เรื่อยๆมาเรียงๆแต่ฮ็อตเหลือร้ายสำหรับนิโกลาส์ อเนลก้าเมื่อรับสัมปะทานเหมาสองประตูทำสถิติยิง 6 ลูกใน 3 นัดพาเชลซีบุกเอาชนะแบล็คเบิร์นในสภาพสนามน้ำขังสบายๆ 2-0 ทวงจ่าฝูงจากลิเวอร์พูลทันควัน
บรรยายเกมโดยนาฬิกาทราย
แบล็คเบิร์น 0-2 เชลซี
สนาม : อีวู้ด พาร์ค
ประตู : 1-0 นิโกลาส์ อเนลก้า น.39 ,2-0 นิโกลาส์ อเนลก้า น.68
สภาพอากาศ : ฝนตกสนามมีน้ำขัง
ผู้ชม : 20,670
เชลซียังคงไม่มีดิดิเยร์ ดร็อกบา กับแอชลีย์ โคลที่ได้รับบาดเจ็บอยู่ ในขณะที่โจ โคลมาบาดเจ็บกะทันหันชวดลงสนามไปอีก อย่างไรก็ตามชุดผู้เล่นของทีมสิงห์ไฮโซก็ยังน่ากลัวไม่ใช่น้อยทีเดียว
ทางด้านแบล็คเบิร์น เจ้าถิ่นกะไม่คิดจะบุกเลย โดยวางหมาก 4-5-1 และห้อยเจสัน โรเบิร์ตสไว้คนเดียว เพื่อเล่นเกมโต้กลับเร็ว
ก่อนเกมเริ่มในวันนี้มีการไว้อาลัย 1 นาทีเนื่องในวันรำลึกถึงทหารผ่านศึกที่เสียชีวิตระหว่างสงครามโลก หรือในชื่อของวัน Remembrance day หรือ วัน Armistace Day ซึ่งไม่เพียงแค่สนามอีวู้ด พาร์กเท่านั้น แต่ทุกสนามในพรีเมียร์ลีกก็จะไว้อาลัยก่อนเกมเช่นกัน
เปิดฉากมาได้แค่ 4 นาทีเท่านั้นเชลซีน่าจะได้ประตูขึ้นนำอย่างที่สุด เมื่ออเนลก้าได้จังหวะหลุดเดี่ยวก่อนล็อกหลบพอล โรบินสันไปแล้ว แต่ก่อนจะยิงกลับลื่นล้ม ทำให้อดยิงซะอย่างนั้น โดยจังหวะนี้ดูก้ำกึ่งว่าล้มไปเอง หรือโดนโรบินสันสะกิดให้ล้ม
รูปเกมนั้นเป็นเชลซีที่วันเวย์บุกแหลก นาทีที่ 18 ฟลอรองต์ มาลูด้า ได้โอกาสยิงในเขตโทษ แต่ก็เหินข้ามคานออกไปแบบไม่มีลุ้นอะไรเลย
โรบินสันในเกมนี้เล่นได้เยี่ยมมากทีเดียว นาทีที่ 21 แฟรงค์ แลมพาร์ดลองลักไก่ยิงไกล 25 หลา แต่ก็ไม่ผ่านมือโรบินสันแต่อย่างใด เช่นเดียวกับในนาทีที่ 25 เมื่ออเนลก้า กระชากผ่านกองหลังก่อนตวัดยิงในเขตโทษ แต่โรบินสันก็ปัดออกหลังได้อีกดอก
อย่างไรก็ตาม โกล์นายห้างก็ดีแตกจนได้ และส่งเชลซีขึ้นนำ 1-0 จากจังหวะยิงไกลที่ไม่มีอะไรเลยของอเล็กซ์ กว่า 40 หลา แต่ลูกเจ้ากรรมไปชนหัวเข่าอเนลก้า ค่อยๆกลิ้งหลุนๆ เด้งเข้าประตูไป ทั้งๆที่จังหวะนี้โรบินสันน่าจะมีปฏิกริยาอะไรที่ดีกว่านั้น
เข้าสู่ครึ่งหลังแบล็คเบิร์นเริ่มได้ดี และมีโอกาสใกล้เคียงการได้ประตูสุดๆ เมื่อปีเดอร์เซ่น ตักบอลเข้าไปในเขตโทษ ให้โรเบิร์ตส พักอกก่อนม้วนตัวหนีสองกองหลัง ไปดวลเดี่ยวกับนายทวาร แต่ก็ไม่ผ่านมือเช็กแต่อย่างใด
สภาพสนามอีวู้ดพาร์กวันนี้ ฝนตกหนักมาตลอดตั้งแต่เริ่มแข่ง ทำให้สนามชื้นแฉะมาก การต่อบอลสั้นๆเข้าทำ จึงแทบทำไม่ได้เลย ทั้งสองทีมใช้ลูกบอมบ์ยาววัดกันเพียงอย่างเดียวแล้วในตอนนี้
เชลซีนั้นแสดงให้เห็นถึงความเวิลด์คลาสอย่างแท้จริง โดยในครึ่งหลังพวกเขามีโอกาสแค่ไม่กี่ครั้งแต่ก็พังประตูได้ทันทีในนาทีที่ 68 เมื่อแลมพ์แทงบอลสั้นๆมาให้อเนลก้า หลุดเดี่ยวไปชิพข้ามตัวโรบินสันแบบเหนือชั้นเหลือเกิน ให้ทีมนำไปเป็น 2-0 แล้ว
แบล็คเบิร์นยิ่งเล่นยิ่งตื้อ และไม่มีจินตนาการใดๆในเกมรุกเลย พอล อินซ์จึงส่งตัวเก๋าอย่างร็อบบี้ ฟาวเลอร์ ลงมาแก้สถานการณ์หวังใช้ประสบการณ์ของ 'เดอะ ก๊อด' ช่วยทีมบ้าง
แต่กลับเป็นทางเชลซีน่าจะได้ประตูนำห่างสามเม็ดอีกสองครั้งซ้อนๆ เริ่มจากแลมพาร์ดยิงฟรีคิกนาทีที่ 81 บอลพุ่งวาบไปชนคานดังสนั่น ก่อนที่นาทีถัดมามิเกลจะปาดบอลผ่านหน้าประตู โดยที่เทอร์รี่ ชาร์จวืดแบบไม่น่าเชื่อ
ในนาทีที่ 86 น่าจะเป็นแฮตทริกของอเนลก้าแล้ว เมื่อเขาหลุดเดี่ยวไปดวลกับโรบินสัน แต่ยิงไม่คมพอเลยไปติดแขน อย่างน่าเสียดาย
สุดท้ายแล้วหมดเวลา 90 นาทีจึงเป็นเชลซีที่เอาชนะได้สวยงาม 2-0 ขึ้นไปนำเป็นจ่าฝูงแทนที่ลิเวอร์พูลอีกคำรบ
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม/คะแนนความสามารถ
แบล็คเบิร์น : พอล โรบินสัน 8,แดนนี่ ซิมป์สัน 5,ซูรับ คิซานิซวิลลี่ 5,ไรอัน เนลเซ่น 6,มาร์ติน โอลส์สัน 5,วินซ์ เกรลล่า 4(แอร่อน โมโคเอน่า น.45,5),สตีเฟ่น วอร์น็อค 6,คาร์ลอส บีญ่านูเอบา 5,คีธ แอนดรูว์ 3(แมท เดอร์บี้เชียร์ น.46,4),มอร์เท่น แกมป์ส ปีเดอร์เซ่น 6,เจสัน โรเบิร์ตส 4(ร็อบบี้ ฟาวเลอร์ น.77,4)
สำรองไม่ได้ลงสนาม : เจสัน บราวน์,คริสโตเฟอร์ แซมบ้า,ตูกาย เคริโมกลู,คีธ ทรีซีย์
ใบเหลือง : ซิมป์สัน,วอร์น็อค
เชลซี : ปีเตอร์ เช็ก 8,โจเซ่ โบซิงว่า 7,อเล็กซ์ 6,จอห์น เทอร์รี่ 5,เวย์น บริดจ์ 5,แฟรงค์ แลมพาร์ด 8,จอห์น โอบี มิเกล 6,เดโก้ 5(แฟร์เรียร่า น.91),ซาโลมง กาลู 5(ชูเลียโน่ เบลเลตติ น.62,6),นิโคลัส อเนลก้า 8,ฟลอรองต์ มาลูด้า 5
สำรองไม่ได้ลงสนาม : คาร์โล คูดิชินี่,บรานิสลาฟ อิวาโนวิช,ฟรังโก้ ดิ ซานโต้,สกอตต์ ซินแคลร์,มิไนโร่
ใบเหลือง : มาลูด้า
ผู้ตัดสิน : คริส ฟอย
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
