ขอเป็นครั้งสุดท้ายของกลิชี่และแน่นอน....กัลลาส์ด้วย

ขอเป็นครั้งสุดท้ายของกลิชี่และแน่นอน....กัลลาส์ด้วย



ลูกเสียบสยองของมาร์ติน เทย์เลอร์จนขาเอดูอาร์โด้ ดา ซิลวาหักสองท่อนน่าจะเป็นugliest momentในเกมที่สนามเซนต์ แอนดรูว์เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาแต่ความผิดพลาดของกาเอล คลิชี่ทำให้ความตั้งใจเอาสามแต้มมาเซ่นกลายเป็นบรรยากาศในแคมป์ปืนใหญ่ deep down สุดๆ

ประเด็นในเกมดราม่า 2-2 มีให้พูดถึงเยอะครับแต่ที่ต้องเริ่มก่อนเลยคือการเข้าบอลอันโหดเหี้ยมของเทย์เลอร์ที่ ณ เวลานี้ลองเซิร์ซชื่อ Martin Taylor soccer (ถ้าไม่ระบุ soccer ระบบจะมุ่งหน้าไปที่นักกีตาร์ชาวอังกฤษที่มีชื่อเสียงกว่า) จะมีแต่เหตุการณ์สยองหรือแม้กระทั่งการตั้งกระทู้เปิดประเด็นในยาฮูว่ากองหลังจอมหักกระดูกผู้นี้สมควรเข้าคุกและแบนจากฟุตบอลตลอดชีพหรือไม่!!!

ปฏิกริยาจากนักเตะของอาร์เซนอลโดยเฉพาะเชสก์ ฟาเบรกัสทำให้คนดูทั้งในสนามและทางหน้าจอโทรทัศน์รับรู้ได้ทันทีว่างานนี้มีหัก 100 %

หลังถูกหามพร้อมออกซิเยนดาวยิงโครเอเชียใช้เวลาเกือบตลอดทั้งวันเสาร์อยู่ที่โรงพยาบาลเมืองเบอร์มิงแฮมและกรุณาอย่าเพิ่งพูดถึงรายการยูโร 2008 เอาแค่กลับมาเล่นให้เหมือนปกติในฤดูกาลหน้าผมว่าเป็นเรื่องโชคดีอย่างที่สุดสำหรับตัวผู้เล่นและปืนใหญ่เอามากๆแล้ว

อเล็กซ์ แม็คลีชผู้จัดการทีมลูกโลกใจร้อนไปนิดที่รีบปกป้องหลังสิ้นสุดเกมทั้งๆที่ยังไม่ได้ดูภาพช้าซึ่งเป็นเรื่องปกติและธรรมชาติของผู้นำแต่ในทางกลับกันเท่ากับไปโหมแรงแค้นให้ฝั่งอาร์เซนอลโดยไม่รู้ตัว

เทย์เลอร์เองก็ยืนกรานว่าไม่ได้มีเจตนาจากการเข้าบอลครั้งนี้แต่ขอโทษนะครับหลักฐานมัดตัวชนิดดิ้นไม่หลุดเพราะนอกจากจะเข้าช้าหลังดูดู้จิ้มบอลออกไปหลายวินาทีแล้วตำแหน่งที่แกเปิดปุ่มสูงเลยหน้าแข้งขึ้นมาซึ่งคนเล่นบอลด้วยกันจะรู้ได้ทันทีว่าฝ่ายตรงข้ามไม่มีเจตนาจะสกัดบอลเลย

แต่ไอ้เรื่องจะให้ถึงกับหักคงไม่น่าจะใช่เพราะผมเชื่อว่าเทย์เลอร์อาศัยการเข้าบอลครั้งนี้ขู่ดูดู้และพวกแข้งอาร์เซนอลให้แหยงในการบุกช็อตต่อๆไปมากกว่า

กระแสการแบนผู้เล่นซึ่งเข้าบอลป่าเถื่อนให้เหมาะสมกับโทษที่ทำไว้เริ่มกลับมาอีกครั้งเนื่องจากหลายคนเชื่อว่าการรับผลกรรมแค่นั่งดูเพื่อนเล่น 2-3 นัดยังเบาหวิวและให้ความรู้สึกเหมือนปล่อยให้คนชั่วลอยนวลเร็วเกินไป

ดังนั้นผมจึงเชื่อว่าในอนาคตอันสั้นนี้คณะกรรมการทางวินัยควรมีกฏข้อบังคับพิจารณาเป็นพิเศษเพื่อลงโทษให้หนักกว่าแค่พักแข้งแค่ 3 นัดแต่คงไม่ต้องถึงขนาดแบนตลอดชีวิตเหมือนที่อาร์แซน เวนเกอร์ให้คอมเมนท์ด้วยอารมณ์หลังสิ้นสุดเกมนะครับ

เกมนี้อาร์เซนอลคงไม่ต้องโทษใครนอกจากตัวเองเมื่อมีโอกาสยิงเบอร์มิงแฮมที่เล่น 10 ตัวตั้งแต่นาทีที่ 3 มากมายเกือบ 30 ครั้งและปล่อยให้เจ้าถิ่นที่มีโอกาสเพียงสองครั้งยิงได้ทั้งสองประตู

จริงๆแล้วเกมนี้เราน่าจะได้เห็นการพาดหัวตามหน้าหนังสือพิมพ์ไม่ว่าจะเป็นปืนสามแต้มเซ่นชัยดูดู้หรือปืนซิวชัยสยองดูดู้ขาหักหากกาเอล คลิชี่ไม่ทำตัวเก๋าเกินเหตุ

ผมขอยกให้คลิชี่เป็นแมนออฟเดอะแมทช์ในเกมนี้แต่ตำแหน่งที่ว่าเป็นก่อนถึงช่วงทดเจ็บนะครับเพราะบัดนี้ผมเองก็ยังไม่เข้าใจว่าแบ็คชาวฝรั่งเศสคิดอะไรอยู่ถึงหันขวาแลซ้ายไม่ยอมเคลียร์บอลทิ้งหน้าเขตโทษตัวเองทั้งๆที่เห็นคู่ต่อสู้วิ่งเข้ามาแย่งบอลตรงหน้าอยู่มะรอมมะร่อขนาดนั้น

หากพิจารณาถึงทดเจ็บที่กำลังจะหมดภายในไม่กี่วินาทีมันไม่มีความจำเป็นใดๆเลยที่ต้องมองหาเพื่อนร่วมทีมรอบทิศและยิ่งน่าตลกเข้าไปใหญ่เมื่อตลอดทั้งเกมคลิชี่หวดตูมเคลียร์จังหวะเดียวไม่ต่ำกว่า 3-4 ครั้ง

แม้ว่าจากภาพช้าเหมือนคลิชี่จะสกัดถูกบอลก่อนแต่ผลที่ตามมาจะไม่เกิดขึ้นหากเคลียร์ทิ้งตั้งแต่ทีแรก

นี่ไม่ใช่ครั้งแรกนะครับที่คลิชี่โชว์เก๋าในกรอบเขตโทษตัวเองเพราะเคยบังบอลจนถูกฉกไปยิงต่อหน้าต่อตามาแล้ว ประสบการณ์ครั้งก่อนไม่ได้เป็นบทเรียนให้ดาวรุ่งผู้นี้จนส่งผลเสียหายถึง 2 คะแนนและเปิดโอกาสให้แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดโชว์ลูกฮึดไล่มาเหลือแค่ 3 แต้มเท่านั้น

ในขณะเดียวกันอย่างน้อยๆการเสียท่าครั้งนี้พิสูจน์ให้เราเห็นอีกครั้งว่ากองหลังเป็นตำแหน่งที่อันตรายอย่างที่สุดเนื่องจากมันพร้อมครอบงำเหล่าผู้เล่นที่กำลังมั่นใจจนเล่นบอลหลายจังหวะหรือภาษาบ้านเราคือเล่นยากเหมือนอย่างที่ริโอ เฟอร์ดินานด์ยังมีอยู่ให้เห็นเรื่อยๆ

สังเกตไว้เอาไว้เลยครับว่าพวกกองหลังโนมเนมมักรู้ศักยภาพตัวเองว่ามีมากน้อยแค่ไหนและเมื่อใดก็ตามหากบอลอยู่หน้าเขตโทษตัวเองสัญชาติญาณสั่งการให้เคลียร์พ้นๆออกมาก่อนเป็นอับดับแรก

หรือถ้าว่างๆคลิชี่ควรศึกษาการเคลียร์บอลในเขตโทษของเจมี่ คาร์ราเกอร์ที่แม้เล่นไม่สวยแต่ได้ผลในเรื่องของประสิทธิภาพกับลิเวอร์พูลมาหลายปี

ทั้งนี้ทั้งนั้นประสบการณ์เป็นเรื่องที่อาจต้องใช้เวลาแต่สำหรับการที่วิลเลี่ยม กัลลาส์ตัดสินใจวอล์กเอาท์ปรี่เข้าอุโมงค์หลังฉุนกลิชี่ซึ่งพลาดง่ายๆไม่ได้เกี่ยวข้องใดๆกับประสบการณ์เลยนะครับ

แม้จะถูกเจ้าหน้าที่รั้งตัวให้อยู่ในสนามต่อแต่ภาพกระทืบป้ายโฆษณาและนั่งประท้วงอยู่ตรงวงกลมกลางสนามหลังจบเกมไม่สมควรเป็นพฤติกรรมของกัปตันทีมซึ่งมีหน้าที่รับผิดชอบมากกว่าเสี่ยงทายเลือกแดน

อย่าลืมว่าภาพหวดนานี่นอกเกมในวันที่พ่ายแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 4-0 ตกรอบเอฟเอ คัพ ยังไม่จางหายไปไหนดังนั้นการฉุนลูกทีมซึ่งอายุห่างกันเกือบ 10 ปีด้วยท่าทางน่าเกลียดต่อหน้าธารกำนัลจึงไม่ได้ช่วยให้สถานการณ์ทั้งตัวเค้าเองและปืนใหญ่ดูดีขึ้นมาเลย

กัปตันทีมเปรียบเสมือนทำหน้าที่แทนผู้จัดการทีมยามอยู่ในสนาม ปัญหาต่างๆต้อง deal กันภายในห้องแต่งตัวและต้องเก็บไว้เป็นความลับ

ถึงตอนนั้นกัลลาส์จะด่าจะดุเตือนสติคลิชี่หรือจะนั่งเปลือยกายประท้วงบนโถส้วมก็คงไม่มีใครว่าหรอกครับ...

ขอขอบคุณข้อมูลจากข่าวซ๊อคเกอร์