สโต๊คไม่เก่งเหมือนวันที่พบลิเวอร์พูลซะแล้วหลังแอนดี้ กริฟฟินมาช่วยสงเคราะห์พังประตูตัวเองก่อนที่นิโกลาส์ อเนลก้าจะมาเก็บส้มหล่นจากความผิดพลาดของแนวรับยิงเฮ 2-0 กลับขึ้นมานำจ่าฝูงชั่วคราวอีกครั้ง
สโต๊ค 0-2 เชลซี
ประตู : 0-1 โบซิงว่า น.37,0-2 อเนลก้า น.76
เริ่มเกมทั้ง 2 ทีมยังดูเชิงกันอยู่พักนึง กระทั่งนาทีที่ 7 เชลซีสร้างจังหวะหวาดเสียวได้ครั้งแรก เมื่อบัลลัควางเท้ายิงเต็มแข้ง 30 หลาทางขวาแต่โซเรนเซ่นยังปัดข้ามคานไปได้
นาทีที่ 14 แลมพาร์ดชิพบอลตรงกลางระยะ 30 หลาให้ดร็อกบาวิ่งสอดมาพักอกแล้วจิ้มบอลยิงในกรอบโทษแต่โดนไม่เต็มถูกโซเรนเซ่นบล็อกก่อนกองหลังเคลียร์ทิ้งทันเวลา
รูปเกมเป็นเวย์ของทีมเยือนที่ขึงเกมหาช่องเข้าเจาะเหมือนวันที่ลิเวอร์พูลต้องประสบพบเจอทำให้ต้องถ่ายบอลไปมาสลับกับใช้ความใหญ่ของดร็อกบาบังบอลเอา
นาที 24 เชลซีได้ฟรีคิกแลมพ์เปิดบอลล้นมาเสาสองแต่ฟายบอกไม่ประมาทโขกทิ้งเอาเตะมุมและถ้าหลุดมาไม่น่ารอดเพราะมีอเล็กซ์ยืนเกร็งคอโก่งโค้งอยู่ด้านหลังแล้ว
นาที 36 เจ้าถิ่นแอบมีเสียวเล็กน้อยเมื่อลูกเปิดบอลปีกซ้ายเป็นซิดิเบ้แอบมาโขกเสาสองแต่บอลเบาทำให้เช็กก้มตัวรับเข้าซองสบายๆ
แต่แล้วจังหวะสวนกลับกลายเป็นเชลซีที่ขึ้นนำจนได้เมื่อจังหวะทำชิ่งเร็วของโบซิงวาแบ็คขวาที่ให้บอลแล้ววิ่งทำทางก่อนที่แลมพ์จะแตะข้ามกองหลังให้แข้งโปรตุเกสพักอกแล้วดีดบอลเข้ากลางระยะเผาขนซึ่งประจวบเหมาะกับที่แอนดี้ กริฟฟินวิ่งมาพอดีเลยโดนตัวเข้าประตูตัวเอง เชลซีนำ 1-0 แล้ว
ครึ่งหลังเริ่มมายังไม่ถึงนาทีเชลซีเกือบขึ้นนำเมื่อแลมพาร์ดยิงไกลบอลไปแฉลบกองหลังเจ้าถิ่นเปลี่ยนทางค่อยๆกลิ้งออกหลังไปนิดเดียว
จากนั้นจังหวะเตะมุมเชลซีมาตั้งเกมใหม่เป็นมาลูด้าง้างยิงด้วยอีซ้ายหน้ากรอบโทษบอลพุ่งเป็นจรวดโซเรนเซ่นเซฟแบบสัญชาตญาณบอลแฉลบท่อนแขนชนคานกระเด้งลงพื้นก่อนถูกกองหลังเคลียร์ทิ้งทันควัน
กริฟฟินโชคดีไม่ถูกไล่ออกหลังพยายามเล่นฟรีคิกเร็วแต่มาลูด้ามายืนขวางเลยผลักเต็มๆก่อนกรรมการมาแจกใบเหลืองให้ทั้งคู่
นาที 60 เชลซีป่วนหนักหลังเจ้าถิ่นโหมบุกหนักจะเอาประตูตีเสมอจากลูกเตะมุมคอร์ตโขกเน้นแต่มาลูด้ายืนเฝ้าเสาโหม่งทิ้งก่อนที่เช็กจะพุ่งมาถึง
เกมที่กำลังกดดันตึงเครียดอยู่นั้นสโต๊คมาพลาดเสียประตูที่สองเองเมื่อโบซิงวาเปิดบอลจากปีกขวาเป็นคอร์ตที่โชว์เก๋าระดับคันนาวาโร่ล้มตัวพักอกในเขตโทษแต่กลายเป็นตั้งให้อเนลก้าวิ่งมายิงเน้นๆไม่มีเหลือ เชลซีนำ 2-0 ชนะแหง๋
ก่อนหมดเวลา 10 นาทีบัลลัคยิงสวนลูกที่ล้นมาเข้าทางตรงหน้าเขตโทษแต่บอลแป๊กติดไซด์เฉี่ยวเสาออกไปนิดเดียว
จากนั้นเวลาที่เหลือสโต๊คหมดสิทธิ์เอาคืนด้วยประการทั้งปวงและแม้ผู้บรรยายทรูวิชั่นจะฮาได้อีกบอกชอบสโต๊คให้พิมพ์ st ส่ง sms ในช่วงทดเจ็บก็ไม่ไหวแล้วหมดเวลาแพ้ไป 2-0
รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม
สโต๊ค : โธมัส โซเรนเซ่น 6,แอนดี้ กริฟฟิน 5,ลีออน คอร์ท 6,อับดุลลาย ฟาย 5,แดนนี่ ฮิกกิ้นบอทแธ่ม 6,เลียม ลอว์เรนซ์ 5(ไมเคิล ทองก์ น.65,6),ซาลิฟ ดิเยา 6,เซยี่ โอโลฟินยาน่า 6,ริชาร์ด เครสส์เวลล์ 5,เดฟ คิตสัน 5(ริคาร์โด้ ฟูลเลอร์ น.53,6),มามาดี้ ซิดีเบ้ 7(ออมดี้ ฟาย น.81)
สำรองไม่ได้ลงสนาม :สตีฟ ซิมอนเซ่น,เกลนน์ วีแลน,อิบราฮิม ซอนโก้,ทอม ซัสเรส
ใบเหลือง :แอนดี้ กริฟฟิน,ริชาร์ด เครสส์เวลล์
เชลซี :ปีเตอร์ เช็ก 6,โจเซ่ โบซิงวา 8*,จอห์น เทอร์รี่ 6,อเล็กซ์ 6,แอชลี่ย์ โคล 8,แฟรงค์ แลมพาร์ด 8,จอห์น โอบิ มิเกล 6,มิชาเอล บัลลัค 7(เปาโล แฟร์ไรร่า น.90),ซาโลมง กาลู 6(นิโกล่าส์ อเนลก้า น.46,7),ฟลอร็องต์ มาลูด้า 7,ดิดิเยร์ ดร็อกบา 6(ชูเลียโน่ เบลเล็ตติ น.73,6)
สำรองไม่ได้ลงสนาม :เอ็นริเก้ ฮิลาริโอ,บรานิสลาฟ อิวาโนวิช,สกอตต์ ซินแคลร์,เวย์น บริดจ์
ใบเหลือง :ฟลอร็องต์ มาลูด้า
ผู้ตัดสิน : มาร์ติน แอตกินสัน
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: lentee
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
