เรื่องราวของฟัลเกา

ราดาเมล ฟัลเกา ฉายแววการเป็นนักเตะดาวรุ่งมาตั้งแต่สมัยที่ยังเป็นเด็ก เขาลงเดบิวต์ในทีมดิวิชั่นสองของโคลอมเบียได้ในวัยนั้น

เรื่องราวของฟัลเกา

ในระหว่างฤดูกาลแรก เขาทำประตูในระดับสูงได้เช่นกัน ไม่แปลกใจเลยว่าสองปีต่อมา เขาก็ได้ย้ายไปเล่นที่อาร์เจนติน่า โดยร่วมทีมริเวอร์ เพลท ในปี 2001

ปกติแล้ว ฟัลเกาอาจจะดูอายุน้อยกว่าใครในตอนที่ย้ายมาเล่นในสโมสรที่บัวโนส ไอเรส แต่หลังจากที่ได้ลงเล่นในทีมเยาวชน เขาก็ได้รับโอกาสลงเดบิวต์ให้ทีมชุดใหญ่ในปี 2005


จากการที่มีสัญชาตญาณการไล่ล่าประตูสูงเมื่ออยู่หน้าประตู เขาก็สามารถสร้างชื่อเสียงและควื้ตำแหน่งตัวจริงมาได้ และในเดือนกันยายน ปี 2007 เขาทำแฮตทริกได้ในเกมที่พบกับโบตาโฟโก้ เป็นครั้งแรกที่เขาทำได้ในระดับมืออาชีพ หลังจากนั้นเขาก็ทำประตูให้กับริเวอร์ได้ในเกมที่ชนะโบค่า จูเนียร์

ฟัลเกากลายเป็นหนึ่งในกำลังสำคัญของทีมที่คุมโดยดิเอโก้ ซิเมโอเน่ ซึ่งพวกเขาได้มาร่วมงานกันอีกครั้งที่แอตเลติโก้

เขาจบช่วงเวลาที่ริเวอร์ เพลท ด้วยสถิติการทำประตู 45 ประตูในการลงแข่ง 111 นัด และเริ่มต้นอย่างสวยงามกับปอร์โต้ ทำประตูได้ในเกม 4 นัดแรกของเขาในเกมลีกโปรตุเกสเมื่อปี 2009

 

การเดบิวต์ในแชมป์เปี้ยนส์ลีกเริ่มต้นหลังจากนั้นไม่นาน เขาลงเป็นตัวสำรองเกมที่พบกับเชลซีที่สแตมฟอร์ด บริดจ์ ซึ่งในตอนนั้นจอห์น เทอร์รี่, เพตเตอร์ เช็ก, บรานิสลาฟ อิวาโนวิช และเพื่อนร่วมทีม ช่วยกันเก็บคลีนชีทได้ ต่อมาในเดือนเดียวกัน ฟัลเกาทำประตูแรกในรายการนั้นได้ในเกมที่พบกับแอตเลติโก้

 

เขาจบฤดูกาลด้วยการทำประตูรวม 25 ประตู และยังทำประตูในเกมรอบชิงชนะเลิศฟุตบอลถ้วยของโปรตุเกสได้อีกด้วย

 


เรื่องราวของฟัลเกา

ฤดูดาล 2010/11 เป็นอีกฤดูกาลที่สำคัญสำหรับฟัลเกส ซึ่งเขาทำลายสถิติเก่าของเจอร์เก็น คลินส์มันน์ได้ด้วยการทำประตูได้มากที่สุดในยูฟ่า คัพ/ยูโรป้า ลีก ได้สำเร็จ โดยทำได้ทั้งหมด 17 ประตู รวมแฮคทริกที่ทำได้ในเกมนัดที่พบกับราปิด เวียนนา และสปาร์ตัค มอสโคว์ ก่อนที่จะทำได้อีก 4 ประตูในเกมที่พบกับบียารีล รอบรองชนะเลิศนัดแรก เขายังเป็นผู้ทำประตูสำคัญเป็นปีที่สองติดต่อกัน โดยทำประตูได้ในเกมรอบชิงชนะเลิศที่ดูบลิน เป็นประตูโทนที่ทำให้ทีมคว้าแชมป์ได้สำเร็จจากการเอาชนะบราก้า

ฟัลเกายังมีบทบาทสำคัญที่ช่วยให้ปอร์โต้คว้าแชมป์ลีกได้สำเร็จ โดยจบฤดูกาลแบบที่ไม่แพ้ใครเลย

หลังจากที่สร้างความเจ็บปวดให้กับสโมสรจากสเปนไว้มากมาย ในฤดูร้อนปี 2011 เขาก็ได้ย้ายมาเล่นให้กับแอตเลติโก้ โดยทำสถิติการเซ็นสัญญาของสโมสร

ฟัลเกาลงเดบิวต์ในเกมลีกที่ไปเยือนบาเลนเซีย และในสัปดาห์ต่อมาเขาก็ทำแฮตทริกได้อย่างสวยงามในเกมที่พบกับราซิง ซานตานเดร์ และเขาก็กลายเป็นกำลังหลักในแนวรุกของแอตเลติโก้ได้ทันที ฤดูกาลแรกของเขาทำประตูในลีกได้ทั้งหมด 23 ประตู และได้เป็นผู้ทำประตูสูงสุดของยูโรป้า ลีกได้เป็นฤดูกาลที่สองติดต่อกัน รวมถึงสองประตูในเกมที่ชนะแอตเลติก บิลบาว 3-0 ที่บูคาเรสต์ด้วย

ผลการแข่งขันนั้นทำให้เขาได้มาพบกับเชลซีในเกมยูฟ่า ซูเปอร์คัพ หลังจากที่เราคว้าถ้วยแชมป์เปี้ยนส์ ลีกมาได้สำเร็จ และในเกมที่โมนาโก ฟัลเกาสามารถทำแฮตทริกให้แอตเลติโก้ชนะไปด้วยสกอร์ 4-1 ลูกยิงด้วยเท้าซ้ายเข้าไปเสียบมุมบนของประตูนั้นเป็นประตูที่ทำให้เขาเป็นผู้เล่นคนเดียวที่ทำแฮตทริกในซูเปอร์คัพ ในปัจจุบันด้วย


เรื่องราวของฟัลเกา


ฤดูกาลสุดท้ายของฟัลเกาที่แอตเลติโก้ เขาทำผลงานได้ดีเหมือนในฤดูกาลแรก การทำแฮตทริกในเกมที่พบกับเชลซีนั้นเกิดขึ้นหลังจากที่เขาทำสามประตูในเกมนัดเปิดฤดูกาล เป็นเกมที่ชนะเดปอร์ติโว่ 6-0 และเขาทำประตูได้ทั้งหมด 5 ประตูในเกมนั้น

เขายังทำประตูได้ในเกมที่พบกับบาร์เซโลน่า และรีล มาดริดในลีกอีกด้วย ต่อมาในเกมรอบชิงชนะเลิศ โคปา เดอ เรย์ ที่พบกับคู่แข่งจากเมืองเดียวกัน ฟัลเกาย้ำให้เห็นว่าเขาไม่ได้เป็นแค่ผู้ทำประตูที่ดีเท่านั้น แต่ยังสามารถจ่ายบอลให้ดิเอโก้ คอสต้าทำประตูได้ในเกมนั้น และช่วยให้ทีมพลิกกลับมาเป็นฝ่ายชนะและคว้าแชมป์ได้สำเร็จด้วย


เรื่องราวของฟัลเกา


หลังจากนั้นในปี 2013 เขาก็ได้ย้ายไปเล่นที่โมนาโก ฟัลเกาทำประตูในเกมนัดเดบิวต์ที่พบกับบอร์กโดซ์ แต่หลังจากนั้นเขาก็มาบาดเจ็บในเดือนมกราคมยาวไปจนจบฤดูกาล ทำให้เขาพลาดการเล่นให้ทีมชาติในศึกฟุตบอลโลกที่บราซิลด้วย

ฟัลเกากลับมาลงสนามได้อีกครั้งในช่วงต้นฤดูกาล ก่อนจะถูกยืมตัวไปเล่นให้แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ช่วงก่อนปิดตลาดซื้อขายนักเตะช่วงฤดูร้อนไม่นาน เขาลงเดบิวต์ในพรีเมียร์ลีกในเกมที่ชนะควีนส์ ปาร์ค เรนเจอร์ส เป็นชัยชนะครั้งแรกของทีมปีศาจแดงในฤดูกาลที่ผ่านมา และทำประตูแรกได้ในเกมที่ชนะเอฟเวอร์ตัน 2-1

การมาเยือนของแมนฯ ยูไนเต็ด ที่สแตมฟอร์ด บริดจ์ในเดือนเมษายนเป็นการพบกับสโมสรที่เขาจะมาเล่นด้วยในฤดูกาลที่ผ่านมา โดยนักเตะของเดอะบลูส์และแฟนบอลต้องขอบคุณที่ลูกยิงของเขาไปชนเสา ทำให้เราคว้าชัยได้ด้วยสกอร์ 1-0

ในระดับทีมชาติ ฟัลเกาทำประตูแรกให้โคลอมเบียได้ในวัยเพียง 21 ปี การแข่งขันรายการใหญ่ครั้งแรกของเขาคือการแข่งขันในโคป้า อเมริกาเมื่อปี 2011 ซึ่งเขาทำประตูได้สองประตูและช่วยให้ทีมผ่านเข้ารอบก่อนรองชนะเลิศได้

แม้ว่าเขาจะพลาดการลงแข่งในฟุตบอลโลกเมื่อปีที่ผ่านมาเนื่องจากบาดเจ็บ แต่ฟัลเกาก็มีบทบาทสำคัญในการทำให้ทีมเข้ารอบสุดท้ายได้สำเร็จจากการทำประตู 9 ประตูในรอบคัดเลือก

เขาเป็นหนึ่งในทีมชาติ ร่วมกับฮวน กัวดราโด้ และมีส่วนร่วมในโคปา อเมริกาในชิลี



ที่มา cheseafc.com

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์