ไว้อาลัยกองเชียร์ขี้โม้..ฟอร์มสุดขั้ว!เมสซี่กด4(เหลี่ยม)ยำปืน4:1ลิ่วตัดเชือกงู

ฟอร์มสุดขั้ว!เมสซี่กด4(เหลี่ยม)ยำปืน4:1ลิ่วตัดเชือกงู

     
ฟุตบอลยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ ลีก รอบ 8 ทีมสุดท้ายนัดสอง บาร์เซโลน่า เปิดสนามคัมป์ นู ไล่ถล่ม อาร์เซน่อล 4:1 จากฟอร์มอันสุดยอดของ เมสซี่ ซัดคนเดียว 4 ตุง


ฟุตบอลยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ ลีก รอบ 8 ทีมสุดท้ายนัดสอง


 


วันอังคารที่ 6 เมษายน 2553


 


บาร์เซโลน่า 4:1 อาร์เซน่อล
ผลนัดแรก เสมอกัน 2:2 รวมผลสองนัด 6:3 บาร์ซ่าเข้ารอบ




      สนาม : คัมป์ นู
      ผู้ตัดสิน : โวล์ฟกัง สตาร์ค (เยอรมัน)
      เวลาเตะ : 01.45 น.
      สภาพอากาศ : ท้องฟ้าโปร่ง, อุณหภูมิ 3~13C, ความชื้น 97%
      ใบเหลือง : เดนิลสัน 30, โทมัส โรซิชกี้ 44, เอ็มมานูเอล เอบูเอ้ 67

      ผู้ทำประตู : [0:1]นิคลาส เบนท์เนอร์ 18, [1:1]ลิโอเนล เมสซี่ 21, [2:1]ลิโอเนล เมสซี่ 37, [3:1]ลิโอเนล เมสซี่ 42, [4:1]ลิโอเนล เมสซี่ 88


     บาร์เซโลน่า พลาดมาในเกมนัดแรกปล่อยให้ อาร์เซน่อล ไล่ตีเสมอ 2:2 ทั้งที่นำอยู่ถึง 2 ลูก ทว่าก็ยังเป็นข้อได้เปรียบในเรื่องกฏประตูทีมเยือนแค่ยันเสมอในสกอร์ที่ต่ำกว่านัดแรกแต่ห้ามเสมอในสกอร์ที่มากกว่า หรือ ชนะให้ได้ก็จะตีตั๋วผ่านเข้ารอบต่อไปทันที เกมนี้ดาวยิงตังเก่งอย่าง ซลาตัน อิบรฮิโมวิช จะพลาดลงสนามอย่างแน่นอนเนื่องจากได้รับบาดเจ็บขณะลงวอร์มอัพก่อนเกมลีก กับ แอตเลติโก มาดริด เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา โบยาน เกอร์กิช น่าจะได้รับโอกาสให้ลงเล่นแทน ขณะที่ 2 แนวรับคนสำคัญ คาร์เลส ปูโยล และ เคราร์ด ปิเก้ ติดโทษแบนไม่ได้ลงสนามเช่นกัน

     จากผลเสมอ 2:2 ในเกมนัดแรก อาร์เซน่อล จะผ่านเข้ารอบได้ก็ต่อเมื่อบุกไปเอาชนะหรือยันเสมอในสกอร์ตั้งแต่ 3:3 ขึ้นไป ในส่วนของตัวผู้เล่นเกม อาร์แซน เวนเกอร์ กุนซือของทีม ต้องปวดขมับไม่น้อยเมื่อกองกลางกัปตันทีมอย่าง เชส ฟาเบรกาส ติดโทษแบนบวกกับได้รับบาดเจ็บต้องพักยาวยันจบซีซั่น เช่นเดียวกับ วิลเลี่ยม กัลลาส ที่เจ็บน่อง ข่าวดีคือ อังเดร อาร์ชาวิน ซึ่งตอนแรกมีรายงานว่าจะต้องพักทั้งซีซํ่นอาการไม่หนักมากเริ่มกลับมาเรียกความฟิต แต่จะหายไม่ทันในเกมนี้


      ครึ่งแรก
     เริ่มเกมการแข่งขันมาได้ 4 นาทีแรก ลิโอเนล เมสซี่ มีโอกาสตะบันด้วยซ้ายไปเสาไกล มานูเอล อัลมูเนีย ต้องออกแรงปัดบอลออกหลัง
     นาที 10 โบยาน เกอร์กิช ผ่านบอลไปหน้าประตูให้กับ เปโดร โรดริเกซ จับแล้วกลับตัวยิงไม่ตรงประตู จากนั้น ลิโอเนล เมสซี่ ปั่นด้วยซ้ายนอกเขตบอลแรงข้ามคานไปนิดเดียว
     นาที 18 ทีมเยือนกลับมาได้ประตูขึ้นนำก่อน 1:0 จากจังหวะกลางสนาม อาบู ดิยาบี้ ส่งบอลให้ ธีโอ วัลค็อตต์ หลุดล้ำหน้าขึ้นมาทางขวาเปิดให้ นิคลาส เบนท์เนอร์ ยิงจังหวะแรกติดเชพ วิคเตอร์ บัลเดส บอลกระดอนออกมา เบนท์เนอร์ ตามดีดด้วยขวาอีกทีเข้าไป
     จากนั้นทีมเยือนดีใจได้เพียงไม่นาน ลิโอเนล เมสซี่ ก็มายิงประตูตีเสมอให้ทีมเมื่อได้โอกาสซัดด้วยซ้ายนอกเขตเต็มข้อบอลพุ่งผ่าน มานูเอล อัลมูเนีย เป็น 1:1 ในนาที 21
     นาที 30 ลิโอเนล เมสซี่ โชว์ลีลาเลี้ยงผ่านผู้เล่น อาร์เซน่อล ไป 3-4 คน ก่อนโดน เดนิลสัน เสียบจังหวะสุดท้ายและทำให้ เดนิลสัน โดนใบเหลืองแรกของเกม
     ถัดมา 3 นาที ลิโอเนล เมสซี่ ได้บอลทางขวาเข้าดวล มิคาเอล ซิลแวสต์ร โยกเข้าเท้าขวาก่อนยิงเข้าข้างตาข่าย
     นาที 37 เอริค อบิดัล ขึ้นบอลทางซ้ายตวัดมาหน้าประตูติดกองหลังทีมเยือน แต่ เปโดร โรดริเกซ ยังไวไปสะกิตต่อให้ ลิโอเนล เมสซี่ ที่เติมขึ้นมาฉีกไปที่กว้างยิงด้วยขวาผ่าน มานูเอล อัลมูเนีย เข้าไปเป็น 2:1
     นาที 42 บาร์ซ่า มาได้ประตูเพิ่มอีกเมื่อ ลิโอเนล เมสซี่ หลุดเดี่ยวขึ้นไปชิพบอลด้วยซ้ายอย่างเหนือชั้นข้ามตัว มานูเอล อัลมูเนีย อย่างหมดจดเป็น 3:1 และเป็นแฮตทริกของ เมสซี่
     และช่วงท้ายครึ่งแรก เจ้าบ้านยังบุกอยู่แต่ทำประตูเพิ่มไม่ได้ หมด 45 นาทีแรก บาร์เซโลน่า นำอยู่ 3:1

      ครึ่งหลัง
     กลับมาเล่นกันต่อในครึ่งหลังมานาที 49 เจ้าบ้านเกือบได้ลุ้นจากการเปิดของ โบยาน เกอร์กิช ให้ ลิโอเนล เมสซี่ เข้าชาร์จหน้าทว่า มานูเอล อัลมูเนีย คว้าบอลได้ก่อน
     นาที 52 เอริค อบิดัล ได้รับบาดเจ็บจนต้องเปลี่ยนตัวออกแล้วส่ง เม็กซ์เวลล์ อันดราเด้ ลงมาเล่นแทน จากนั้นส่ง ยาย่า ตูเร่ มาแทน โบยาน เกอร์กิช ปรับแผนเป็น 4-4-2 ในนาที 55
     นาที 67 เอ็มมานูเอล เอบูเอ้ ตัวสำรองที่เปลี่ยนลงมาก็มาโดนใบเหลืองไปอีกรายหลังใช้มือพลัก เซอร์คิโอ บุสเก็ตส์ ล้มลงจังหวะวิ่งเบียดกัน จากนั้นนาที 69 โทมัส โรซิชกี้ มีโอกาสส่องโล่งๆ ทว่ายิงข้ามคานไปเอง
     นาที 72 ลิโอเนล เมสซี่ ลักไก่เล่นเร็วเปิดให้ เปโดร โรดริเกซ หลุดเข้าไปชิพบอลข้าม มานูเอล อัลมูเนีย แต่คราวนี้บอลไม่ตรงกรอบ และจังหวะบุกของ อาร์เซน่อล เกือบได้จาก นิคลาส เบนท์เนอร์ โขกไปชนเสาอย่างน่าเสียดาย แถมเป็นจังหวะล้ำหน้าไปด้วย
     นาที 80 เปโดร โรดริเกซ ได้โอกาสยิงก็ยังไม่ตรงประตู จากนั้นนาที 87 เม็กซ์เวลล์ อันดราเด้ เติมเกมขึ้นมาทางซ้ายหวดมุมแคบไปติด มานูเอล อัลมูเนีย
     จังหวะถัดมา ลิโอเนล เมสซี่ โชว์ฟอร์มเหลือร้ายเลี้ยงกระซากใส่กองหลัง อาร์เซน่อล ก่อนไปทางซ้ายยิงจังหวะแรกติด มานูเอล อัลมูเนีย กระดอนออกมายิงซ้ำอีกทีรอดขา อัลมูเนีย เข้าไปเป็น 4:0 ในนาที 88
     และช่วงทดเวลาบาดเจ็บทำอะไรกันเพิ่มไม่ได้ จบเกม 90 นาที บาร์เซโลน่า เอาชนะ อาร์เซน่อล ไปอย่างขาดลอย 4:1 จากการเหมาของ เมสซี่ 4 ตุง ลิ่วรอบรองชนะเลิศไปตัดเชือกกับ อินเตอร์ มิลาน


แมนออฟเดอะแมตช์ : ลิโอเนล เมสซี่ พร้อมคว้าลูกบอลกลับบ้านด้วยอีก 1 ลูก


รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
บาร์เซโลน่า : ระบบ 4-3-3
ผู้รักษาประตู : วิคเตอร์ บัลเดส
กองหลัง : ดาเนี่ยล อัลเวส, ราฟาเอล มาร์เกซ, กาเบรียล มิลิโต้, เอริค อบิดัล(เม็กซ์เวลล์ อันดราเด้ น.52)
กองกลาง : ชาบี เฮอร์นานเดซ(กัปตันทีม), เซอร์คิโอ บุสเก็ตส์, เซย์ดู เกอิต้า
กองหน้า : ลิโอเนล เมสซี่, โบยาน เกอร์กิช(ยาย่า ตูเร่ น.55), เปโดร โรดริเกซ(อันเดรส อิเนียสต้า น.86)

ตัวสำรอง : อันเดรส อิเนียสต้า, มานูเอล ปินโต้, เธียร์รี่ อองรี, เม็กซ์เวลล์ อันดราเด้, ยาย่า ตูเร่, แอนดูรว์ ฟอนทาส, เจฟเฟรน ซัวเรซ


อาร์เซน่อล : ระบบ 4-2-3-1
ผู้รักษาประตู : มานูเอล อัลมูเนีย(กัปตันทีม)
กองหลัง : บาการี่ ซานย่า, มิคาเอล ซิลแวสต์ร(เอ็มมานูเอล เอบูเอ้ น.63), โธมัส แฟร์มาเล่น, กาแอล กลิชี่
กองกลาง : อาบู ดิยาบี้, เดนิลสัน, โทมัส โรซิชกี้(เอดูอาร์โด้ ดา ซิลวา น.73), ซามีร์ นาสรี่, ธีโอ วัลค็อตต์
กองหน้า : นิคลาส เบนท์เนอร์

ตัวสำรอง : โซล แคมป์เบลล์, ลูคัสซ์ ฟาเบียนสกี้, เอดูอาร์โด้ ดา ซิลวา, เอ็มมานูเอล เอบูเอ้, อาร์มานด์ ตราโอเร่, เปเรส ฟราน เมริด้า, เคร็ก เอสท์มันด์




ผลการแข่งขันอีกคู่ ยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีก รอบก่อนรองชนะเลิศ

ซีเอสเคเอ มอสโก 0:1 อินเตอร์ มิลาน
(ผลนัดแรก อินเตอร์ ชนะ 1:0 รวมสองนัด อินเตอร์ เข้ารอบด้วยประตูรวม 2:0)





 




 




 




 




 




 




 




 




 




 




 




 




 




 




 




 




 




 




 




 



เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์