10 ผู้เล่นตราบาปของเซลซีในยุคเสี่ยหมี
Update : 15 กุมภาพันธ์ 2011 at 12:01
Report by : Sport.Mthai ติช เต ฉ่อ
สวัสดีครับ เพื่อนๆชาว SportMthai ทุกท่าน วันนี้ ติช เต ฉ่อ คนเดิมก็กลับมาพร้อมข้อมูลที่น่าสนใจเหมือนเดิม ซึ่งในส่วนของสปอร์ต-ท็อปเทน ในวันนี้ ผมขอหยิบยกเรื่องราวการซื้อนักเตะของทีม “สิงห์บูล” เชลซี ในยุค ของ “เสี่ยหมี” โรมัน อบราโมวิช มาให้ทราบกัน และในยุคของเสี่ยหมีถือว่าเป็นช่วงที่ร่ำรวยที่สุดของทีม และล่าสุดคงรู้กันอยู่แล้วว่า ช่วงเปิดตลาดรอบ 2 นั้น โรมัน อบราโมวิช ทุ่มเงินไปเป็นจำนวนมากในการเสริมทัพ ก็ไม่รู้ว่านักเตะที่ก้าวเข้ามาในทีมนั้น จะประสบความสำเร็จมากน้อยแค่ไหน แต่นักเตะที่ไม่ประสบความสำเร็จเอาซะเลย ก็มีอยู่ไม่น้อยเหมือนกัน
10.คาลิด บูห์ลารูซ
กองหลังเบอร์ 9 เจ้าของฉายา “เดอะ แคนนิบัล” (Cannibal) ย้ายมาเป็นบ่อน้ำมันชั้นดีในถิ่น สแตมฟอร์ด บริดจ์ ด้วยค่าตัวสูงถึง 8 ล้านปอนด์ ให้เล่นทั้งแบ็กขวาและเซนเตอร์ฮาล์ฟก็ไม่มีแนวโน้มว่าจะดีขึ้น จึงปล่อยให้กับ เซบีญา ยืมตัวใช้งาน พร้อมขายเลหลังออกไปแล้วตามระเบียบ
9.อาซิเอร์ เดล ออร์โน
โฮเซ มูรินโญ ต้องการแก้ปัญหาเรื้อรังที่แบ็กซ้ายของ เชลซี ในเวลานั้น จึงดึงตัวมาจาก แอธเลติก บิลเบา ด้วยค่าตัว 8 ล้านปอนด์ แต่ เดล ออร์โน ก็ไม่สามารถปรับตัวเข้ากับลีกอังกฤษได้ จนถูกขายออกไปให้กับ บาเลนเซีย จากนั้นก็เงียบหายไปแบบถาวร แม้แต่ทีมชาติสเปน ก็ไม่มีวี่แววว่าจะได้กลับมาติดธงอีก
8.สกอตต์ ปาร์คเกอร์
คล้ายๆ กับกรณีของ ไรท์-ฟิลลิปส์ แจ้งเกิดกับ ชาร์ลตัน แอธเลติก จนติดทีมชาติอังกฤษ ย้ายมาด้วยค่าตัว 10 ล้านปอนด์ จากนั้นก็หลุดจากทำเนียบ “สิงโตคำราม” แบบถาวร เนื่องจากแย่งตำแหน่งจาก แฟรงค์ แลมพาร์ด และ โคลด มาเกเลเล ไม่ได้ แล้วถูกจับนั่งดองอยู่ข้างสนาม ก่อนย้ายไปจะเริ่มชีวิตใหม่ กับ นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด
7.เฌเรมี่ เอ็นฌิตั๊ป
ถือเป็นนักเตะคนแรกที่ย้ายมาในยุคเรืองอำนาจของ โรมัน อบราโมวิช ด้วยค่าตัวจิ๊บจ๊อยเพียงแค่ 7 ล้านปอนด์ จาก รีล มาดริด แต่ก็แทบจะไม่ค่อยมีบทบาทในถิ่น สแตมฟอร์ด บริดจ์ แม้ว่าจะเล่นได้สารพัดตำแหน่งทั้งกองกลาง, ปีกขวา และ แบ็กขวา แต่ก็ลงเล่นไปแค่ 28 นัดเท่านั้น
6.เดเมียน ดัฟฟ์
เชลซี ตัดหน้า แมนฯยูไนเต็ด คว้าไปด้วยค่าตัว 17 ล้านปอนด์ และ ดัฟฟ์ก็หมดอนาคตทันทีที่เมื่อ ยังมึนอยู่ดันคว้าตัว อาร์เยน ร็อบเบน ปีกเลือดดัตช์ ย้ายเข้ามาทับตำแหน่ง อีกทั้งปัญหาอาการบาดเจ็บรุมเร้าสารพัดก่อน ดัฟฟ์ จะย้ายไปอยู่กับ นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด ด้วยค่าตัวแค่ 5 ล้านปอนด์ แต่ก็ไม่มีทีท่าจะเกิดใหม่อีกครั้ง
5.ฌอน ไรท์-ฟิลลิปป์ส
ย้ายด้วยค่าตัวสุดช็อก 21 ล้านปอนด์ แต่พอย้ายค้าแข้งกับสิงห์บูลฟอร์มเก่งหดหายจนกระทั่งหลุดจากทีมชาติอังกฤษ และถูกปล่อยกลับให้ แมนฯซิตี้ ลงเล่นในรังเก่า “เรือใบสีฟ้า” 2 นัด คืนฟอร์มเทพในทันที ซัดไปได้ 2 ประตู ทำเอาแฟนบอล งงเหมือนกันว่าทำไมเล่นในสีเสื้อของ เชลซี ถึงเหมือนเป็นคนละคนแบบนี้
4.ฮวน เซบาสเตียน เวรอน
ล้มเหลวกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แต่ เชลซี ก็อุตส่าห์เซ้งต่อไปอีกด้วยค่าตัว 15 ล้าน ในปี 2003 ซึ่งผลงานก็ยังคงดำดิ่ง จนแฟนๆ “สิงห์บลูส์” ลืมไปแล้วว่าเคยมีแข้งอาร์เจนไตน์ รายนี้อยู่ในถิ่น สแตมฟอร์ด บริดจ์ จึงเป็นเรื่องไม่แปลกเลยที่ เชลซีต้องปล่อยให้ทีมอื่นยืมตัวไป ก่อนจะปล่อยตัวไปแบบฟรีๆ ในช่วงซัมเมอร์
3.เอเดรียน มูตู
หลังย้ายมาด้วยค่าตัว 15.8 ล้านปอนด์ ในปี 2003 แข้ง โรมาเนียน ก็ยังมีผลงานที่อยู่ในเกณใช้ได้ แต่ในที่สุดหลงแสงสีในกรุงลอนดอนจนถอนตัวไม่ขึ้นฝีเท้าเริ่มตกต่ำลง จนกระทั่งถูกจับได้ว่าเสพโคเคน! โดนแบนนานถึง 7 เดือน แถมยังถูกสั่งให้จ่ายเงินชดใช้สโมสรอีก 13 ล้านปอนด์ (โทษจากยาเสพติด เสียผู้เสียคนไปเยอะแล้วนะครับเพื่อนๆ)
2.เฮอร์นัน เครสโป
เคยขึ้นชื่อว่าเป็นสุดยอดกองหน้าที่จบสกอร์ดีที่สุดในโลก ย้ายมาอยู่กับ เชลซี ด้วยค่าตัว 16.8 ล้านปอนด์ ในปี 2003 แต่ เครสโป มีปัญหาในการปรับตัวเข้ากับสไตล์ฟุตบอลอังกฤษ(อย่างแรง) ก่อนที่จะถูกปล่อยให้ เอซี มิลาน และ อินเตอร์ มิลาน ยืมตัว จนเชลซีอดทนไม่ไหวจำใจปล่อยฟีไปชนิด ที่เชลซี ไม่ได้อะไรเลย
1.อังเดร เชฟเชนโก
แม้ค่าตัว 30 ล้านปอนด์ ในการย้ายจาก เอซี มิลาน จะไม่กระเทือนขนหน้าแข้งของ “เสี่ยหมี” โรมัน อบราโมวิมหาเศรษฐีชาวรัสเซีย แต่ถือเป็นการเสริมทัพที่สิ้นคิด เพราะอายุอานามของหอกทีมชาติยูเครน ตอนนั้นก็ปาเข้าไป 29 ปี หลังความล้มเหลวใน เดอะบริจด์ 2 ปี “เซว่า” ก็ต้องซมซานย้ายกลับรังเก่าแบบยืมตัวในที่สุด
เครดิตข่าวจาก
http://sport.mthai.com/write-sport-mthai/63470.html
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
