กัลลาสโขก!ปืนบี้สิงห์1-0ยึดจ่าฝูงคืนศึกพรีเมียร์ฯ

 กัลลาสโขก!ปืนบี้สิงห์1-0ยึดจ่าฝูงคืนศึกพรีเมียร์ฯ

สิงโตน้ำเงินคราม เชลซี ที่แพ้ไม่เป็นถึง 16 นัดติดต่อกัน ต้องหยุดสถิติไว้เพียงเท่านี้เมื่อยกพลบุกไปปราชัยให้กับเพื่อนร่วมเมืองอย่าง ไอ้ปืนใหญ่ อาร์เซน่อล ในศึกลอนดอน ดาร์บี้ อย่างเจ็บแสบ 0-1 วิลเลี่ยม กัลลาส โขกประตูชัยให้เจ้าถิ่นในท้ายครึ่งแรก ส่งให้ ปืนโต เก็บสามแต้มทวงบัลลังก์จ่าฝูงพรีเมียร์ลีกคืนจาก แมนฯ ยูไนเต็ด ได้สำเร็จ ในศึกพรีเมียร์ลีก อังฤษ



ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ


(ฤดูกาล 2007/2008)


(วันอาทิตย์ที่ 16 ธันวาคม 2550)



อาร์เซน่อล 1 - เชลซี 0


สนาม :เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม


อาร์เซน่อล ได้สามมิดฟิลด์ เชส ฟาเบรกาส, มาติเยอ ฟลามินี่ และ อเล็กซานเดอร์ คเล็บ คืนทัพในการเปิด เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม ทำศึก ลอนดอน ดาร์บี้ กับ เชลซี โดยกุนซือ ปืนใหญ่ อาร์แซน เวนเกอร์ มีขุมกำลังชุดใหญ่ให้เลือกใช้งาน ขณะที่ มานูเอล อัลมูเนีย ทวงตำแหน่งมือหนึ่งคืนจาก เยนส์ เลห์มันน์ ที่ได้เล่นเกม แชมเปี้ยนส์ ลีก ที่ชนะ สเตอัว บูคาเรสต์ เมื่อมิดวีก ส่วน โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ รอโอกาสบนม้านั่งสำรอง ปล่อยให้ เอ็มมานูเอล อเดบายอร์ ปักหลักในแนวรุก ขณะเดียวกัน ก็ไม่มีที่ว่างในทีมให้ ลาสซาน่า ดิยาร์ร่า ที่มีข่าวพร้อมย้ายทั้งๆ ที่เพิ่งมาจาก เชลซี เมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา


ด้าน เชลซี ลงสนามเกมนี้พร้อมพกสถิติไม่แพ้นานถึง 16 เกมติดต่อกัน แต่ต้องปราศจากดาวซัลโวตัวเก่ง ดิดิเย่ร์ ดร็อกบา ทำให้ อังเดร เชฟเชนโก้ กลายเป็นตัวหลักในแนวรุก ขณะที่ แอชลี่ย์ โคล แบ๊กซ้ายทีมชาติอังกฤษ ได้เจอทีมเก่าเป็นครั้งแรก


อาร์เซน่อล รู้ดีว่า ต้องชนะเท่านั้น เพื่อที่จะกลับไปทวงบัลลังก์จ่าฝูงพรีเมียร์ลีกคืนจาก แมนฯ ยูไนเต็ด ที่ชนะ ลิเวอร์พูล 1-0 ที่ แอนฟิลด์ ก่อนเกมนี้


เปิดฉากทั้งสองทีมกระโจนเข้าหากันทันที ขณะที่ แอชลี่ย์ โคล โดนโห่อย่างหนักในทุกจังหวะ ก่อนที่ บาคารี่ ซานญ่า จะปะทะกับ โจ โคล จนลงไปนอนกองในนาทีที่ 5 ทว่าหลังจากรับการปฐมพยาบาลจากทีมแพทย์ อาร์เซน่อล แล้ว ก็สามารถกลับมาเล่นได้ต่อ


เกมแลกกันอย่างถึงพริกถึงขิง โดยผ่าน 10 นาทีแรก เดอะ กันเนอร์ส เริ่มต่อบอลกันติด ก่อนที่จะโชว์การประสานงานแล้วจบด้วยการที่ อเดบายอร์ ซัดข้ามคานไป จากนั้นอีกนาทีเดียว อเล็กซ์ กองหลัง เชลซี โหม่งคืนหลังข้ามหัว ปีเตอร์ เช็ก ทว่าโชคยังดีที่ไม่ตรงกรอบ


เชลซี สวนกลับทันควันโดย เชฟเชนโก้ เก็บบอลได้ตรงกลางสนามก่อนที่จะไหลให้ ฌอน ไรท์-ฟิลลิปส์ ทะลุขึ้นไปตรงกลางแล้วตะบันด้วยขวาเต็มๆ แต่ อัลมูเนีย บินรับไว้ได้ติดมือ


เกมเล่นกันแรงเรื่อยๆ จวบจนถึงนาทีที่ 29 ฟาเบรกาส หลอก โคล้ด มาเกเลเล่ ได้สวยหน้ากรอบเขตโทษ เชลซี ก่อนจะโดน จอห์น เทอร์รี่ กัปตันทีมเยือนพุ่งเสียบเต็มๆ จนลอยเคว้ง ผู้ตัดสินชูใบเหลืองให้ เจที ทันที หลังเพื่อนซี้ แฟร้งค์ แลมพาร์ด เพิ่งโดนจดชื่อไปก่อนหน้านี้ไม่นาน


นาทีที่ 33 เชลซี มีเสียวจากจังหวะที่ เชฟเชนโก้ ตะบันจาก 25 หลา เดือดร้อนถึง อัลมูเนีย ที่ต้องทุบออกไป ถัดจากนั้นอีกสองนาที เอ็มมานูเอล เอบูเอ้ เข้าอัดที่ข้อเท้าของ เทอร์รี่ จนโดนใบเหลืองอีกคน ขณะที่กัปตันทีม เชลซี แสดงให้เห็นว่า มีอาการเจ็บ


เทอร์รี่ รับการปฐมพยาบาลก่อนกลับมาเล่นได้พักเล็กๆ แต่ที่สุดแล้วก็ไม่ไหว จน เชลซี ต้องส่ง ทาล เบน-ฮาอิม ลงมาแทน ซึ่งการขาดหายไปของกัปตันทีมจอมแกร่ง ถือเป็นข่าวไม่ดีเลยสำหรับทีมเยือน


เกมในครึ่งแรก ทำท่าว่าจะลงเอยด้วยผลเสมอ แต่แล้วในช่วงทดเวลาบเจ็บ เสียงเฮสาวก เดอะ กูนเนอร์ส ก็ดังกระหุ่ม เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม เมื่อ ฟาเบรกาส เปิดลูกเตะมุมโด่งเข้ามา ขณะที่ เช็ก หมายป้องกัน แต่กลับวืดอย่างเหลือเชื่อ ทำให้ วิลเลี่ยม กัลลาส กัปตันทีม อาร์เซน่อล ได้โหม่งเหน่งๆ ไม่เหลือ ปิดฉากครึ่งแรก เจ้าถิ่นนำ 1-0


ครึ่งหลังกลับมาลงสนามกันต่อ ในขณะที่มีรายงานว่า เทอร์รี่ ถูกนำตัวเข้ารับการสแกนทันที ซึ่งเบื้องต้น หวั่นกันว่า กัปตันทีม สิงโตน้ำเงินคราม อาจมีอาการกระดูกเท้าแตก


เกมในสนาม สู้กันดุเดือดเข้มข้นเหมือนเดิม โดย อาร์เซน่อล ทำได้วูบวาบกว่า แต่ยังติดๆ ขัดๆ ในจังหวะปิดบัญชี ขณะที่ เชลซี มีลุ้นตีเสมอเหมือนกันในนาทีที่ 59 จากลูกยิงไกลของ มิเกล ที่ตะบันด้วยขวา จน อัลมูเนีย ต้องทุบทิ้ง แม้ เชฟเชนโก้ จะตามมาซ้ำ แต่ก็เข้าซองมือกาวชาวสแปนิช


นาทีที่ 65 สิงโตน้ำเงินคราม เสริมเกมรุกด้วยการส่ง เคลาดิโอ ปิซาร์โร่ กองหน้าทีมชาติเปรูลงสนาม แล้วถอด โคล้ด มาเกเลเล่ ออก ขณะที่เกมเล่นกันหนักหน่วงจนผู้ตัดสินต้องควักใบเหลืองให้ โจ โคล จากจังหวะที่สกัด เอบูเอ้ จนเจ็บต้องหามออก และโดนเปลี่ยนให้ โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ ลงมาแทน


เข้าสู่นาทีที่ 72 ฟาน เพอร์ซี่ ตะบันด้วยซ้าย เดือดร้อน เช็ก ต้องปัดทิ้ง ก่อนที่นาทีต่อมา กองหน้าทีมชาติฮอลแลนด์จะได้ส่องด้วยซ้ายอีกครั้งหน้ากรอบเขตโทษ ทว่าคราวนี้ ข้ามคานไปไกล


เหลืออีก 15 นาทีสุดท้าย เชลซี พลาดโอกาสตีเสมออย่างน่าเสียดายเมื่อ เชฟเชนโก้ โหม่งชงลูกเปิดจากด้านซ้ายให้ ไรท์-ฟิลลิปส์ วอลเล่ย์ผ่านหน้าปากประตูอย่างเหลือเชื่อ


นาทีต่อมา อาร์เซน่อล โต้กลับได้สวยเริ่มจาก อเดบายอร์ ให้ คเล็บ ตบให้ ฟาน เพอร์ซี่ ยิงโล่งๆ แต่ข้ามคานออกไป ขณะที่ ซาโลมง กาลู ตัวสำรองของ เชลซี ส่องไกลเข้าข้างตาข่าย


เวนเกอร์ เปลี่ยนเอา คเล็บ ออกแล้วส่ง จิลแบร์โต้ ซิลวา มาช่วยรักษาสกอร์ในช่วง 10 นาทีสุดท้าย ก่อนที่จะทำได้สำเร็จ จบเกม 90 นาที อาร์เซน่อล ชนะ 1-0 พร้อมผงาดขึ้นไปนำจ่าฝูงอีกครั้ง

รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม

อาร์เซนอล :
มานูเอล อัลมูเนีย 7,บาคารี่ ซาญ่า 7,โคโล่ ตูเร่ 7,วิลเลี่ยม กัลลาส์ 8 *,กาเอล คลิชี่ 8,เอ็มมานูเอล เอบูเอ้ (ฟาน เพอร์ ซี่ น.69,6),มาติเยอ ฟลามินี่ 7,เชสก์ ฟาเบรกัส 7,โทมัส โรซิคกี้ 7,อเล็กซานเดอร์ คเล็บ 7(กิลแบร์โต้ น.77,6), เอ็มมานูเอล อเดบายอร์ 7(เบนด์เนอร์ น.94)

สำรอง : เยนส์ เลห์มันน์, ฟิลลิป เซนเดอรอส, โรบิน ฟาน เพอร์ซี่, จิลแบร์โต้ ซิลวา, นิคลาส เบนด์ทเนอร์

เชลซี : ปีเตอร์ เช็ก 6,เปาโล แฟร์เรียร่า 7,อเล็กซ์ 7,จอห์น เทอร์รี่ 6(เบน ฮาอิม น.38,6 ),แอชลี่ย์ โคล 7,ฌอน ไรท์ ฟิลลิปส์ 5(คาลู น.75,7),จอห์น โอบี มิเกล 6,โคล้ด มาเกเลเล่ 6(ปิซาร์โร่ น.65,6),แฟร็งค์ แลมพาร์ด ,โจ โคล 7,อังเดร เชฟเชนโก้ 6

สำรอง : คาร์โล คูดิชินี่, เคลาดิโอ ปิซาร์โร่, ซาโลมง กาลู, ทาล เบน-ฮาอิม, ชูเลียโน่ เบลเล็ตติ


ผู้ตัดสิน : อลัน ไวลี่ย์



เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์