เดอะค็อปเฮกันลั่นเมืองหลังฟูแล่มสู้ตายมาตีเสมอเชลซีที่กำลังจะแบก 3 แต้มออกคราเวน คอทเทจมะรอมมะร่อจากลูกโขกนาที 90 ของคลินตัน เดมพ์ซีย์จบเกมเสมอสุดระทึก 2-2 ทำให้ลูกทีมหลุยส์ เฟลิเป้ สโคลารี่ตามหลัง"จ่าฝูง"ลิเวอร์พูล 3 แต้มเรียบร้อยแล้ว
ฟูแล่ม 2-2 เชลซี
ประตู : 1-0 เดมพ์ซี่ย์ น.10,1-1 แลมพาร์ด น.50,1-2 แลมพาร์ด น.73,2-2 เดมพ์ซี่ย์ น.90
หลุยส์ เฟลิเป้ สโคลารี่กุนซือหนวดจิ๋มปรับเปลี่ยนแท็คติกส์ในเกมนี้ด้วยการดร็อกนิโกลาส์ อเนลก้านั่งสำรองและส่งดิดิเยร์ ดร็อกบาเล่นหน้าเดี่ยวและยัดเอาเดโก้มาเล่นกลางอีกครั้ง
เกมเริ่มขึ้นมาเป็นเชลซีที่พาบอลมานวดเข้าใส่เพราะรู้ผลก่อนแล้วว่าลิเวอร์พูลชนะนิวคาสเซิ่ลกระจาย 5-1 และแค่ 5 นาทีแลมพาร์ดยิงไกล 25 หลาหลังเห็นไม่มีใครเข้าแต่ไปตรงตัวซวาเซอร์ที่รับเข้าซองปิดผนึกสบายๆ
อีก 3 นาทีต่อมาทีมเยือนได้เสียวอีกเมื่อมาลูด้าแทงบอลด้วยข้างเท้าตรงระยะ 25 หลาให้ดร็อกบาวิ่งตัดหลังเข้าเขตโทษแต่ตอนยิงด้วยอีซ้ายบอลหักไม่พอเข้าข้างตาข่ายซะงั้น
แต่แล้วโอกาสแรกของฟูแล่มเป็นประตูขึ้นนำในนาทีที่ 10 จากจังหวะเปิดฟรีคิกทางกรายซ้ายของไซมอน เดวี่ส์ซึ่งพุ่งเลยทุกคนในกรอบจนมาถึงเดมพ์ซี่พักอกตรงข้างเสาแล้วตวัดยิงแบบดีดบอลผ่านตัวจอห์น โอบี มิเกลที่ถลำตั้งแต่จังหวะแรกบนเส้นเข้าประตูง่ายๆ และเป็นประตูโอเพ่นเพลย์ที่เชลซีเสียนอกบ้านลูกแรกหลังเจอโรบินโญ่ปั่นฟรีคิกในนัดเปิดสนามเลยทีเดียว
นาที 18 เชลซีน่าจะตีเสมอสุดๆหลังรับบอลจากเพื่อนในกรอบพร้อมกับหันหลังพิงและพลิกยิงตรงระยะ 6 หลาบอลทะลุซวาเซอร์แต่ผ่านออกเสาสองแบบน่าเข้าสุดๆ
กองหลังเจ้าสัวน้อยซึ่งเสียประตูน้อยที่สุดรองจากบิ๊กทรีช่วยกันเคลียร์ทิ้งพัลวันเพราะช่วงนี้เชลซีบุกยำอย่างหนัก
นาที 30 มาลูด้าได้รับบาดเจ็บเล่นต่อไม่ไหวทำให้หลุยส์ เฟลิเป้ สโคลารี่เปลี่ยนเอานิโกลาส์ อเนลก้ามาแทนและลงมาโดนบอลครั้งแรกนิโก้เมื่อกระชากตรงหน้าเขตโทษก่อนตะบันยิง 25 หลาบอลพุ่งเป็นจรวดและแม้ตรงตัวซวาเซอร์แต่ด้วยความแรงทำให้ซองแตกต้องให้เพื่อนมาช่วยเคลียร์ทิ้งจังหวะสองอีกที
ก่อนหมดเวลา 10 นาทีฟูแล่มที่นานๆมาทีเกือบนำ 2-0 จากจังหวะที่แอชลีย์ โคลทำเสียบอลจนถูกฉกก่อนที่เมอร์ฟี่ย์จะแทงทะลุช่องให้ซาโมร่าหลุดเข้ากรอบเขตโทษด้านข้างแต่ตอนตบบอลเข้าในให้เพื่อนปีเตอร์ เช็กอ่านทางล้มตัวรับติดหนึบ
ทีมเยือนอาการชักแย่เพราะอเล็กซ์มาเจ็บอีกคนทำให้ริคาร์โด้ คาร์วัลโญ่ที่เพิ่งหายกลับมาลงแทน ยังไม่หมดครึ่งแรกเชลซีต้องเปลี่ยนแล้วถึงสองคน
นาที 39 โบซิงวาไหลบอลให้แลมพ์ยิงตรงหัวกระโหลกบอลแฉลบแดนนี่ เมอร์ฟี่ย์อดีตเด็กหงส์ที่วิ่งมาบล็อกก่อนหลุดเสาออกหลังแบบได้เสียว ตอนนี้เจ้าถิ่นหันไปรับกันเต็มตัวหมายรักษาสกอร์นำให้จบครึ่งแรกให้ได้
ก่อนหมดเวลานาทีเดียวแลมพาร์ดหาโอกาสพลิกบอลยิงเต็มข้อบนเส้นเขตโทษแต่ซวาเซอร์ยืนตำแหน่งดีชกบอลออกหลังสุดยอด หมดครึ่งแรกฟูแล่มพลิกล็อกนำอยู่ 1-0
ครึ่งหลังเริ่มมมาแค่ 5 นาทีเชลซีตีเสมอจากลูกส้มหล่นเมื่อเดโก้วางบอลยาวเข้าเขตโทษเป็นแอรอน ฮิวจส์ที่ถึงก่อนดร็อกบาแต่ไปชนกับซวาเซอร์ทำให้บอลมาเข้าทางแลมพาร์ดแปโล่งๆเข้าไป เชลซีเสมอแล้ว 1-1
พอตีเสมอเชลซีมาเป็นชุดและดร็อกบาใช้ความเร็ววิ่งดูดบอลที่แลมพ์วางยาวตั้งแต่แดนตัวเองลงอย่างเหนือชั้นแต่จังหวะยิงด้วยอีซ้ายบอลข้ามคานออกไปอย่างน่าเสียดาย
ช่วงนี้ฟูแล่มโงหัวไม่ขึ้นถูกขึงเกมอยู่ข้างเดียวและถ้าเป็นแบบนี้ไปเรื่อยๆก็เท่ากับรอโดนยิงอย่างเดียวเพราะเกมรุกของเชลซีมาแต่ละครั้งได้จบตลอด
นาที 65 โจ โคลหลุดเข้าเขตโทษก่อนยิงแบบดีดๆแต่ดันไปตรงตัวซวาเซอร์ที่โน้มรับเข้าซองอีก
และอีกไม่ถึงนาทีโจ โคลคนเดิมวิ่งหนีกับดักล้ำหน้าจากลูกวางยาวตรงกลางสนามของโบซิงวาแต่อดีตแข้งเวสต์แฮมยิงบอลเลียดไปตรงตัวซวาเซอร์ที่ล้มตัวปัดก่อนบอลกระฉอกจนต้องลุกมาปัดทิ้งอีกรอบก่อนที่อเนลก้าจะมาซ้ำ
จากนั้นเกมเปิดแรกกันสนุกจอห์น พันต์ซิลสบโอกาสตะบันวอลเลย์ด้วยอีซ้ายนอกกรอบบอลหลุดข้างสนามชนิดที่เช็กต้องวิ่งโถมมาสไลด์วัดระยะเลยทีเดียว
แต่แล้วนาที 73 เชลซีแซงขึ้นนำจนได้จากฟรีคิกไกล 25 หลาบอลทะลุกำแพงตรงช่องว่างที่แตกออกบอลพุ่งเสียบมุมเข้าไปอย่างสุดเทพ เชลซีนำ 2-1
อย่างไรก็ตามนาทีสุดท้ายฟูแล่มมาตีเสมอสุดช็อกจากลูกเตะมุมครั้งแรกของเกมนี้เป็นเดมพ์ซี่ย์โถมโขกบอลเสียบมุมชนิดที่เช็กได้แต่เซฟด้วยสายตาเท่านั้น ไม่น่าเชื่อว่าฟูแล่มจะตีเสมอได้เพราะรูปเกมในครึ่งหลังเป็นรองเห็นๆ
แต่เกมนี้เกือบมีประตูอย่างรวดเร็วเมื่อเชลซีบ้าเลือดบุกมาทันทีและน่าจะขึ้นนำจากลูกที่แอชลีย์ โคลวิ่งมตะบันเต็มข้อด้วยอีซ้ายตรงริมกรอบโทษแต่ซวาเซอร์ล้มตัวปัดก่อนที่แลมพาร์ดวิ่งมาซ้ำจ่อๆแต่ติดบล็อกกองหลังฟูแล่มเหลือเชือ หมดเวลา เชลซีพลาดท่าได้แค่เสมอส่งผลทำให้ตามหลังลิเวอร์พูลถึง 3 แต้มส่วนฟูแล่มรักษาสถิติแพ้ในบ้านแค่นัดเดียวต่อไป
รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม
ฟูแล่ม : มาร์ค ซวาเซอร์ 6,จอห์น พันต์ซิล 6,เบรเด้ ฮาเกแลนด์ 6,อารอน ฮิวจส์ 6,พอล คอนเชสกี้ 5,ไซมอน เดวี่ส์ 6,ดิคสัน เอตูฮู 6(อันเดรเซ่น น.78,5),แดนนี่ เมอร์ฟีย์ 6(แบรด์ น.90),คลินตัน เดมพ์ซี่ย์ 7,แอนดี้ จอห์นสัน 6,บ็อบบี้ ซาโมร่า 5(เนฟแลนด์ น.78,5)
เชลซี : ปีเตอร์ เช็ก 6,โจเซ่ โบซิงวา 6 
,บรานิสลาฟ อิวาโนวิช 6,อเล็กซ์ 5(คาร์วัลโญ่ น.37),แอชลีย์ โคล,เดโก้ 5 ,จอห์น โอบี มิเกล 6,แฟร็งค์ แลมพาร์ด 8*,โจ โคล 5(กาลู น.72,5),ดิดิเยร์ ดร็อกบา 6 ,ฟลอร็องต์ มาลูด้า 5(อเนลก้า น.30,6) 
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: lentee
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
