นจังหวะฟาวล์ที่จะแจ้งก็เลยไม่ได้

อย่างไรก็ดี เชลซี ก็ยังเป็นฝ่ายบุกต่อไปและเริ่มมาทำได้ดีเอาในช่วงท้ายครึ่งแรก โดยมีทั้งโอกาสของแลมพาร์ด และโคลก็โดนเซฟได้หมด ทำให้จบครึ่งแรกสกอร์ยังหยุดนิ่งที่ 0-0 ท่ามกลางแฟนบอลเจ้าถิ่นที่เริ่มเซ็ง 

ครึ่งหลังยังไม่มีอะไรดีขึ้นเลยสำหรับเชลซี เพราะขนาดมีโอกาสแจ่มแจ๋วเมื่อบัลลัค ได้บอลครอสมาโล่งๆที่หน้าปากประตูแต่ก็ยังโขกหลุดกรอบออกไปแบบแทบไม่น่าเชื่อว่าระดับกัปตันทีมชาติเยอรมันที่เคยเล่นลูกแบบนี้เหมือนขนมจะพลาดได้

เท่านั้นไม่พอ ฟ้ายังมาผ่ากลางสแตมฟอร์ด บริดจ์ อีกในนาทีที่ 60 เมื่อโดนทีเด็ดเกมโต้กลับของสโต๊ค เล่นงานอย่างจังเมื่อ บีทตี้ พักอกเอาบอลลงก่อนจะเห็นดีแลป วิ่งแลบเติมมาพอดีเลยใส่พานให้จอมทุ่มมิสไซล์โชว์ให้เห็นว่าไม่ใช่แค่ทุ่มเป็น แต่ชิพนิ่มๆผ่านปีเตอร์ เช็ก แบบเหนือชั้นก็เป็นด้วยเหมือนกัน

สโต๊ค ได้ประตู 1-0 ที่เหนือความคาดหมาย ทำให้สถานการณ์บีบให้เชลซี ต้องตบเกียร์สูงเดินหน้าเต็มสูบ ซึ่งทางด้านสโคลารี่ ก็ทยอยส่งตัวรุกลงมามากขึ้นเรื่อยๆไม่ว่าจะเป็นฟรังโก้ ดิ ซานโต้, เบลเล็ตติ หรือมิโรสลาฟ สตอช เพียงแต่ดูเหมือนวันนี้จะไม่มีโชคเข้าข้างเพราะบุกเท่าไหร่ ยิงเท่าไหร่ก็ไม่เข้าซักทีจนท้อ

เข้าท้ายเกมแฟนบอลเชลซี บางรายเริ่มกลับบ้านด้วยอาการเซ็ง แต่สุภาษิตความพยายามอยู่ที่ไหนความสำเร็จอยู่นั่นก็มาพิสูจน์ความอมตะให้เห็นอีกครั้งในช่วงท้ายนี่เอง และแฟนบอลที่จงรักภักดีอยู่เชียร์จนจบก็ได้รางวัลตอบแทนที่ชื่นหัวใจจนได้

จุดพลิกผันสำคัญอยู่ที่ประตูตีเสมอ 1-1 ของเบลเล็ตติ ที่ได้ในนาทีที่ 88 เมื่อได้ลูกโขกชงมาจากดิ ซานโต้ ก่อนที่จะโขกสะบัดเข้าไปให้เชลซี ไล่ตีเสมอสำเร็จ ก่อนที่ชาวสิงห์ไฮโซทั้งหลายจะไล่ล่าอย่างบ้าคลั่งเอาประตูชัยให้ได้

และซีนสุดโรแมนติกก็มาถึงในช่วงทดเวลาบาดเจ็บนาทีที่ 4 เมื่อเชลซี บอมบ์เข้าไปในเขตโทษ ลูกมาเข้าทางอเนลก้า ยิงไม่ค่อยดีนักไปติดบล็อกของสโต๊คด้วย แต่ลูกก็มาเข้าทางแลมพาร์ด สวมวิญญาณไอ้ตีนโตกระหน่ำเต็มเท้าซ้าย บอลพุ่งเสียบตาข่ายแบบที่โซเรนเซ่น ไม่ต้องเซฟ ทำให้ สิงโตพันล้าน กลับมาแซงชนะ 2-1 ได้ราวปาฏิหาริย์และแซงแอสตัน วิลลา กลับมายืนที่ 3 ได้อีกครั้ง ไล่จี้ลิเวอร์พูลเหลือแค่แต้มเดียวด้วย

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม/คะแนนความสามารถ

เชลซี :
ปีเตอร์ เช็ก 5, โฮเซ่ โบซิงวา 5 (เบลเล็ตติ น.78 7) , ริคาร์โด้ คาร์วัลโญ่ 5, อเล็กซ์ 4, แอชลี่ย์ โคล 6, แฟรงค์ แลมพาร์ด 8*, จอห์น โอบิ มิเกล 6 (มิโรสลาฟ สตอช น.82 6) , มิชาเอล บัลลัค 5, ฟลอร็องต์ มาลูด้า 6 (ฟรังโก้ ดิ ซานโต้ น.60 7) , นิโกล่าส์ อเนลก้า 6, ซาโลมอน คาลู 7

สำรองไม่ได้ลงสนาม : คาร์โล คูดิชินี่, บรานิสลาฟ อิวาโนวิช, ไมเคิล แมนเซียนน์, กาแอล กากูต้า

ใบเหลือง : -

สโต๊ค : โธมัส โซเรนเซ่น 7, แอนดี้ วิลกินสัน 7, อับดุลลาย ฟาย 7, ไรอัน ชอว์ครอสส์ 7, แดนนี่ ฮิกกิ้นบอแธม 5 (แอนดี้ กริฟฟิน น.34 5), รอรี่ ดีแล็ป 6, เกล็นน์ วีแลน 6, ออมดี้ ฟาย 5 (แดนนี่ พิวจ์ น.28 5), แมตธิว เอเธอริงตัน 6(เดฟ คิตสัน น.83 5) , เจมส์ บีทตี้ 6, ริชาร์ด เครสเวลล์ 6

สำรองไม่ได้ลงสนาม : สตีฟ ซิมอนเซ่น, เซยี่ โอโลฟินยาน่า, เลียม ลอว์เรนซ์, อิบราฮิมา ซองโก้

ใบเหลือง : ฟาย น.15, คิตสัน น.89, วีแลน น.90

ผู้ตัดสิน : ปีเตอร์ วอลตัน




































 

ขอขอบคุณเนื้อข่าวคุณภาพดีโดย  lentee

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์