คาร์ลิ่ง คัพ ถ้วยเล็กๆ ที่ไม่เล็กอีกต่อไปสำหรับ ปืนใหญ่ โดย.. บ่อน้ำร้อน

เพราะว่านอล ว่าวมานาน เลยต้องการมาก ๆ



คาร์ลิ่ง คัพ หรือที่แฟนบอลชาวไทยเรียกกันสนุกปากว่า มิคกี้ เมาส์ คัพ ด้วยความที่มันเป็นรายการที่ได้รับความสำคัญเป็นลำดับที่ 3 ของเกาะอังกฤษ รองจากศึกพรีเมียร์ลีก และ เอฟเอ คัพ ทำให้บรรดาทีมยักษ์ใหญ่ไม่ค่อยจริงจังกับรายการนี้มากนัก และมักจะใช้เป็นเวทีให้พวกนักเตะดาวรุ่งได้ลงมาหาประสบการณ์อยู่เป็นประจำ ส่วนทีมที่เน้นในรายการนี้จะเป็นทีมระดับกลางตารางลงมา เพราะมีเดิมพันสูงถึงการได้สิทธิ์ไปเล่นถ้วยยูโรป้า ลีก เลยทีเดียว 



อาร์เซน่อล เป็นทีมหนึ่งที่เน้นการส่งนักเตะดาวรุ่งลงสัมผัสประสบการณ์ฟุตบอลระดับสูงในศึกคาร์ลิ่ง คัพ ตลอดช่วงหลายปีที่ผ่านมา และ อาร์แซน เวนเกอร์ มักจะย้ำเสมอว่า ถ้วยคาร์ลิ่ง คัพ ถือเป็นผลงานของแข้งดาวรุ่ง ถ้าบรรดานักเตะวัยละอ่อนอยากลงสนามให้ทีมชุดใหญ่หลายๆ ครั้งในแต่ละฤดูกาล พวกเขาต้องพยายามพาทีมเข้ารอบลึกๆ ในถ้วยมิคกี้ เมาส์ ใบนี้ให้ได้ จึงไม่น่าแปลกใจที่นักเตะกำลังหลักของทัพ ปืนใหญ่ มักจะแจ้งเกิดจากศึกคาร์ลิ่ง คัพ ทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็น เชส ฟาเบรกาส, กาแอล กลิชี่, เดนิลสัน, คาร์ลอส เวล่า, อเล็กซ์ ซง หรือ นิคลาส เบนท์เนอร์
 

แต่ดูเหมือนเรื่องราวเหล่านั้นจะเป็นอดีตไปแล้วสำหรับ อาร์เซน่อล ในฤดูกาลนี้ เมื่อพวกเขาไม่สามารถคว้าแชมป์รายการใดได้เลยนับตั้งแต่แชมป์เอฟเอ คัพ เมื่อปี 2005 รวมแล้วเป็นเวลา 5 ปีเต็มที่พวกเขาไร้แชมป์ติดมือ นั่นทำให้ เวนเกอร์ ต้องเผชิญกับแรงกดดันมหาศาลที่ถาโถมลงมา บีบให้เขาต้องพยายามพาทีมคว้าแชมป์รายการใดรายการหนึ่งให้ได้ในฤดูกาลนี้ ดังนั้น แม้แต่ถ้วยน้ำพริกอย่าง คาร์ลิ่ง คัพ ก็ไม่ใช่รายการที่จะมองข้าม หรือปล่อยให้เป็นหน้าที่ของนักเตะดาวรุ่งอย่างเดียวได้อีกต่อไป
 

เราได้เห็นแล้วว่า กุนซือเฟร้นช์แมน รู้สึกแบบนั้นเช่นกัน ดังจะเห็นจากรายชื่อผู้เล่น 11 คนแรกที่ เวนเกอร์ ส่งลงสนามในเกมที่บุกไปเอาชนะ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ในช่วงต่อเวลาพิเศษ 4-1 เกมคาร์ลิ่ง คัพ รอบ 3 เมื่อวันอังคารที่ 21 ก.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งผู้เล่นประสบการณ์สูงอย่าง โทมัส โรซิชกี้, ซามีร์ นาสรี่, เอ็มมานูเอล เอบูเอ้, เดนิลสัน และ คาร์ลอส เวล่า ล้วนได้ลงสนามอย่างครบครัน ขณะที่ดาวรุ่งอีกหลายคนก็ล้วนแต่เป็นดาวรุ่งที่มีประสบการณ์ดีกรีระดับทีมชาติทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็น แจ็ค วิลเชียร์, คีแรน กิ๊บบ์ส และ โยฮัน ฌูรู ขณะที่ทัพ ไก่เดือยทอง มีทั้ง ไคล์ นอห์ตัน, สตีเว่น คอลเกอร์ และ ซานโดร รานิเอรี่ 3 ดาวรุ่งที่เพิ่งจะได้สัมผัสเกมคาร์ลิ่ง คัพ เป็นครั้งแรก!
 

เวนเกอร์ คงปฏิเสธไม่ได้แน่นอนว่า เขาไม่ได้ให้ความสำคัญกับ คาร์ลิ่ง คัพ มากขึ้น เมื่อดูจากผู้เล่นที่เขาจัดลงสนาม แม้เขาอาจจะอ้างได้บ้างว่านี่เป็นศึกศักดิ์ศรีของแมตช์ดาร์บี้แห่งกรุงลอนดอน อย่างที่เขาอธิบายไว้ว่า เรามักจะโดนติติงอยู่บ้างว่าเราไม่ให้ความสำคัญกับรายการนี้ และนี่ยังเป็นเกมดาร์บี้อีกด้วย การที่ต้องตกรอบไปทันทีคงไม่ใช่เรื่องดีสำหรับเรา เรากำลังมีขวัญกำลังใจที่ดี เราไม่อยากทำให้มันสะดุด ถ้าทุกคนฟิตสมบูรณ์ ผมก็สามารถเดินหน้าต่อไปได้ในรายการนี้
 

ด้าน โรชิซกี้ รู้สึกว่าทีมควรจะเน้นในรายการนี้มากขึ้นเช่นกัน หลังจากเขาเคยคว้าแชมป์ลีกบ้านเกิด 3 สมัย ร่วมกับ สปาร์ต้า ปราก และยังคว้าแชมป์บุนเดสลีกา เยอรมัน ร่วมกับ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ เมื่อฤดูกาล 2001-02 แต่ไม่เคยสัมผัสแชมป์อะไรเลยตั้งแต่ย้ายมายังถิ่นเอมิเรตส์ สเตเดี้ยม เมื่อปี 2006 โดยกล่าวว่า มันสำคัญมากที่จะหยุดสถิติไร้ถ้วยเสียที เพราะเราคว้าแชมป์อะไรไม่ได้เลยมานานแล้ว คุณก็เห็นว่าผู้จัดการทีมมุ่งมั่นจะคว้าแชมป์รายการนี้ให้ได้มากกว่าแต่ก่อน เพราะเขาจัดทีมชุดแข็งแกร่งลงเจอกับ ท็อตแน่ม ผมมั่นใจว่าเขาอยากคว้าแชมป์ให้ได้ นี่ทำให้เรามีโอกาสดีขึ้นที่จะคว้าแชมป์ เรามีทีมที่ดีพอจะลงแข่งในทุกระดับ ผมมาที่นี่เมื่อปี 2006 และยังไม่ได้แชมป์อะไรเลย นี่เป็นโอกาสที่ดีแล้ว
 

ฤดูกาลนี้เป็นโอกาสที่ดีของ อาร์เซน่อล ในการคว้าแชมป์คาร์ลิ่ง คัพ อย่างที่ มิดฟิลด์ทีมชาติสาธารณรัฐเช็ก กล่าวไว้จริงๆ เมื่อทั้ง เชลซี, ลิเวอร์พูล และ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ต่างพาเหรดตกรอบกันไปหมดแล้ว เหลือเพียง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เป็นยักษ์ใหญ่อีกทีมเดียวที่ยังเหลืออยู่ และถูกวางให้เป็นเต็ง 1 ของรายการ และ อาร์เซน่อล ตามมาเป็นเต็ง 2 โดยมี แอสตัน วิลล่า กับ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด เป็นเต็ง 3 และ 4 ตามลำดับ อาร์แซน เวนเกอร์ จึงไม่ควรปล่อยโอกาสนี้ให้หลุดลอยไปด้วยประการทั้งปวง
 

ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเหล่าสาวก เดอะ กันเนอร์ส เองก็ต้องการคว้าแชมป์คาร์ลิ่ง คัพ ฤดูกาลนี้ไม่น้อยกว่ารายการอื่นๆ ฟังได้จากเสียงเชียร์กึกก้องที่ไวท์ ฮาร์ท เลน เมื่อคืนวันอังคารที่ผ่านมา แม้ส่วนหนึ่งจะมาจากการถล่มคู่ปรับตัวฉกาจได้ก็ตาม เพราะจังหวะนี้ไม่ว่าจะแชมป์รายการอะไรก็ได้ทั้งนั้น ขอให้ทีมกลับมาคว้าแชมป์ได้บ้างเป็นพอ เวนเกอร์ เองก็คงตระหนักเรื่องนี้ดี ขอแค่พวกเขาผ่าน นิวคาสเซิ่ล ให้ได้ในรอบ 4 และจะเป็นการดีกว่าหากหลีกเลี่ยงการไปเยือนโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ในอีก 2 รอบถัดไปได้ พลพรรค ปืนใหญ่ จะมีโอกาสที่ดีที่จะได้ไปเหยียบเวมบลีย์อีกครั้ง



     บ่อน้ำร้อน



 


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์