ผีหลอนเรดดิ้ง 2-0 ยึดฝูงต่อ, ปืน 3-0, เชลซีหวิว








แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยังคงรักษาบัลลังก์จ่าฝูงพรีเมียร์ชิป อังกฤษเอาไว้ได้อีกสัปดาห์ หลังบุกไปสอย เรดดิ้ง ถึงถิ่น 2-0 จากการทำประตูของ เวย์น รูนีย์ และ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ขณะที่ อาร์เซนอล บุกไปรัว ฟูแล่ม สบายๆ 3-0 ส่วน เชลซี ก็ไม่น้อยหน้าเฉือน เบอร์มิงแฮม ซิตี้ 1-0 ในการออกไปเยือนเช่นกัน
       
        ฟุตบอลพรีเมียร์ชิป อังกฤษ วันเสาร์ที่ 19 มกราคม 2551
        เรดดิ้ง 0 2 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด













โรนัลโด้ ยิงปิดกล่องในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ
       ศึกลูกหนังลีกสูงสุดเมืองผู้ดีประจำวันเสาร์ เรดดิ้ง เปิดสนามมาเดจสกี้ สเตเดี้ยม รับมือจ่าฝูงของตาราง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เกมนี้ สตีฟ ค็อปเปลล์ ปรับแนวรุกด้วยการใส่ ลีรอย ลิต้า ลงมายืนศูนย์หน้าคู่กับ เดฟ คิตสัน โดยถอย เควิน ดอยล์ ลงต่ำ ขณะที่ คาลิฟา ซิสเซ่ คุมแนวรับร่วมกับ อิวาร์ อินกิมาร์สสัน
       
        ด้าน เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ไม่สามารถใช้งาน อันแดร์สัน ตัวรุกชาวบราซิลได้จึงให้ โอเว่น ฮาร์กรีฟส์ ปั้นเกมร่วมกับ ไมเคิล คาร์ริค นอกจากนั้นยังพัก ไรอัน กิ๊กส์ เป็นตัวสำรองโดยให้ ปาร์ค จี-ซุง ลงเล่น ส่วนแนวรุกยังคงมีทีเด็ดที่ คริสเตียโน่ โรนัลโด้, คาร์ลอส เตเบซ และ เวย์น รูนีย์
       
        หลังเขี่ยลูกเริ่มเล่นทั้งสองทีมก็มีโอกาสลุ้นทำประตูแต่ยังไม่จะแจ้งมากนัก กระทั่งนาทีที่ 10 โรนัลโด้ ได้ทะลุขึ้นไปทางด้านขวาก่อนตัดสินใจซัดแถวมุมเขตโทษ แต่ลูกพุ่งแสกหน้า มาร์คัส ฮาห์เนมันน์ ข้ามคาน ก่อนที่ 3 นาทีให้หลัง เตเบซ จะได้โอกาสสับไกเน้นๆ ในเขตโทษระยะประมาณ 12 หลา ทว่า ฮาห์เนมันน์ ยังเหนียวล้มตัวเซฟได้ที่เสาแรก
       
        เดอะ รอยัลส์ นานๆ จะมีโอกาสสักที นาทีที่ 22 เจมส์ ฮาร์เปอร์ หลุดเข้าไปในกรอบเขตโทษด้านขวาแล้วไม่มีช่องจึงตัดสินใจกึ่งยิงกึ่งผ่านยัดเข้าไปทางเสาแรก ทว่า ฟาน เดอร์ ซาร์ ไม่หลงยืนดักไว้ได้ จากนั้น 5 นาที แมนฯ ยูไนเต็ด ก็เกือบได้ประตูขึ้นนำอย่างใกล้เคียง เมื่อ ฮาร์กรีฟส์ ปั่นฟรีคิกทำท่าจะเสียบสามเหลี่ยมเสาสอง แต่ มาร์คัส ฮาห์เนมันน์ พุ่งปัดสุดปลายมือออกหลังอย่างหวุดหวิด














รูนีย์ สุดสะใจหลังซัดขึ้นนำ
       ผ่านมาถึงครึ่งชั่วโมงแรกของเกม ฟาน เดอร์ ซาร์ ออกมาเตะสกัดนอกเขตโทษไม่ดีไปเข้าเท้า คิตสัน ซึ่งตัดสินใจยิงลักไก่เกือบครึ่งสนามทันที แต่ ริโอ เฟอร์ดินานด์ ยังตามมาโหม่งเคลียร์เอาไว้ได้ก่อนบอลจะลอยเข้าประตู จากนั้นนาทีที่ 36 ปิศาจแดงพาบอลเข้ามาถึงกรอบเขตโทษแต่ไม่มีช่องยิงแล้วจังหวะสุดท้าย ฮาร์เปอร์ ตามมาหวดสกัด ทว่าบอลพุ่งเข้าหาประตูตัวเอง แต่ ฮาห์เนมันน์ ยังล้มตัวรับไว้ได้ หมดครึ่งแรกจึงยังเสมอกันอยู่ 0-0
       
        เข้าสู่ช่วงหนึ่งชั่วโมงของเกม แมนฯ ยูไนเต็ด บุกเข้าใส่ เรดดิ้ง เป็นพายุ หนแรก เฟอร์ดินานด์ ดันสูงขึ้นไปถึงเขตโทษก่อนหักเข้ากลางให้ โรนัลโด้ ตวัดยิงโด่งข้ามคานไปไกล ก่อนที่ รูนีย์ จะมีโอกาสอีก 3-4 ครั้ง แต่ก็ยังเปลี่ยนเป็นสกอร์ไม่สำเร็จ โดยมีหนเดียวที่ใกล้เคียงที่สุดจากการซัดเรียด ฮาห์เนมันน์ ปัดออกมาเกือบไปเข้าทาง กิ๊กส์ ที่เตรียมชาร์จ ทว่า อิวาร์ อินกิมาร์สสัน ยังตามมาสไลด์เคลียร์ออกหลังได้ทันเวลา
       
        เดอะ รอยัลส์ มาได้ลุ้นบ้างในนาทีที่ 65 จากการซัดไกลของ เดฟ คิตสัน บอลพุ่งเข้าทางเสาแรก แต่ยังไม่ผ่านมือ ฟาน เดอร์ ซาร์ ก่อนที่หัวหอกผมแดงจะฉกบอลจาก เนมานยา วิดิช ได้อีก 4 นาทีให้หลังแล้วกำลังจะได้ยิง แต่ ฟาน เดอร์ ซาร์ ยังออกมาถึงบอลได้ก่อนเพียงนิดเดียว
       
        อย่างไรก็ตาม ปิศาจแดงก็สามารถทะลวงประตูขึ้นนำ 1-0 ได้สำเร็จเมื่อเกมล่วงเลยมาถึงนาทีที่ 77 จากการพาบอลขึ้นมาทางด้านซ้ายแล้ว เตเบซ ได้บอลก่อนชิปเข้าไปในกรอบเขตโทษด้วยน้ำหนักพอเหมาะให้ รูนีย์ กระโดดดีดลูกตามน้ำส่งบอลเสียบมุมเสาสองตุงตาข่าย
       
        เรดดิ้ง เข้าตาจนต้องเปิดเกมรุกแลกหมัด นาทีที่ 85 เควิน ดอยล์ ลองซัดไกลแต่ก็ไม่เข้าเป้า ก่อนที่ทีมเยือนจะได้โอกาสจากจังหวะที่ นานี่ แทงเข้ากลางให้ คาร์ริค เข้าฮอสแต่โดนไม่เต็มเท้า บอลปลิ้นเฉี่ยวเสาแรกออกหลัง จากนั้นนาทีสุดท้ายของเกม นิคกี้ ชอรีย์ วางบอลยาวให้ ฮาร์เปอร์ หลุดทะลุคู่เซนเตอร์ฮาล์ฟปิศาจแดงเข้าไปเข่นด้วยซ้าย บอลถากเสาไกลออกไปอย่างน่าเสียดาย ก่อนที่ โรนัลโด้ จะลากเดี่ยวในจังหวะโต้กลับเข้าไปส่องไม่พลาดเป็นประตูย้ำชัยให้ แมนฯ ยูไนเต็ด บุกมาชนะ เรดดิ้ง อย่างเด็ดขาด 2-0 เก็บเพิ่มเป็น 54 คะแนน รักษาบัลลังก์จ่าฝูงไว้ได้ต่อไป
       
        รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
        เรดดิ้ง มาร์คัส ฮาห์เนมันน์, แกรม เมอร์ตี้, อิวาร์ อินกิมาร์สสัน, คาลิฟา ซิสเซ่, นิคกี้ ชอรีย์, เควิน ดอยล์, เจมส์ ฮาร์เปอร์, บ็อบบี้ คอนเวย์, สตีเฟ่น ฮันท์, ลีรอย ลิต้า, เดฟ คิตสัน
       
        แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์, เวส บราวน์, ริโอ เฟอร์ดินานด์, เนมายา วิดิช, ปาทริซ เอฟรา, คริสเตียโน่ โรนัลโด้, โอเว่น ฮาร์กรีฟส์, ไมเคิล คาร์ริค, ปาร์ค จี-ซุง, เวย์น รูนีย์, คาร์ลอส เตเบซ
       
        ผลฟุตบอลพรีเมียร์ชิป อังกฤษ
        เบอร์มิงแฮม ซิตี้ แพ้ เชลซี 0-1 (เคลาดิโอ ปิซาร์โร่ 0-1 นาที 79)
       
        แบล็กเบิร์น โรเวอร์ส เสมอ มิดเดิลสโบรช์ 1-1 (เดวิด วีเธอร์ 0-1 นาที 13), (แม็ตต์ ดาร์บี้เชียร์ 1-1 นาที 75)
       
        ฟูแล่ม แพ้ อาร์เซนอล 0-3 (เอ็มมานูเอล อเดบายอร์ 0-1 นาที 19), (เอ็มมานูเอล อเดบายอร์ 0-2 นาที 38), (โทมัส โรซิคกี้ 0-3 นาที 81)
       
        ปอร์ทสมัธ ชนะ ดาร์บี้ เคาน์ตี้ 3-1 (ลูวิน เอ็นยาตองก้า 1-0 นาที 4), (เบนจานี่ เอ็มวารูวารี 1-1 นาที 38), (เบนจานี่ เอ็มวารูวารี 2-1 นาที 42), (เบนจานี่ เอ็มวารูวารี 3-1 นาที 55)
       
        เรดดิ้ง แพ้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 0-2 (เวย์น รูนีย์ 0-1 นาที 77), (คริสเตียโน่ โรนัลโด้ 0-2 นาที 90)
       
        ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ ชนะ ซันเดอร์แลนด์ 2-0 (อารอน เลนนอน 1-0 นาที 2), (ร็อบบี้ คีน 2-0 นาที 90)

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์