1-0 ที่ สแตมฟอร์บริด แพ้ก้ออ้างกรรมการ




ฟุตบอลพรีเมียร์ ลีก อังกฤษ 2009-10

วันอาทิตย์ที่ 8 พฤศจิกายน 2552



เชลซี 1 : 0 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด


      สนาม : สแตมฟอร์ด บริจด์
      ผู้ตัดสิน : มาร์ติน แอตคินสัน
      เตะเวลา : 23.00 น.
      รายชื่อผู้ทำประตู :จอห์น เทอร์รี่ น.76

      ฟุตบอลพรีเมียร์ ลีก อังกฤษ 2009-10 วันอาทิตย์ที่ 8 พฤศจิกายน 2552 ซูเปอร์ซันเดย์ บิ๊กแมตช์ เชลซี เปิดรัง สแตมฟอร์ด บริจด์ รับการมาเยือนของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เป็นเกมที่มีความหมายกับทั้ง 2 ทีมเพราะหากใครชนะจะนำเป็นจ่าฝูง เจ้าถิ่นส่ง นิโกล่าส์ อเนลก้า, ดีดิเย่ร์ ดร็อกบา ลงล่าตาข่าย ขณะที่ทีมเยือน ค่อข้างมีปัญหาในส่วนของผู้เล่นแนวรับ เวย์น รูนี่ย์ ยืนเป็นหน้าสูง ไรอัน กิ๊กส์, วาเลนเซีย เชื่อมเกมส์ ซ้าย-ขวา

      ครึ่งแรก
      ก่อนเกมมีการยืนสงบนิ่ง รำลึกเนื่องในวันทหารผ่าศึก! แมนยู เป็นฝ่ายเขี่ยลูกเริ่มเล่น บุกจากซ้ายไปขวา นาทีที่ 5 เป็น เชลซี ที่ได้ลุ้น!! บอลจากทางขวา อิวาโนวิช ได้กดในเขตโทษ ฟาน เดอร์ ซาร์ เซฟไว้ได้

      นาทีที 11 แมนยู ได้ลุ้น! ปาทริซ เอวร่า แทงให้ รูนี่ย์ แตะหนี คาร์วัลโญ่ ในเขตโทษ ก่อนตัดสินใจซัดที่เสาแรก บอลแฉลบออกหลัง

      นาทีที่ 17 เชลซี ขึ้นเกมบุกมาทางขวา! บัลลัค วางเข้ามาในเขตโทษให้ ดร็อกบา ขึ้นโขกโดนไม่ดีบอลออกหลัง

      นาทีที่ 23 เชลซี ได้ลูกฟรีคิกนอกกรอบเยื้องออกมาทางซ้าย แลมพาร์ด ปั่นโค้งบอลหลุดสามเหลี่ยมเสาไกล ออกหลัง

      เชลซี ได้ลูกฟรีคิกอีกครั้ง จากจังหวะที่ บราวน์ ทำฟาวล์ ดร็อกบา, แลมพาร์ด ซัดด้วยขวาไม่ผ่านกำแพง

      แมนยู ได้ลุ้น! นาทีที่ 31 คาร์ริค ส่องไกลจากนอกกรอบ บอลตกพื้นหนึ่งจังหวะ ทว่า เช็ก ไม่พลาดรับเข้าซอง ถัดมา 1 นาที่ เชลซี ได้ทำเกมขึ้นมาบ้าง! บอลทางขวา อเนลก้า ลากตัดเข้ามาก่อนปั่นด้วยขวา เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ ต้องออกแรงเซฟอีกครั้ง

      เข้าสู่ช่วงท้าย เกมแลกกันสนุก ต่างฝ่ายต่างมีจังหวะเข้าทำ ทว่ายังพลาดในพื้นที่สุดท้าย จบครึ่งแรก รวมทดเวลาบาดเจ็บ 1 นาที สกอร์ยังอยู่ที่ 0:0 เปอร์เซ็นต์ ครองบอล เชลซี เหนือกว่า แมนยู 56 ต่อ 44 เปอร์เซ็นต์

      ครึ่งหลัง
      ครึ่งหลังเริ่มเตะทั้งสองทีมยังไม่มีรายงานการเปลี่ยนตัวผู้เล่น แมนยู ได้ลุ้นครั้งแรก!! รูนี่ย์ บังบอลก่อนจ่ายเข้ามากลาง เฟล็ทเชอร์ วิ่งเข้ามากดด้วยขวา บอลโด่งข้ามคาน

      นาทีที่ 48 แมนยู ได้ลุ้นอีกครั้ง!! รูนี่ย์ ได้บอลทางขวาของเขตโทษ เปิดย้อนเข้าไปในเขตโทษทางซ้าย ไรอัน กิ๊กส์ ตักไปจะให้ แอนเดอร์สัน ที่เสาไกล บอลหลุดออกหลังไม่ได้ลุ้น

      นาทีที่ 54 กิ๊กส์ เกี่ยว อิวาโนวิช ล้มลงหน้าเขตโทษ ผู้ตัดสินเป่าเป็นฟรีคิก ดร็อกบา ซอยเท้ายิกๆ วิ่งเข้ามากดด้วยขวา บอลติดกำแพง!

      นาทีที่ 61 เชลซี ได้ลุ้น!! อเนลก้า โยกหลอก เอวร่า ก่อนปิดตักเข้ามากลาง เฟล็ทเชอร์ โขกสกัดเข้าทาง แลมพาร์ด ซัดจากนอกกรอบ บอลพุ่งเข้าซอง เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์

      นาทีที่ 63 เชลซี เปลี่ยนตัวผู้เล่น ถอด เดโก้ ที่ไม่ค่อยมีบทบาทในเกมนี้ออกไปพักส่ง โจ โคล ลงมาแทน เป็นการลงสนามฉลองวันเกิดของเจ้าตัวในเกมนี้

      นาทีที่ 67 แมนยู ใกล้เคียงกับการได้ประตูขึ้นนำ!! เวย์น รูนี่ย์ แทงบอลออกขวาเข้าไปในเขตโทษ ให้ วาเลนเซีย ก่อนที่วาเลนเซีย จะจ่ายคืนให้ รูนีย์ ซัดด้วยขวาบอลฉีกหลุดเสาไกลออกหลังแค่ 2 คืบ

      แมนยู ทำเกมได้วูบวาบขึ้น!! นาทีที่ 68 รูนี่ย์ ได้บอลหน้าเขตโทษเยื้องทางซ้าย ก่อนแต่งเข้าขวาปั่นโค้งไปที่เสาไกล ปีเตอร์ เช็ก ต้องปัดออกหลัง

      เกมหยุดไปหลายนาที!! นาทีที่ 73 ดร็อกบา โดนตรีน อีแวนส์ ยันเข้าเต็มหน้าอกในจังหวะขึ้นโหม่งแย่งบอล ลงไปนอนดิ้นพล่าน ผู้ตัดสินมองว่าเป็นจังหวะฟาวล์ชักใบเหลืองแจกให้ ดร็อกบา ชนิดค้านสายตาคนดูที่มองจากภาพช้า

      กองเชียร์เจ้าถิ่นเฮลั่น!! นาทีที่ 76 จากจังหวะลูกฟรีคิกทางซ้ายของเขตโทษ แลมพาร์ด ครอสเข้ามากลาง เทอร์รี่ ขึ้นโขกเช็ด ส่งบอลผ่านมือ ฟาน เดอร์ ซาร์ เชลซี ขึ้นนำ 1:0

      นาที่ที่ 79 เชลซี ทำเกมบุกขึ้นมาอีกครั้ง! บอลทางขวา อเนลก้า ลากไปเกือบสุดเส้นหลังก่อนเปิดยัดมาที่เสาแรก เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ ล้มตัวรับเข้าซอง

      นาทีที่ 82 เชลซี เปลี่ยนตัวผู้เล่น ดร็อกบา ถูกถอดออก โซโลมง กาลู ลงมาเล่นแทน ขณะที่ แมยู เปลี่ยน ไมเคิ่ล โอเว่น ลงมาแทน แอนเดอร์สัน อีกคนเป็น โอแบร์ต็อง ที่ลงมาแทน กิ๊กส์

      ทดเวลาบาดเจ็บ 5 นาที แมนยู ได้ลูกเตะมุมทางขวา วาเลนเซีย เปิดเข้ามากลาง อีแวนส์ ที่เติมเกมขึ้นมาโขกข้ามคาน

      เชลซี เปลี่ยนตัวผู้เล่นเพื่อดึงเวลา! อเล็กซ์ ลงมาแทน อเนลก้า แมนยู ได้ลูกเตะมุมอีกครั้ง! โอแบร์ต็อง เปิดมาที่เสาแรกโดน อีแวนส์ ออกหลัง จบเกม เชลซี เปิดบ้านเอาชนะ แมนยู 1:0 รั้งจ่าฝูงต่อไป


รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม

เชลซี : ระบบ 4-4-2
ผู้รักษาประตู : ปีเตอร์ เช็ก
กองหลัง : อิวานโนวิช, ริคาร์โด้ คาร์วัลโญ่, จอห์น เทอร์รี่, แอชลี่ย์ โคล
กองกลาง : เดโก้ (โจ โคล น.63), มิชาเอล บัลลัค, แฟร้งค์ แลมพาร์ด, มิกาแอล เอสเซียง
กองหน้า : นิโกล่าส์ อเนลก้า, ดีดิเย่ร์ ดร็อกบา (โซโลมง กาลู น.82)
สำรอง :โจ โคล, จอห์น โอบี มิเกล, ฟลอร็อง มาลูด้า, เปาโล เฟอร์ไรร่า, กาลู, อเล็กซ์, ฮิลาริโอ


แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด : ระบบ 4-3-3
ผู้รักษาประตู : เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์
กองหลัง : จอห์น โอเชีย, เวสต์ บราวน์, จอห์นนี่ อีแวนส์, ปาทริซ เอวร่า
กองกลาง : ดาร์เรน เฟล็ทเชอร์, หลุยส์ เดอ อับรู แอนเดอร์สัน (ไมเคิ่ล โอเว่น น.85), ไมเคิ่ล คาร์ริค
กองหน้า : เวย์น รูนี่ย์, ไรอัน กิ๊กส์ (โอแบร์ต็อง น.85), อันโตนิโอ วาเลนเซีย
สำรอง :ไมเคิ่ล โอเว่น, เนมานย่า วิดิช, พอล สโคลส์, ฟาบิโอ ดา ซิลวา, กาเบรียล โอแบร์ต็อง, ดาร์รอน กิ๊บสัน, โทมัส คูแซ็ค


ผลฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ
ฮัลล์ ซิตี้ 2:1 สโต๊ค ซิตี้
เวสต์แฮม 1:2 เอฟเวอร์ตัน
วีแกน 1:1 ฟูแล่ม
เชลซี 1:0 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด







เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์