ไล่เดนิลสัน!ปืนต่อเวลาเชือดกุหลาบระทึก

ไล่เดนิลสัน!ปืนต่อเวลาเชือดกุหลาบระทึก

ไล่เดนิลสัน!ปืนต่อเวลาเชือดกุหลาบระทึก

สุดยอดแมทช์แห่งความเร้าใจเมื่ออาร์เซนอลชุดแรกบินทำท่าจะแย่หลังนำสองลูกถูกตีเสมอหน้าตาเฉยแถมช่วงท้ายเกมเหลือ 10 ตัวเมื่อเดนิลสันถูกไล่ออกแต่เอดูอาร์โด้มายิงซัดชัยนาที 104 ให้ทีมชนะสุดมัน 3-2 ตบเท้าเข้ารอบรองชนะเลิศตามสเปอร์สเพื่อนร่วมเมืองทันที

ผลฟุตบอลคาร์ลิ่ง คัพ รอบควอเตอร์ ไฟนัล

แบล็คเบิร์น 2-3 อาร์เซนอล

สนาม :
อีวู้ด พาร์ค

ประตู : 0-1 อาบู ดิยาร์บี้ น.4,0-2 เอดูอาร์โด้ ดา ซิลวา น.29,1-2 โรเก้ ซานตา ครูซ น.41,2-2 โรเก้ ซานตา ครูซ น.59,2-3 เอดูอาร์โด้ น.104


อาร์เซนอลของอาร์แซน เวนเกอร์ยังยึดนโยบายเดิมๆอย่างแน่วแน่ด้วยการส่งเด็กลงเล่นโดยมีตัวคุ้นหูคุ้นตาค่อนข้างเยอะทั้งเบนด์เนอร์,เอดูอาร์โด้,ดิยาบี้,ดิยาร์ร่าเดนิลสันและฟาเบียงสกี้ส่วนมาร์ค ฮิวจส์จัดทัพใหญ่นำโดยแฮทริคแต่แพ้เมื่อวันเสาร์อย่างโรเก้ ซาน ครูซลงเล่นเช่นเดิม

เปิดฉากมาเพียงแค่ 2 นาที แบล็คเบิร์นได้โอกาสยิงทักทายก่อนแต่เบนท์ลี่ย์ซัดด้วยขวาระยะ12หลาข้ามคานออกไปไกล

ทว่าพอถึงนาทีที่ 4 อาร์เซนอลก็โชว์ความเฉียบคมด้วยการกะซวกประตูขึ้นนำ 1-0 จากจังหวะที่นักเตะอาร์เซนอลชิ่งบอลอยู่ที่ริมเส้นฝั่งขวา ก่อนที่จังหวะสุดท้ายเบนท์ดเนอร์จะบรรจงวางบอลข้ามฟากมาให้ดิยาร์บี้แปที่จุดนัดพบแบบไม่ต้องจับตรงระยะ 12 หลา บอลย้อนศรไปทางเสาแรกผ่านมือฟรีเดลเข้าไป

นาทีที่ 9 อาร์เซนอลเกือบทิ้งห่าง 2 เม็ดจากจังหวะที่ตราโอเร่ชิงบอลทะลุช่องให้เบนท์ดเนอร์ลากบอลจี้เข้าหากรอบเขตโทษด้านซ้าย ก่อนจะแปเล่นทางไปที่เสาสอง แต่บอลพุ่งชนสามเหลี่ยม

นาที25แบล็คเบิร์นได้โอกาสลุ้นตีเสมอบ้างเมื่อเบนท์ลี่ย์ปั่นฟรีคิกจากระยะ 30 หลาหลอกยิงแต่ระยะมันไกลและไม่แรงพอเลยเหมือนส่งคืนให้ฟาเบียนสกี้มากกว่า

จากนั้นอีก 2 นาทีแบล็คเบิร์นเกือบจะได้ประตูแบบสุดๆเมื่อเดวิด ดันน์เก็บตกบอลได้ที่แถวสอง ก่อนล็อกในเขตโทษหลอกตัวประกบก่อนอัดเต็มเหนี่ยวแต่ฟาเบียนสกี้โชว์ซูเปอร์เซฟผวาปัดออกหลังไปได้

เมื่อเจ้าบ้านโหมบุกอยู่สักพักนาทีที่29แผงกองหลังก็เกิดช่องโหว่และความผิดพลาดก็เกิดขึ้น เดนิลสันจ่ายบอลทะลุช่อง แซมบ้าทำพลาดมหันต์เมื่อสไลด์กวาดบอลว่าวปล่อยให้เอดูอาร์โด้ ดา ซิลวารับส้มไปเต็มๆก่อนมีเวลาเลือกมุมยิงผ่านเข้าไปสุดหมู อาร์เซนอลทิ้งห่าง 2-0

ลูกทีมของอาร์เซนอลดูเหมือนประสานงานกันอย่างลงตัวและเล่นเหนือกว่าชัดเจนแต่อย่างไรก็ตามพอถึงนาที 41 แบล็คเบิร์นก็มาได้ประตูแห่งความหวังเมื่อดาร์บี้เชียร์ครอสจากทางด้านขวา ซานตา ครูซแหย่บอลจากระยะ8หลากลางประตู บอลพุ่งเข้าประตูไปอย่างง่ายดาย แบล็คเบิร์นไล่มาเป็น 1-2 ซึ่งต้องถือว่าเจ้าบ้านมีโชคอยู่พอสมควรเพราะจังหวะได้ประตูนั้นดาร์บี้เชียร์วิ่งไปอยู่ในตำแหน่งล้ำหน้าอยู่ก่อนแล้ว

ออกตัวครึ่งหลังมา2นาทีกุหลาบเพลิงเริ่มด้วยความดุดันซานตา ครูซหลุดเดียวเข้าไปดวลกับฟาเบียนสกี้ และพยายามแตะบอลหนีแต่บอลไปติดมือนายประตูปืนนิดนึง ก่อนที่ซงจะตามมาเคลียร์ทิ้งออกไปได้อย่างทันท่วงที

เกมยังคงเปิดแลกกันอย่างดุเดือด แบล็คเบิร์นเข้ากดดันกองหลังอาร์เซนอลอย่างต่อเนื่องและก็ตีเจ๊า 2-2 ได้สำเร็จในนาที 59 เมื่อเบนท์ลี่ย์สาดลูกฟรีคิกจากทางซ้าย ซานตา ครูซสอดขึ้นโหม่งระยะ12หลา แสกหน้าฟาเบียนสกี้เสียบตาข่ายเข้าไป

นาที 77 กองเชียร์ปืนโตได้เสียวอีกครั้ง เดนิลสันกึ่งยิงกึ่งผ่านลูกฟรีคิกทางด้านซ้ายแต่ฟรีเดลยังรับเข้าซอง

ช่วง 10 นาทีสุดท้ายทั้งสองทีมเปิดเกมรุกเต็มหน้าตัก อีกทั้งช่วงทดเจ็บเกิดเหตุชุลมุนวุ่นวายขึ้น และเดนิลสันต้องถูกกรรมการตะเพิดออกจากสนามหลังติดอารมณ์เห็นเพื่อนถูกซาเวจเสียบหนักเลยตามมาเดวิด ดันน์แบบกระโดดยันสไลด์จนเกือบมีมวยหมู่นำโดยซาเวจขาประจำก่อนผู้ตัดสินเป่านกหวีดต้องต่อเวลาอีก 30 นาที

ช่วงต่อเวลาพิเศษครึ่งแรกเจ้าถิ่นเล่นสบายกว่าเพราะตัวผู้เล่นเยอะกว่าแถมเวนเกอร์ต้องมาเปลี่ยนเอาฟาน เมริด้าเจ้าหนูดาวรุ่งลงเล่นแทนบาราซิเต้ที่คาดว่าหัวไหล่เคลื่อนจนถูกหามออกจากสนามในนาที 100

อย่างไรก็ตามนาที 115 อาร์เซนอลอยู่ดีๆมาได้ประตูขึ้นนำหน้าตาเฉยหลังซงลากขึ้นมาจากแดนตัวเองเลยกลางสนามมาก่อนบรรจงจ่ายเลียดนำหนักสุดเนียนถึงขนาดที่เอดูอาร์วิ่งควบตามบอลหลุดเข้าเขตโทษแล้วแปอีกซ้ายอ้อมตัวฟรีเดลล์เข้าไปอย่างหมดจด

ต่อเวลาพิเศษครึ่งหลังปืนใหญ่รอสวนกลับจนได้เสียวหลายครั้งแต่พีเดอร์เซ่นก็เกือบตีเสมอให้เจ้าถิ่นได้หลังปั่นฟรีคิกระยะ 20 หลาบอลโค้งหลุดเสาออกไปนิดเดียวเท่านั้น

แบล็คเบิร์นมาเน้นกดดันจากลูกเตะมุมทำให้เอดูอาร์โด้ต้องลงมาช่วยแนวรับจนตระคริวขึ้นและก่อนหมดเวลา 8 นาทีลูกสาดยาวของเจ้าถิ่นเป็นโมโคเอน่าแย่งโหม่งได้บอลหล่นมาที่แม็คคาธี่ได้กระโดดยิงในกรอบบอลหลุดออกหลังไปอย่างน่าเสียดาย

ช่วง 2 นาทีสุดท้ายแบล็คเบิร์นน่าจะตีเสมอได้สุดจากจังหวะที่โมโคเอน่าบังบอลแค่ 6 หลาแล้วหมุนตัวยิงแต่จั่วลมบอลเลยไปตกที่พีเดอร์เซ่นที่ล็อกหลอกจะยิงด้วยซ้ายจนตัวประกบหลังหักก่อนอัดด้วยขวามาแฉลบหัวฮอยท์ที่ทิ้งตัวบล็อกอย่างไม่น่าเชื่อ

และนาทีสุดท้ายเจ้าถิ่นน่าจะตีเสมอได้สุดๆเมื่อพีเดอร์เซ่นเปิดบอลสวยจากปีกซ้ายโมโคเอน่าโขกไปชนเสาดังจังโครมอย่างน่าโชคร้าย

และในที่สุดไมค์ ไรลี่ย์เป่านกหวีดหมดเวลาเป็นอาร์เซนอลที่บุกมาเอาชนะแบล็คเบิร์นอย่างสุดมัน 3-2 เข้าไปนอนรอตัดเชือกเป็นทีมที่สามเรียบร้อยแล้ว


รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม

แบล็คเบิร์น :
แบร๊ด ฟรีเดล,สตีเฟ่น รีด,คริสโตเฟอร์ แซมบ้า,ไรอัน เนลเซ่น,สตีเฟ่น วอร์น็อค(ซูรับ คิซานิชวิลี่ น.120),เดวิด เบนท์ลี่ย์,ร็อบบี้ ซาเวจ,เดวิด ดันน์(อาร่อน โมโคเอน่า น.100),มอร์เทน แกมสต์ พีเดอร์เซ่น,โรเก้ ซานตา ครูซ,แม็ตต์ ดาร์บี้เชียร์(เบนนี่ แม็คคาร์ธี่ย์ น.90+1)

สำรองไม่ได้ลงสนาม :เจสัน บราวน์,เจสัน โรเบิร์ตส

ใบเหลือง :สตีเฟ่น วอร์น็อค น.22,คริสโตเฟอร์ แซมบ้า น.44,สตีเฟ่น รีด น.76,ร็อบบี้ ซาเวจ น.90+2

อาร์เซนอล :ลูคาสซ์ ฟาเบียนสกี้,จัสติน ฮอยต์,ฟิลิปป์ เซนเดอรอส,อเล็กซานเดอร์ ซง,อาร์มง ตราโอเร่,มาร์ก แรนดัลล์(นาเซอร์ บาราซิเต้ น.80, ฟราน เมริด้า เปเรซ น.100),อาบู ดิยาร์บี้,เดนิลสัน,ลาสซาน่า ดิยาร์ร่า,เอดูอาร์โด้ ดา ซิลวา(คีแรน กิ๊บบ์ส น.125),นิคคลาส เบนท์ดเนอร์

สำรองไม่ได้ลงสนาม : วิโต้ มานโนเน่,กาวิน ฮอยต์

ใบเหลือง : มาร์ก แรนดัลล์ น.59,เดนิลสัน น.80,ลาสซาน่า ดิยาร์ร่า น.89

ใบแดง : เดนิลสัน น.90+2

ผู้ตัดสิน : ไมค์ ไรลี่ย์




















 

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์