ปืนนำโด่งชนะ 3-2 ซิวแชมป์เสียว

ปืนนำโด่งชนะ 3-2 ซิวแชมป์เสียว

ปืนใหญ่อาร์เซนอลคว้าแชมป์เอมิเรสต์ คัพที่ตัวเองเป็นเจ้าภาพไปครองชนิดแอบเสียวท้ายเกมหลังพับสนามยำเซลติกนำก่อน 3-0 แต่ถูกไล่มา 3-2 ก่อนปิดเกมเข้าป้ายในที่สุด

เอมิเรสต์ คัพ

วันอาทิตย์ที่ 1 สิงหาคม 2553


อาร์เซนอล 3-2 กลาส์โกว์ เซลติก

ผู้ชม :59,727 คน

ประตู : 1-0 เวล่า น.3,2-0 ซาญ่า น.45,3-0 นาสรี่ น.51,3-1 เมอร์ฟีย์ น.71,3-2 คี ซุง ยัง น.83



ครึ่งแรก
สิ้นเสียงกรรมการเป่าเริ่มเกมอาร์เซนอลต่อบอลทำชิ่งราวกับหิวกระหายเลือดและแค่ 20 วินาทีก็ลำเลียงบอลมาถึงกรอบเขตโทษแต่จังหวะสุดท้ายลั่นกันเอง

แต่แค่ 2 นาทีเศษประตูแรกในเกมนี้เกิดขึ้นจนได้และเป็นเจ้าถิ่นที่ขึ้นนำจากจังหวะที่วิลเชียร์ลากตะแคงตรงหน้าเขตโทษแล้วแทงบอลไหลให้วัลค็อตต์หลุดเข้าเขตโทษด้านขวาแล้วล้มตัวเปิดเลียดน้ำหนักสุดยอดให้เวล่าล้มตัวสไลด์ไถจ่อๆ 3 หลาเข้าไปที่เสาสอง

เซลติกพยายามเปิดเกมสู้จนได้ครองบอลมากขึ้นตามลำดับแต่ความว่องไวยังไม่สูงพอที่จะเจาะแนวรับปืนใหย่ที่มีเฌอรูและเฟอร์มาเล่นยืนคุมเอาไว้อยู่หมัด

นาที 15 เฟอร์มาเล่นได้บอลกลางสนามแล้วเห็นไม่มีใครเข้าเลยลากติดเครื่องเอื่อยๆมาถึงระยะ 30 หลาก่อนส่องเต็มตีนเตี่ยจนลูคัส ซาลัสก้านายทวารต้องผวาล้มตัวเซฟปัดกระดอนกลางอากาศวัลค็อตต์วิ่งมาเล่นก็ถูกจับล้ำหน้าไปเลย

ยามนักเตะปืนใหญ่ได้ครองบอลการเคลื่อนไหวสุดยอดมากนาที 25 โรซิคกี้ได้บอลหันหลังให้กองหลังแล้วทำท่าจะเลี้ยงไปด้านหน้าแต่สับหลอกแล้วลากย้อนหลังก่อนเลี้ยงตัดมาหน้าเขตโทษฝ่าดงตีแข้งเซลติกแล้วปาดทะลุช่องให้เจ้าหนูโธมัสหมุนตัวพลิกบอลก่อนยิงข้ามคานออกไปเอง ระบบของเขาดีจริงใครมาเล่นที่นี่มีส่วนร่วมกับเกมทุกคน

เกมยังเป็นของเจ้าถิ่นเช่นเคยนาที 33 วัลคอตต์อาสารับหน้าที่ยิงฟรีคิกระยะ 25 หลาโดยวิ่งมาปั่นไซด์อ้อมกำแพงแต่ซาลุสก้าลอยตัวปัดมือเดียวข้ามคานเสียเตะมุม

อีกไม่ถึงนาทีปืนใหญ่น่าได้ประตูอย่างที่สุดหลังคลิชี่วิ่งทะลุรับบอลจากที่เพื่อนแทงมาให้ตรงริมกรอบโทษฝั่งซ้ายแล้วไม่โยนเลือกล็อกเข้ามาในแล้วไหลให้วิลเชียร์วิ่งแปยิงเหน่งๆแต่ซาลุสก้าบินปัดข้ามคานช็อกอีกหน

จากจังหวะเตะมุมเป็นลูกสูตรเปิดย้อยมานอกเขตโทษตรงหัวกระโหลกก่อนวิลเชียร์ง้างตีนรอซัดตามน้ำบอลติดไซด์พุ่งชนคานสุดยอด ฤดูกาลใหม่นี้สงสัยวิลเชียร์ท่าจะเกิด ไม่เหมือนเด็กเล่นเลยจริงๆให้ตายสิ

นาทีสุดท้ายของครึ่งแรกอาร์เซนอลมาหนีเป็น 2-0 จากจังหวะเตะมุมที่บอลเสียจังหวะต้องมาเก็บตกตรงเส้นหลังกันใหม่ก่อนที่ซาญ่าจะได้ลูกที่เพื่อนตั้งมาให้วิ่งยิงด้วยอีซ้ายบอลเลียดเบียดเสามุมแคบเข้าไปตุงซวบ 2-0

ครึ่งหลัง
เล่นมาได้ 5 นาทีปืนใหญ่มาหนีเซลติกเป็น 3-0 จากลูกที่ทีมเยือนเจอแย่งบอลกลางสนามทีนี้เจอชิ่งเร็วบอลทะลุช่องเข้าเขตโทษด้านขวาไปถึงวัลค็อตต์ที่เลี้ยงนัวเนียลนลานจนกองหลังก็งงสุดท้ายแข้งดาวรุ่งแยงตั้งบอลไหลให้นาสรี่ตัวสำรองวิ่งมาแปเหมือนยิงจุดโทษสวนเซอร์วี่นายทวารสำรองที่พุ่งไม่ทันเข้าไปง่ายๆ 3 เม็ดแล้ว

เกมที่เหนือกว่าแต่แล้วเซลติกค่อยๆชวนทะเลาะและน่าจะตีไข่แตกได้หลังวิลเชียร์เฟอะฟะไปดึงผู้เล่นเซลติกทั้งๆที่บอลออกนอกเขตโทษไปแล้วเลยเสียจุดโทษโง่ๆแต่ซามาราสดันยิงน่าเกลียดข้ามคานโง่เข้าไปอีกแต่จากนั้นไม่นานเซลติกได้เตะมุมแล้วเล่นสั้นซามาราสไหลให้เพื่อนยิงไกลบอลแฉลบกระเด้งกระดอนแล้วไหลไปเข้าทางดาริล เมอร์ฟีย์แข้งใหม่ของม้าลายเขียวขาวที่ตะบันเผาขนเป็นลูกแรกหน้าตาเฉย

ตอนนี้อาร์เซนอลชักบอลป่วนเพราะเซลติกกดดันบอมบ์หนักมากโดยเฉพาะลูกกลางอากาศและนาที 75 เกือบไล่มา 3-2 จากลูกเตะมุมเป็นรอกเน่พุ่งมาโหม่งอัดเอบูเอกระเด้นระยะแค่ 5 หลาบอลกำลังจะเข้าอยู่แล้วแต่อัลมูเนียบิยปัดบนเส้นข้ามคานเหลือเชื่อ

นาที 81 เซลติกส่วนกลับน่าจะได้สุดๆหลังลูกแทงทะลุให้ซามาราสตรงปีกขวาคอลชินี่กะจังหวะผิดสไลด์พลาดถูกแข้งกรีซยกหนีแล้วลากจี้เดี่ยวเข้ามาถึงหน้าเขตโทษแล้วป้ายไหลให้เมอร์ฟีย์ซัดติดเซฟแฉลบไม่เข้าอีก

แต่แล้วอีก 2 นาทีต่อมาเซลติกทำเอาแฟนเดอะกันเนอร์ก้นไม่ติดเก้าอี้แล้วหลังถูกไล่มาเป็น 3-2 จากจังหวะที่ฮูเวลด์หลุดมาเปิดบอลตรงริมกรอบเขตโทษฝั่งขวาเลียดให้ คี ซุง ยังวิ่งมาแปยัดตรงตัวใส่อัลมูเนียบอลแฉลบตุงตาข่ายเข้าไปเลยแต่เวลาที่เหลือทีมเยือนกดดันไม่เป็นผลอาร์เซนอลชนะด้วยสกอร์นี้คว้าแชมป์เอมิเรสต์ คัพเป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน

รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม

อาร์เซนอล :
มานูเอล อัลมูเนีย,บาคารี่ ซาญ่า(เอบูเอ้ น.62),โธมัส เฟอร์มาเล่น(คอสชิลนี น.74),โยฮัน เฌอรู,กาเอล คลิชี่ย์(กิบส์ น.62),เอ็มมานูเอล ฟริมพอง,โทมัส โรซิคกี้(นาสรี่ น.46),แจ็ค วิลเชียร์,ธีโอ วัลค็อตต์,เอ็มมานูเอล โธมัส(ชามัค น.46),คาร์ลอส เวล่า(อาร์ชาวิน น.62)

กลาส์โกว์ เซลติก : ลูคัส ซาลุสก้า(เซอร์วี่ น.46),อันเดรส ฮินเคล(ซามาราส น.61),เอเฟรน ฆัวเรส,ยอส ฮูเวลด์,ฌอน มาโลนีย์,มาร์ค โครซัส(ชา ดู รี น.61),คี ซุง ยัง,มอร์เท่น ราสมุสเซ่น(ฟอร์จูน น.61),ชารลี มัลเกรว(วาร์ดซิค น.67),โธมัส ร็อกเน่,ดาริล เมอร์ฟีย์(ฮูเปอร์ น.86)


















 

##### ได้รู้ความจริง ได้ยิ่งกว่าฟุตบอล อ่าน SoccerSuck #####


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์