ปรีวิวบิ๊กแมตช์พรีเมียร์‘สิงห์’เปิดถ้ำวัดแข้ง‘หงส์’

ปรีวิวบิ๊กแมตช์พรีเมียร์‘สิงห์’เปิดถ้ำวัดแข้ง‘หงส์’

       ศึกฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ นัดคืนวันศุกร์ที่ 16 กันยายนนี้ เป็นการโคจรมาปะทะกันของสองทีมดัง "สิงโตน้ำเงินคราม" เชลซี เปิดสนามสแตมฟอร์ด บริดจ์ ดวลกับ "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล ในเวลา 02.00 น.


เกมนี้ เชลซี มีปัญหาในแนวรับเมื่อ จอห์น เทอร์รี่ กัปตันทีมจอมเก๋าบาดเจ็บข้อเท้า อยู่ในช่วงพัก 10 วัน ทำให้ ดาวิด ลุยซ์ ได้สตาร์ทเป็นตัวจริง คู่กับ แกรี่ เคฮิลล์ ในตำแหน่งเซ็นเตอร์แบ๊ค แต่ มาร์โก ฟาน กิงเคิ่ล กับ ควร์ต ซูม่า ยังไม่พร้อมจะลงเล่น ทำให้ อันโตนิโอ คอนเต้ กุนซือชาวอิตาเลี่ยน ที่อยากเล่นระบบเซ็นเตอร์แบ๊ค 3 คน ต้องกลับไปใช้หมากหน้ากระดาน พร้อมสูตร 4-1-4-1 เหมือนเดิม

ทางฝั่ง "หงส์แดง" จะได้ ลอริส คาริอุส นายประตูหน้าหล่อตัวใหม่ที่เจ็บช่วงปรีซีซั่น กลับมามีลุ้นเบียดตัวจริงกับ ซิมงต์ มินโญเลต์ ขณะที่แผงหลัง เดยัน ลอฟเรน ที่บาดเจ็บซ้อมหนักจนตาปูดเพราะมีการเข้าบอลผิดจังหวะ หายเจ็บพร้อมกลับมายืนเซ็นเตอร์คู่กับ โจเอล มาติป นอกจากนั้นยังได้ คูตินโญ่ ที่ไม่ฟิตในเกมก่อน ได้กลับมาเป็นตัวจริง ทำให้ แดเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ ต้องกลับไปใส่สนับก้น

ในส่วนของสถิติการเจอกัน หรือ head to head ปรากฏว่า ลิเวอร์พูล เหนือกว่า ด้วยการชนะ 75 เสมอ 38 เชลซี ชนะ 61

คาดการณ์ 11 ตัวจริง

เชลซี 4-1-4-1 : ติบอร์ กูร์กตัวส์-บรานิสลาฟ อิวาโนวิช, แกรี่ เคฮิลล์, ดาวิด ลุยซ์, เซซาร์ อัสปิลิกวยต้า-เอ็นโกโล่ ก็องเต้-วิลเลี่ยน, ออสการ์, เนมานญ่า มาติช, เอแด็ง อาซาร์ และดีเอโก้ คอสต้า

ลิเวอร์พูล 4-3-3 : ซิมงต์ มินโญเลต์-นาธาเนี่ยล ไคลน์, โจเอล มาติป, เดยัน ลอฟเรน, เจมส์ มิลเนอร์-จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, อดัม ลัลลาน่า, จอร์จินโญ่ ไวจ์นัลดุม-ซาดิโอ มาเน่, เฟลิปเป้ คูตินโญ่ และ ฟีร์มิโน่
คู่นี้ถือเป็นคู่กัดคู่ปะทะในยุคใหม่ของฟุตบอลอังกฤษ หลังยุคมินเลนเนี่ยม หรือ The Modern Rivalry โดยเริ่มตั้งแต่ซีซั่น 2004-05 ซึ่ง เชลซี ที่ดึงตัว โชเซ่ มูรินโญ่ มาทำทีม พร้อมกับที่ ลิเวอร์พูล คว้า ราฟา เบนิเตซ มาทำงาน โดยระหว่างซีซั่น 2004-2009 หรือเพียง 5 ปี ทั้งสองทีมต้องดวลแข้งกันถึง 24 เกม เพราะเจอกันในฟุตบอลถ้วยต่อเนื่อง พร้อมกับมีเกมในตำนานอย่างมากมาย และในยุคหลังสุด เชลซี ทำแสบด้วยการบุกไปชนะ ลิเวอร์พูล ถึงแอนฟิลด์ 2-0 ดับฝันการลุ้นแชมป์ลีกหนแรกรอบ 24 ปีอีกด้วย
สำหรับเกมนี้ถือเป็นเกมฟุตบอลลีกสูงสุดของอังกฤษ คู่ที่ 2 ในปีนี้ เพื่อเป็นการชิงตลาดลูกหนังทั่วโลก ซึ่งปีนี้ถือเป็นปีแรกที่เกมลูกหนังเมืองผู้ดีมีคำสั่งการดวลแข้งอย่างเป็นทางการ โดยคู่แรก เมื่อ 19 สิงหาคมที่ผ่านมา "ปีศาจแดง" แมนฯยูไนเต็ด ชนะ "นักบุญ" เซาแธมป์ตัน 2-0

ทั้งนี้เกมลีกสูงสุดของอังกฤษ ที่เตะวันศุกร์ครั้งแรกนั้น เป็นเกมที่โอลด์ แทรฟฟอร์ด เมื่อ 16 ธันวาคม ปี 1983 ระหว่าง "ปีศาจแดง" แมนฯ ยูไนเต็ด กับ "ไก่เดือยทอง" สเปอร์ส ที่ถ่ายทอดสดผ่านทาง "แมทช์ ออฟ เดอะ เดย์" ของสถานีโทรทัศน์ BBC นอกจากนี้เกมตัดสินแชมป์ลีกเมื่อปี 1989 ที่แอนฟิลด์ ซึ่ง "ปืนใหญ่" อาร์เซน่อล บุกชนะ "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล ถึงถิ่น 2-0 ก็เตะวันศุกร์เช่นกัน

เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์แนวหน้า


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์