ดีเดย์ของเชลซี คอลัมน์ คุยสบายๆ สไตล์ เอกราช เก่งทุกทาง

โชเซ่ มูรินโญ่ กุนซือเชลซี น่าจะเป็นผู้จัดการทีมที่น่าอิจฉาที่สุดในโลก เมื่อดูจากทุกอย่างที่เขาเป็นและกำลังทำอยู่




เรื่องผลงาน มูรินโญ่ลอยตัวเท้งเต้งเลยครับ เชลซีนำจ่าฝูงพรีเมียร์ลีกแบบทิ้งห่างอันดับสอง 15 คะแนนบอลถ้วยเอฟเอคัพก็ผ่านเข้ารอบ 5 ไปเจอทีม ดิวิชั่นต่ำกว่า ส่วนแชมเปี้ยนส ลีก ถ้วยใหญ่ที่จะดวลกับคู่ปรับเก่าบาร์เซโลน่า โอกาสของทีมสิงโตน้ำเงินครามก็สดใสขึ้นตั้งเยอะ หลังจากบาร์ซ่าเล่นไปเล่นมาดันฟอร์มไม่หรูเหมือนช่วงต้นๆ ฤดูกาลซะแล้ว

งานดีระดับนี้การันตีได้เลยว่า มูรินโญ่ต้องถูกจับให้อยู่ต่ออีกหลายปี และนับวันบารมีของเจ้าตัวก็จะยิ่งใหญ่คับฟ้าจนขึ้นชั้นเจ้าพ่อฟุตบอลอังกฤษไปในที่สุด

กุนซือเชลซีทำอะไรก็ไม่น่าเกลียด ยิ่งเดี๋ยวนี้รู้จักปรับลุกตัวเองให้กลมกล่อม ก็ยิ่งได้ใจแฟนๆ มากกว่าเดิม

มูรินโญ่ที่เคยกร่างและหยิ่งทระนง พออยู่นานเข้าก็ค่อยๆ ปรับตัวเข้าหาคนอื่น ยอมรับความเห็นที่แตกต่าง บางเรื่องถึงขนาดรู้สึกผิดกับการกระทำของตัวเอง แล้วยอมขอโทษขอโพยย้อนหลังก็มี

แม้ว่าจะรักษาเอกลักษณ์ความเป็นคนขวานผ่าซาก ตรงไปตรงมาเหมือนเดิม แต่คนอังกฤษก็ยอมและอยากฟังเขาพูดมากกว่าเดิมเยอะ

ประเด็นล่าสุดที่มูรินโญ่ประกาศว่า จะนำเชลซีคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกให้ ได้ภายในวันที่ 9 เมษายน หรืออีก 8 นัดข้างหน้า จึงทำให้แฟนบอลเชื่อไปแล้ว ครึ่งหนึ่ง

เชื่อแบบหนาวๆ ร้อนๆ และเลี่ยนๆ ยังไงชอบกล

ถ้ายอมรับความจริงกันได้ก็ต้องบอกว่า ถ้วยแชมป์ใบนี้มันอยู่ในมือเชลซีเรียบร้อย ขึ้นอยู่กับว่าจะมอบกันแบบทางการเมื่อไหร่เท่านั้น

แต่ความรู้สึกคนดูบอลก็ไม่อยากให้แต้มขาดเร็วเกินไป ยิ่งถ้ามากำหนด เวล่ำเวลาช่วงไหนตามใจชอบแบบนี้ ก็ยิ่งเหมือนลีกโหลๆ ไม่มีราคา ไม่มีคุณภาพยังไงก็ไม่รู้

อย่าลืมว่าฤดูกาลก่อน มูรินโญ่เคยทำอย่างเดียวกัน แล้วก็แม่นเสียด้วย คือประกาศว่า จะคว้าแชมป์ภายในสิ้นเดือนเมษายน เชลซีก็บุกชนะโบลตัน ทำแต้มเข้าป้ายไปในวันที่ 30 เมษายนจริงๆ

หมอนี่อาจจะชอบทำอะไรเว่อร์ๆ แต่ไม่ใช่พวกปากพล่อย พูดจาไม่มีสาระเด็ดขาด ยิ่งเรื่องนี้คงต้องคำนวณกันละเอียด และดูจากความเป็นไปได้ก่อนแล้ว ถึงได้ กล้าระบุวันออกมา


ถ้าดูชื่อคู่แข่งในอีก 8 นัดข้างหน้าของเชลซี มันก็สมควรที่มูรินโญ่จะมั่นใจได้จริงๆ แหละครับ

แลมพาร์ด 1ในนักเตะเชลซีที่ได้รับรางวัลนักเตะยอดเยี่ยม



เริ่มจากไปเยือนมิดเดิลสโบรช์, เป็นทีมเหย้าเจอปอร์ตสมัธ, เยือนเวสต์ บรอมวิช, เหย้ากับสเปอร์ส, เยือนฟูแล่ม, เหย้าเจอแมนฯ ซิตี้ เยือนเบอร์มิ่งแฮม และตบท้ายด้วยการเล่นในบ้านกับเวสต์แฮม วันที่ 9 เมษายน ซึ่งกะให้เป็น ดีเดย์คว้าแชมป์ไปเลย ถ้าชนะรวดได้หมดทั้ง 8 เกม

ถ้าทำสำเร็จเชลซีจะคว้าแชมป์เร็วกว่าฤดูกาลที่แล้วเกือบๆ 1 เดือน

มองในแง่ทีม ต้องเป็นความสำเร็จยิ่งใหญ่แน่ๆ แต่ขณะเดียวกันก็จะเกิดคำถามว่า ทำไมพรีเมียร์ลีกถึงได้หมูตู้ขนาดนี้

ปล่อยให้ทีมทีมหนึ่งทำอะไรตามใจชอบไปเสียหมด มันเสียฟอร์มลีก อันดับหนึ่งของโลกจะตาย ยิ่งเมื่อดูว่าบรรดามหาอำนาจเก่า ไม่ว่า แมนฯยูฯ ลิเวอร์พูล หรืออาร์เซนอล ล้วนแต่ทำตาปริบๆ หมดทางต่อต้าน ก็ยิ่งน่าตกใจเข้าไปใหญ่

ถ้ามันเป็นวันที่ 9 เมษายนจริงๆ แฟนบอลอังกฤษแท้ๆ คงอึ้งไปตามๆ กัน เพราะนั่นหมายถึงการครองอำนาจเบ็ดเสร็จของเชลซีโดยไม่มีข้อแม้


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์