สิงห์บลูส์สิบคนเปิดบ้านตะปบค้อน 4-1 ทิ้งผี 10 แต้ม

โดย ผู้จัดการออนไลน์ 9 เมษายน 2549 20:05 น.

สิงห์บลูส์ เชลซี แม้จะโดนนำไปก่อนและก็เหลือผู้เล่นเพียงแค่ 10 คนตั้งแต่ต้นเกม แต่สุดท้ายแล้วพลิกกลับมาไล่ตะปบ ขุนค้อน เวสต์แฮม ยูไนเต็ด 4-1 พร้อมกับทิ้งห่าง ผีแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เป็น 10 แต้ม ในการชิงชัยของศึกพรีเมียร์ชิพ อังกฤษ

ศึกฟุตบอลพรีเมียร์ชิพ อังกฤษ เกมลอนดอน ดาร์บี้แมตช์
เชลซี 4-1 เวสต์แฮม ยูไนเต็ด

โฮเซ่ มูรินโญ่ กุนซือชาวโปรตุกีส ปรับหมากใหม่ให้ลูกทีมโดยถอดผู้เล่นปีกธรรมชาติออกทั้งหมดพร้อมกับอัดกองกลางลงไปแน่นเติม มานิเช่ ริเบโร่ ไปช่วยงาน โคล้ด มาเกเลเล่ และมิคาเอล เอสเซียง ส่วน แฟร้งค์ แลมพาร์ด รับบทบาทจอมทัพคอยทำเกมให้คู่หน้า ดิดิเย่ร์ ดร็อกบา และเฮอร์นัน เครสโป

ด้าน อลัน พาร์ดิว มีปัญหาเพียงจุดเดียวในการจัดทัพให้เวสต์แฮมเมื่อ แอนตัน เฟอร์ดินานด์ ปราการหลังตัวหลักยังมีปัญหาบาดเจ็บทำให้ เจมส์ คอลลินส์ ยังต้องยืนคู่กับ แดนนี่ แก๊บบิดอน ในเกมรุกทางกราบ ยอสซี่ เบนายูน และแม็ทธิว เอเธอร์ริงตัน คอยทำเกมให้ ดีน แอชตัน และมาร์ลอน แฮร์วู้ด คอยลุ้นไล่ล่าตาข่าย

เริ่มเกมการแข่งขัน เชลซี เปิดฉากอย่างดุดันพาบอลเข้าไปกดดันหน้าปากประตู เวสต์แฮม หลายครั้ง แต่จังหวะบุกครั้งแรกเป็นของ เวสต์แฮม ก็ส่งพวกเขาขึ้นนำ 1-0 ในนาทีที่ 10 จากลูกเตะมุมทางด้านขวาของ เบนายูน เปิดมาที่เสาแรก คอลลินส์ วิ่งฉีกตัวประกบมาขวิดเสียบเสาแรกสวยงาม สถานการณ์ของเจ้าบ้านย่ำแย่ลงไปอีกเมื่อต้องเหลือ 10 คนในอีกเจ็ดนาทีถัดมาเมื่อ มานิเช่ ไปจงใจย่ำใส่ สกาโลนี่ ในจังหวะปั๊มบอล คริส ฟอย ผู้ตัดสินไม่รอช้าควักใบแดงไล่ออกจากสนามไป

แม้จะเสียบเปรียบเรื่องตัวผู้เล่นแต่จังหวะเปิดยาวของ แลมพาร์ด ก็นำมาสู่ประตูตีเสมอ 1-1 ในนาทีที่ 29 เมื่อ ดิดิเย่ร์ ดร็อกบา รับบอลได้ก่อนฉีกหนีตัวประกบพาบอลเข้าไปยิงครั้งแรกติด คอลลินส์ บอลเด้งกลับมาเข้าทางกองหน้าทีมชาติไอวอรี่โคสต์ยิงซ้ำอีกดาบ แก็บบิดอน พยายามสกัดจากเส้นแต่บอลยังปลิ้นเข้าไปในตาข่าย

เชลซี ยิ่งเล่นยิ่งได้ใจนาทีที่ 31 กองหลัง เวสต์แฮม เคลียร์บอลไม่ขาดมาเข้าทาง ดร็อกบา ทางด้านขวาก่อนพลิกกึ่งยิงกึ่งผ่านไปหน้าประตู เวสต์แฮม กองหลังสกัดบอลโดนไม่เต็มไปเข้าทาง เครสโป แปจ่อๆ แค่ 6 หลาไม่มีเหลือส่งเจ้าบ้านแซงนำ 2-1 ก่อนหมดเวลา 3 นาที เชลซี เกือบหนีห่างไปอีกในจังหวะโต้กลับ เฌเรมี่ เปิดบอลจากกราบขวาไปหยอดที่อก ดร็อกบา แต่พักแรงเกินไปๆ เข้ามือ ฮิสล็อป หมดครึ่งแรกเจ้าถิ่นยังรักษาสกอร์นำไว้ได้

เปิดฉากครึ่งหลังแฟนๆ เจ้าถิ่นเสียบวูบไปเหมือนกันเมื่อ เอเธอร์ริงตัน กระชากจากกราบซ้ายตัดเข้าเขตโทษแต่โดน เฌเรมี่ ใช้มือเหนี่ยวรั้งไว้จนคว่ำลงไปแต่ไม่มีนกหวีดดังขึ้นแต่อย่างใด ในจังหวะถัดมากลายเป็นเชลซีทะยานนำห่างเป็น 3-1 เมื่อกัลลาส์ ยิงบอลไปชนคานกระเด้งมาเข้าทาง เทอร์รี่ เอี้ยวตัววอลเล่ย์เข้าไปในนาทีที่ 54 ผ่านหนึ่งชั่วโมงทีมเยือนเกือบจะไล่หลังแต่ลูกโหม่งของ แฮร์วู้ด หลุดเสาออกไป

ทีมเยือนยิ่งเล่นยิ่งเละแผงเกมรับเคลียร์บอลกันไม่ขาดทำให้ ดร็อกบา ได้โขกเช็ดต่อไปให้ กัลลาส์ จิ้มบอลเข้าไปนิ่มๆ ส่งเชลซีนำห่างเป็น 4-1 ในนาทีที่ 69 เกมเริ่มจะลดความตื่นเต้นลงไปเนื่องจากสกอร์ขาดลอยไปแล้วแต่ในช่วงท้าย เวสต์แฮม เกือบจะได้ประตูไล่คืนมาเมื่อ เท็ดดี้ เชอริงแฮม ตัวสำรองได้ยิงแต่โดน กัลลาส์ เคลียร์ออกมาจากเส้นได้หวุดหวิด ครบ 90 นาทีเชลซีเก็บชัยชนะได้อย่างสวยหรูมีเพิ่มเป็น 82 คะแนนจากการลงสนาม 33 นัด นำห่าง แมนฯ ยูไนเต็ด รองจ่าฝูงเป็น 10 แต้มแต่ลงแข่งมากกว่าหนึ่งนัด

รายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริงของทั้งสองทีม
เชลซี : ปีเตอร์ เช็ก , เฌเรมี่ เอ็นจิตั๊ป , จอห์น เทอร์รี่ , วิลเลี่ยมส์ กัลลาส์ , อาเซียร์ เดล ออร์โน่ , มิคาเอล เอสเซียง , มานิเช่ ริเบโร่ , โคล้ด มาเกเลเล่ , แฟร้งค์ แลมพาร์ด , ดิดิเย่ร์ ดร็อกบา , เฮอร์นัน เครสโป

เวสต์แฮม : ชาก้า ฮิสล็อป , ลิโอเนล สกาโลนี่ , เจมส์ คอลลินส์ , แดนนี่ แก๊บบิดอน , พอล คอนเชสกี้ , ยอสซี่ เบนายูน , เฮย์เด้น มุลลินส์ , ไนเจล รีโอ-โคเกอร์ , แม็ทธิว เอเธอร์ริงตัน , ดีน แอชตัน , มาร์ลอน แฮร์วู้ด

ส่วนผลการแข่งขันอีกคู่หนึ่งในช่วงเดียวกันปรากฎว่า แอสตัน วิลล่า เปิดบ้านเสมอ เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยนส์ 0-0 ในเกมมิดแลนด์ ดาร์บี้แมตช์