 |
ฟุตบอลยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบก่อนรองชนะเลิศ นัดที่ 2
วันที่ 6 เม.ย. 2010
บาร์เซโลน่า 4-1 อาร์เซน่อล
(รวมผล 2 นัด บาร์เซโลน่า เข้ารอบด้วยประตูรวม 6-3)
ผู้ทำประตู : 0-1 นิคลาส เบนท์เนอร์ น.18, 1-1 ลีโอเนล เมสซี่ น.20, 2-1 เมสซี่ น.36, 3-1 เมสซี่ น.42, 4-1 เมสซี่ น.88
เกมนี้ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า กุนซือบาร์ซ่า ขาดผู้เล่นหลายคนทั้งบาดเจ็บและติดโทษแบน ไม่ว่าจะเป็น ซลาตัน อิบราฮิโมวิช, เคราร์ด ปิเก้ และ คาร์เลส ปูโยล ทำให้ เปโดร โรดริเกซ และ โบยาน เกร์กิช ได้ลงเป็นตัวจริงร่วมกับ ลีโอเนล เมสซี่
ขณะที่ อาร์เซน่อล ของ อาร์แซน เวนเกอร์ ก็มีปัญหาผู้เล่นตัวหลักเจ็บระนาวเช่นกัน โดยเฉพาะ เซสก์ ฟาเบรกาส, อังเดร อาร์ชาวิน, วิลเลี่ยม กัลลาส และ อเล็กซ์ ซง โดยเกมนี้ เวนเกอร์ ส่ง ธีโอ วัลค็อตต์ ลงเป็นตัวจริงคู่กับ นิคลาส เบนท์เนอร์
ช่วงต้นเกมเป็น บาร์ซ่า ที่ออกสตาร์ทได้ดีกว่า โดย เมสซี่ มีโอกาสได้สับไกยิงบริเวณกรอบเขตโทษ แต่ อัลมูเนีย พุ่งปัดออกหลังไปได้อย่างหวุดหวิดในนาทีที่ 4 และจากนั้นเจ้าถิ่นก็ครองบอลเอาไว้ได้ดีอย่างเห็นได้ชัด
ทว่า นาทีที่ 18 กลายเป็น อาร์เซน่อล ที่ขึ้นนำ 1-0 หลังจากที่ ซาเมียร์ นาสรี่ ฉกบอลได้จาก กาเบรียล มิลิโต้ ก่อนจะวางบอลให้ วัลค็อตต์ ได้หลุดกับดักล้ำหน้าและจ่ายต่อให้ เบนท์เนอร์ ยิงไปติดเซฟ บิคตอร์ บัลเดส ในจังหวะแรก แต่ก็ยังเร็วพอที่จะจิ้มบอลซ้ำเข้าไปตุงตาข่าย
อย่างไรก็ตาม อีก 2 นาทีต่อ บาร์ซ่า ก็ตีเสมอเป็น 1-1 ได้สำเร็จ เมื่อมิกาแอล ซิลแวสต์ สกัดบอลไม่ดีมาเข้าทางปืนของ เมสซี่ ที่ซัดประตูสุดสวยจากบริเวณกรอบเขตโทษชนิดที่ อัลมูเนีย หมดสิทธิรับ
จากนั้น เมสซี่ ได้โอกาสพาบอลกระชากหนี ซิลแวสต์ ในกรอบเขตโทษอีกครั้ง แต่สุดท้ายกลับยิงเข้าข้างตาข่ายอย่างน่าเสียดาย
นาทีที่ 36 บาร์ซ่า ก็แซงขึ้นนำ 2-1 ได้สำเร็จ แม้ว่า เอริค อบิดัล จะจ่ายเข้ากลางไม่ดี แต่ เปโดร ก็ยังแตะต่อให้ เมสซี่ ได้ยิงเหน่งๆ ในเขตโทษและหัวหอกอาร์เจนไตน์ ก็ยิงเสียบตาข่ายเข้าไปไม่เหลือ
นาทีที่ 42 แฟนบอลในคัมป์ นู ก็ได้เฮอีกครั้ง เมื่อ เซย์ดู เกอิต้า เปิดบอลทะลุกับดักล้ำหน้าให้ เมสซี่ ได้หลุดเข้าไปชิพข้ามตัว อัลมูเนีย อย่างเหนือชั้นและเป็นแฮตทริกให้ บาร์ซ่า นำห่าง 3-1 เมื่อจบครึ่งแรก
ครึ่งหลังทั้งสองทีมยังใช้ผู้เล่นชุดเดิม แต่นาทีที่ 53 บาร์ซ่า ก็ต้องเปลี่ยนตัวเป็นคนแรกเมื่อ อบิดัล ได้รับบาดเจ็บและต้องส่ง แม็กซ์เวลล์ ลงมาแทน ตามด้วยการถอด โบยาน เกร์กิช ออกและส่ง ยาย่า ตูเร่ ลงสนามในอีก 2 นาทีต่อมา
แม้ว่าอาร์เซน่อล จะพยายามเปิดเกมรุกมากขึ้นในครึ่งหลัง แต่ก็ยังไม่สามารถหาจังหวะลุ้นประตูได้ ทำให้ เวนเกอร์ ต้องแก้เกมด้วยการส่ง เอ็มมานูเอล ดิยาบี้ ลงมาแทน ซิลแวสต์ ในนาทีที่ 63 และเอา เอดูอาร์โด้ แทน โธมัส โรซิคกี้ ที่แทบจะหายไปจากเกม
นาทีที่ 76 กาแอล กลิชี่ ขโมยบอลจาก ดาเนี่ยล อัลเวส ก่อนที่จะได้โต้กลับเร็ว แต่สุดท้ายเจ้าตัวกลับเลือกยิงไกลบอลโด่งข้ามคานแบบไม่มีลุ้น ทั้งที่มีเพื่อนรออยู่ในตำแหน่งที่ดีกว่าในการลุ้นประตู
ช่วงท้ายเกมเป็นบาร์ซ่า ที่เน้นการครองบอลฆ่าเวลา ก่อนที่จะมาได้ประตูปิดท้ายจาก เมสซี่ ในนาทีที่ 88 หลังรับบอลจาก ชาบี แล้ว กองหน้าชาวอาร์เจนไตน์ ก็อาศัยความสามารถเฉพาะตัวล็อกหลบกองหลังอาร์เซน่อล 3 คนก่อนจะยิงไปติดเซฟ อัลมูเนีย ในจังหวะแรก แต่ก็ยังไวพอที่จะตามซ้ำด้วยการยิงลอดขานายทวารทีมเยือนเข้าไป
จบเกม บาร์ซ่า ชนะ อาร์เซน่อล อย่างเด็ดขาด 4-1 และเข้ารอบก่อนรองชนะเลิศด้วยสกอร์รวม 6-3
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
บาร์เซโลน่า : บิคตอร์ บัลเดส, ดาเนี่ยล อัลเวส, กาเบรียล มิลิโต้, ราฟาเอล มาร์เกซ, เอริค อบิดัล, ชาบี เอร์นานเดซ, เซอร์กี้ บุสเก็ตส์, เซย์ดู เกอิต้า, ลีโอเนล เมสซี่, เปโดร โรดริเกซ, โบยาน เกร์กิช
อาร์เซน่อล : มานูเอล อัลเมเนีย, บาการี่ ซานญ่า, โธมัส แฟร์มาเล่น, มิกาแอล ซิลแวสต์, กาแอล กลิชี่, เดนิลสัน, อาบู ดิยาบี้, โธมัส โรซิคกี้, ธีโอ วัลค็อตต์, ซาเมียร์ นาสรี่, นิคลาส เบนท์เนอร์
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
