เชลซีหวิดร่วงจ่าฝูงหลังพ่ายไก่

เชลซีหวิดร่วงจ่าฝูงหลังพ่ายไก่


เชลซีหวิดร่วงจ่าฝูงหลังพ่ายไก่ - ‘เรือใบ’ ชนะขึ้นนำร่วม - ‘หงส์-ผี’ ได้แค่เจ๊า

  การแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อวันที่ 1 ม.ค. ศึกลอนดอนดาร์บี้แมตช์ “ไก่เดือยทอง”ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ส เปิดสนามไวท์ ฮาร์ท เลน รับการมาเบือนของ “สิงโตน้ำเงินคราม”เชลซี เจ้าถิ่นส่ง แฮร์รี่ เคน, คริสเตียน เอริกเซ่น, นาเซอร์ ชาดลี่ ลงนำทัพ ด้านทีมเยือนมี ดีเอโก้ คอสต้า, ออสการ์, เอเดน ฮาซาร์ด เป็นแกนหลัก

  เริ่มเกมมา 18 นาที เชลซีออกนำ 1-0 เอเดน ฮาซาร์ด โชว์ลีลาลากเลื้อยฝ่าแนวรับเจ้าถิ่นจนหลุดเข้าเขตโทษด้านขวา ก่อนจะสับไกไปชนเสาสอง ลูกกระดอนมายัง ออสการ์ แปซ้ำเข้าไปหน้าประตู ดีเอโก้ คอสต้า ซึ่งยืนอยู่บริเวณนั้นพอดีจึงซัดเผาขนไม่เหลือซาก

  นาที 30 สเปอร์สตีเสมอสำเร็จ แฮร์รี่ เคน ลากตะลุยจากฝั่งซ้ายตัดเข้ากลาง ก่อนสับไกยิงจากระยะประมาณ 25 หลา ลุกพุ่งเสียบเสาเข้าไปอย่างสวยงาม สกอร์กลับมาเท่ากัน 1-1

  นาที 44 เจ้าถิ่นเฮลั่นสนาม คริสเตียน เอริกเซ่น ลากตะลุยจากกลางสนามขึ้นมา แล้วจ่ายทะลุช่องให้ นาเซอร์ ชาดลี่ หลุดเข้าเขตโทษก่อนยิงผ่านมือนายทวารไปชนเสา แต่ยังมี แดนนี่ โรส ที่ไวทายาดวิ่งเข้ามาซ้ำดาบสองให้สเปอร์สพลิกนำ 2-1

  จากนั้นในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ แกรี่ เคฮิลล์ ไปทำฟาวล์ แฮร์รี่ เคน ล้มลงในเขตโทษ อันดรอส ทาวน์เซนด์ สังหารด้วยซ้ายเสียบมุมขวามือล่างของตัวเองอย่างเด็ดขาด ธิโบต์ กูร์ตัวส์ พุ่งถูกทางแต่ไปไม่ถึง จบครึ่งแรก “ไก่เดือยทอง” เป็นฝ่ายนำ 3-1

  ครึ่งหลังนาที 52 เจ้าถิ่นนำห่าง 4-1 นาเซอร์ ชาดลี่ พาบอลขึ้นมาทางฝั่งซ้าย ก่อนจ่ายบอลให้ แฮร์รี่ เคน พลิกหลบกองหลังในเขตโทษฝั่งซ้าย แล้วยิงเรียดเสียบเสาสองอย่างยอดเยี่ยม

  นาที 61 เชลซีทวงคืนบ้าง เอเดน ฮาซาร์ด ลากตะลุยมาจากกลางสนาม แล้วทำชิ่งกับ เชส ฟาเบรกาส ก่อนที่ฮาซาร์ดจะหลุดเข้าเขตโทษแล้วสังหารอย่างเฉียบคม ช่วยให้ทีมเยือนไล่มาเป็น 2-4

  นาที 78 แฮร์รี่ เคน พาบอลขึ้นมาทางฝั่งซ้าย ก่อนดึงจังหวะแล้วจ่ายเข้าเขตโทษให้ นาเซอร์ ชาดลี่ เลี้ยงหาช่องแล้วสับไกเข้าไปอย่างสวยงาม สเปอร์สทิ้งห่าง 5-2

  นาที 87 เชลซีไล่มาเป็น 3-5 เอเดน ฮาซาร์ด กระชากหนีกองหลังทางริมเขตโทษฝั่งขวาแล้วเปิดเข้ากลาง บรานิสลาฟ อิวาโนวิช ยิงไม่เต็มเท้าในจังหวะแรก แต่บอลยังเป็นใจไหลไปเสาสองเข้าทาง จอห์น เทอร์รี่ เผด็จศึกง่ายๆ

  หลังจากนั้นไม่มีสกอร์เพิ่มอีก จบเกมสเปอร์ชนะไป 5-3

  ทางด้าน “เรือใบสีฟ้า”แมนฯซิตี้ เปิดสนามเอติฮัด สเตเดี้ยม เอาชนะ “แมวดำ”ซันเดอร์แลนด์ 3-2 เจ้าถิ่นได้จาก ยาย่า ตูเร่ นาที 57, สเตฟาน โยเวติช นาที 66, แฟร้งค์ แลมพาร์ด นาที 73 ส่วนทีมเยือนได้จาก แจ็ค ร็อดเวลล์ นาที 68, อดัม จอห์นสัน นาที 71(จุดโทษ)

  จากผลนัดนี้ ทำให้เชลซีและแมนฯซิตี้นำจ่าฝูงร่วมกัน โดยมี 46 แต้มจาก 20 นัด และยังยิงได้ 44 ประตู เสียไป 19 ประตูเท่ากันทั้งคู่ด้วย

  ขณะที่ “หงส์แดง”ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟิลด์ รับการมาเยือนของ “สุนัขจิ้งจอก”เลสเตอร์ เจ้าถิ่นส่ง ราฮีม สเตอร์ลิ่ง, ฟิลิปเป้ คูตินโญ่, อดัม ลัลลาน่า ลงประสานงานกันในแดนหน้า ขณะที่ทีมเยือนมี เจมี่ วาร์ดี้, ริยาด มาห์เรซ, แม็ทธิว เจมส์ เป็นตัวจริง

  เริ่มเกมมาเพียง 2 นาที เลสเตอร์หวิดนำก่อน จากฟรีคิกเยื้องไปทางฝั่งขวา ริยาด มาห์เรซ หลอกปั่นด้วยซ้ายข้ามกำแพงเข้าทางเสาแรก ซิมง มิโญเลต์ ที่มัวระวังเสาสองพุ่งมาไม่ทันแล้ว แต่บอลเด้งพื้นไปชนเสาเต็มๆ

  นาที 17 เกิดจังหวะน่ากังขา ราฮีม สเตอร์ลิ่ง หลุดเข้าเขตโทษด้านซ้ายแล้วพยายามเปิดเข้ากลาง บอลพุ่งโดนใบหน้า เวส มอร์แกน ที่สไลด์ตัวเข้าขวาง แต่ผู้ตัดสินกลับมองว่าเป็นการแฮนด์บอลและเป่าให้จุดโทษ สตีเว่น เจอร์ราร์ด สังหารเสียบมุมขวามือตัวเองอย่างเด็ดขาด เบน ฮาเมอร์ พุ่งถูกทางแต่ไปไม่ถึง ลิเวอร์พูลออกนำ 1-0

  นาที 40 ลิเวอร์พูลเฮอีกรอบ ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ ดีดบอลเข้าเขตโทษไปโดนมือ แดนนี่ ซิมป์สัน ผู้ตัดสินจึงเป่าให้จุดโทษอีกรอบ สตีเว่น เจอร์ราร์ด ทำหน้าที่สังหารตามเดิม คราวนี้ยิงเสียบมุมซ้ายมือไม่เหลือซาก เบน ฮาเมอร์ พุ่งไปผิดทาง “หงส์แดง” ทิ้งห่าง 2-0 และจบครึ่งแรกไปด้วยสกอร์นี้

  ครึ่งหลังนาที 59 ทีมเยือนยังมีความหวังอีกเฮือก แม็ทธิว เจมส์ วางบอลเข้าเขตโทษให้ เจมี่ วาร์ดี้ พักอกย้อนกลับออกไปหน้าเขตโทษ เดวิด นูเจนท์ โฉบเข้ามาตะบันตุงตาข่ายอย่างสุดสวย เลสเตอร์ไล่มาเป็น 1-2

  นาที 60 เจ้าถิ่นต้องเงียบกริบ ริยาด มาห์เรซ เลื้อยตัดจากฝั่งขวาเข้ากลาง แล้วจ่ายให้ เจฟฟรีย์ ชลุปป์ ยิงไกลตุงตาข่าย สกอร์เสมอกัน 2-2

  จากนั้นทั้งคู่พยายามเปิดเกมบุกเพื่อเอาชัยชนะ แต่ไม่มีสกอร์เพิ่ม จบเกมเสมอกัน 2-2 “หงส์แดง” เก็บเพิ่มเป็น 29 แต้มจาก 20 นัด รั้งอันดับ 8 ส่วนเลสเตอร์มี 14 แต้มจากการลงเล่นเท่ากัน อยู่บ๊วยตามเดิม

 ส่วนอีกคู่ “ช่างปั้นหม้อ”สโต๊ก เปิดสนามบริทานเนีย สเตเดี้ยม รับการมาเยือนของ “ผีแดง”แมนฯยูไนเต็ด เจ้าถิ่นส่ง ปีเตอร์ เคราช์, มาเม่ บิรัม ดิยุฟ, โจนาธาน วอลเตอร์ส ลงนำทัพ ส่วนทีมเยือนมี ราดาเมล ฟัลเกา, โรบิน ฟาน เพอร์ซี่, เวย์น รูนีย์ เป็นแกนหลัก

  เริ่มเกมมาเพียง 2 นาที เจ้าถิ่นได้เฮลั่น มาร์โก อาร์เนาโตวิช เปิดลูกเตะมุมจากฝั่งขวาเข้ากลาง ปีเตอร์ เคราช์ โหม่งชงเข้ากรอบ 6 หลาให้ ไรอัน ชอว์ครอสส์ ตวัดยิงตามน้ำเข้าไป สโต๊กนำ 1-0

  นาที 26 “ผีแดง” ตีเสมอสำเร็จ เวย์น รูนีย์ เปิดลูกเตะมุมฝั่งซ้ายเข้าไปที่เสาแรก ไมเคิล คาร์ริค โหม่งเช็ดต่อเข้ากลางให้ ราดาเมล ฟัลเกา ตวัดยิงเข้าไป จบครึ่งแรกเสมอกัน 1-1

  ครึ่งหลังนาที 70 เจ้าถิ่นหวิดขึ้นนำอีกรอบ มาร์โก อาร์เนาโตวิช เปิดลูกฟรีคิกเข้าเขตโทษให้ ปีเตอร์ เคราช์ โหม่งเช็ดไปชนเสาเต็มๆ จบเกมเสมอกันไป 1-1 “ผีแดง” อยู่ที่ 3 ตามเดิม เก็บเพิ่มเป็น 37 แต้มจาก 20 นัด ส่วนสโต๊กมี 26 แต้ม อยู่ที่ 11

  ผลคู่อื่น แอสตัน วิลล่า เสมอ คริสตัล พาเลซ 0-0, ฮัลล์ ชนะ เอฟเวอร์ตัน 2-0, นิวคาสเซิ่ล เสมอ เบิร์นลีย์ 3-3, ควีนสปาร์ก เสมอ สวอนซี 1-1, เซาแธมป์ตัน ชนะ อาร์เซนอล 2-0, เวสต์แฮม เสมอ เวสต์บรอมวิช 1-1

เชลซีหวิดร่วงจ่าฝูงหลังพ่ายไก่


เชลซีหวิดร่วงจ่าฝูงหลังพ่ายไก่


เชลซีหวิดร่วงจ่าฝูงหลังพ่ายไก่


เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์ข่าวสด


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์