ดร็อกเหมาสิงห์บลูส์แซงเฮเขี่ยปืนร่วงที่ 3

ดิดิเย่ร์ ดร็อกบา เรียกฟอร์มเก่งกลับคืนมาได้ทันเวลา เมื่อเหมาคนเดียว 2 ประตูช่วยให้ทีม "สิงโตน้ำเงินคราม" เชลซี พลิกกลับมาเอาชนะ "ปืนใหญ่" อาร์เซนอลได้ 2-1 และสามารถแซงขึ้นเป็นรองจ่าฝูงได้ด้วย ส่วนกันเนอร์สหล่นลงไปอยู่อันดับ 3 แล้ว


ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก (23 มี.ค.2551)

เชลซี 2-1 อาร์เซนอล
สนาม : สแตมฟอร์ด บริดจ์
ประตู : 0-1 บาการี่ ซาญ่า น.59, 1-1 ดิดิเย่ร์ ดร็อกบา น.73, 2-1 ดิดิเย่ร์ ดร็อกบา น.82


คู่ปิดโปรแกรมแกรนด์สแลม เป็นการพบกันของสองทีมจากลอนดอน "สิงโตน้ำเงินคราม" เชลซี และ "ปืนใหญ่" อาร์เซนอล ที่กำลังไล่บี้กันมาในอันดับ 3 และ 2 ตามลำดับ
 
เกมนี้ทั้งสองฝ่ายต่างก็ต้องการชัยชนะ โดยเฉพาะทีมกันเนอร์สที่โดนแมนฯ ยูไนเต็ดหนีเป็น 6 แต้มเข้าไปแล้ว โดยเกมนี้ทั้งสองทีมต่างก็ขนผู้เล่นชุดใหญ่ลงสนามทั้งหมด
 
เกมเริ่มต้นมาในช่วงต้นทั้งสองทีมยังดูเชิงกันอยู่ โดยผ่านไปกว่า 10 นาทีทั้งสองทีมก็ยังตั้งเกมกันไม่ได้ เป็นการปะทะกันในแดนกลางสนามมากกว่า เนื่องจากเชิงบอลค่อนข้างทันกัน

เชลซีได้ฟรีคิก และก็เป็นบัลลัคที่ปั่นไซ้โค้งสวยงาม แต่เข้ามืออัลมูเนีย
 
ด้วยรูปเกมที่สูสีทำให้โอกาสในช่วงครึ่งแรกมีค่อนข้างจำกัดมาก เชลซี มีใกล้เคียงจากจังหวะที่ดร็อกบาได้บอลวางจากแนวรับทะลุเข้าเขตโทษแต่จับบอลไม่อยู่ บอลชนเข่าเด้งเข้ามืออัลมูเนีย ทำให้พลาดโอกาสได้ยิงประตู
 
อาร์เซนอล มาเริ่มทำได้ดีขึ้นในช่วงกลางครึ่งแรก และนาทีที่ 29 ก็ได้โอกาสที่ดีที่สุดของตัวเอง เมื่อกลิชี่ ครอสบอลจากซ้ายลูกแฉลบมาตรงกลาง อเดบายอร์ เก็บบอลไม่อยู่ลูกมาเข้าทางเอบูเอ้ แต่คูดิชินี่เซฟด้วยขาได้อย่างเหลือเชื่อ

เชลซีมีโอกาสอีกจากบัลลัค แต่ก็ซัดไม่เต็มใบ ยังไม่ผ่านมืออัลมูเนีย
 
จากนั้นในนาทีที่ 40 กันเนอร์สก็พลาดโอกาสสำคัญเมื่อได้ลูกเตะมุม โคโล ตูเร่ ดีดบอลต่อมาที่เสาไกล กัลลาสปรี่เข้าซ้ำจ่อๆ แค่หลาเดียวแต่จิ้มบอลไปชนเสาอย่างเหลือเชื่อ อย่างไรก็ดี ผู้ช่วยผู้ตัดสินยกธงให้เป็นลูกล้ำหน้าอยู่แล้ว ทำให้จบครึ่งแรกเกมยังเสมอกันอยู่ 0-0

ครึ่งหลัง อาร์เซนอล ใกล้เคียงกับโอกาสจะได้ประตูขึ้นนำอีกครั้ง เมื่อฟลามินี่ เก็บบอลได้ในเขตโทษก่อนตะบันเต็มข้อ แต่คูดิชนี่ ยังเซฟได้อย่างยอดเยี่ยม

เกมเริ่มสนุกตื่นเต้นขึ้น แต่ดูเหมือนทางทีมเยือนจะทำได้ดีขึ้นเรื่อยๆ ในจังหวะประสานงานในเกมรุก และถึงนาทีที่ 59 ก็มาได้ประตูนำที่รอคอย เมื่อได้ลูกเตะมุม เซสก์ เปิดมาเสาแรกให้บาการี่ ซาญ่า โฉบมาโขกที่เสาแรกลูกเบียดเสาเข้าไปอย่างสุดสวย ให้อาร์เซนอลขึ้นนำ 1-0
 
หลังโดนยิงนำอัฟราม แกรนท์ แก้เกมด้วยการส่งนิโกล่าส์ อเนลก้า และชูเลียโน่ เบลเล็ตติลงมาในนาทีที่ 70 และก็เหมือนตัวนำโชค เมื่อเชลซีมาตีเสมอได้เป็น 1-1 ในอีก 3 นาทีต่อมา ในจังหวะที่กัลลาส สกัดบอลไม่ขาดในกรอบเขตโทษ ลูกไหลมาเข้าทางดร็อกบา ได้ซัดเน้นๆ ไม่มีพลาด พร้อมดร็อกบาได้รับใบเหลืองไปจากการถอดเสื้อฉลองประตู

ได้ประตูตีเสมอเกมก็กลับมาเป็นของเจ้าบ้านที่เปิดฉากไล่อัดอย่างเมามัน และถึงนาทีที่ 82 สิงห์บลูส์ก็พลิกขึ้นนำได้จากเบลเล็ตติเล่นลูกตั้งเตะไว เปิดบอลมาให้อเนลก้าโหม่งตั้งมาถึง ดร็อกบาเจ้าเก่าที่เอาบอลลงได้สวยในเขตโทษก่อนเอียงตัววอลเล่ย์เข้าไปอย่างสุดสวย ให้เชลซีแซงนำ 2-1
 
ดร็อกบาเกือบทำแฮตทริกได้ด้วยในอีก 2 นาทีต่อมา เมื่อได้ลูกเปิดจากเบลเล็ตติ และตวัดยิงจังหวะแรกลูกเกือบเบียดเข้าเสาแรกแต่มานูเอล อัลมูเนีย ล้มตัวปัดได้อย่างยอดเยี่ยม
 
ช่วงเวลาที่เหลือ อาร์แซน เวนเกอร์ ทิ้งไพ่ใบสุดท้ายส่งนิคลาส เบนด์เนอร์ลงมาแต่ก็ไม่มีค่าอะไร สุดท้ายกันเนอร์สก็ยังแพ้อยู่ดี และเป็นผลงานสุดย่ำแย่ใน 5 นัดหลังสุดที่เสมอ 4 แพ้ 1 ทำให้โดนเชลซีแซงขึ้นไปอยู่อันดับ 2 ด้วย


รายชื่อผู้เล่น
เชลซี : คาร์โล คูดิชินี่, มิชาแอล เอสเซียง, จอห์น เทอร์รี่, แอชลี่ย์ โคล, มิชาเอล บัลลัค (ชูเลียโน่ เบลเล็ตติ น.70), โคล้ด มาเกเลเล่ (นิโกล่าส์ อเนลก้า น.70), แฟรงค์ แลมพาร์ด, โจ โคล (จอห์น โอบี มิเคล น.88) , ดิดิเย่ร์ ดร็อกบา, ซาโลมง กาลู

อาร์เซนอล : มานูเอล อัลมูเนีย, บาการี่ ซาญ่า (อาบู ดิยาบี้ น.72), โคโล่ ตูเร่, วิลเลี่ยม กัลลาส, กาแอล กลิชี่, เอ็มมานูเอล เอบูเอ้, เซสก์ ฟาเบรกาส, มาติเยอ ฟลามินี่ (นิคลาส เบนด์เนอร์ น.89) , อเล็กซานเดอร์ คเล็บ, เอ็มมานูเอล อเดบายอร์, โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ (ธีโอ วัลค็อตต์ น.76)

ผู้ตัดสิน : มาร์ค คลัตเทนเบิร์ก



เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์