[บทความ]อาร์เซน่อลกับแชมป์พรีเมียร์ลีก ! ?? ใครคือตัวแปรสำคัญ ! ??


ยอมรับตามตรงครับว่าแทบหมดอารมณ์ไป1-2วัน หลังโดนโคตรทีมต่างดาวสอนบอลแบบหมดทางสู้4-1

ความมหัศจรรย์ของเมสซี่ บวกกับโคตรบอลของบาร์ซ่า ต้องยอมรับว่า อาร์เซน่อลเรานั้น หมดทางสู้ และแพ้ทุกกระบวนท่า

ถ้าเปรียบกับมวยก็คงน็อกแบบหมดสภาพนั่นล่ะครับ...

ชั้นเชิงของเมสซี่ในเกมนี้ ช่วยตอกย้ำความเป็นซูเปอร์สตาร์อันดับ1ของโลกในเวลานี้ได้เป็นอย่างดีครับว่า เทพขนาดไหน...

จะว่าไป ถ้าจะเรียกเกมนี้ว่า “ Messi Show “ ก็ไม่ผิดนัก ลีลาเทคนิคขั้นเทพของเมสซี่ปั่นป่วนแนวรับเดอะ กันเนอร์สได้เป็นอย่างดี

ที่สำคัญคือประตูแต่ละดอกที่สังหารได้ในเกมนี้ จัดเข้าขั้นคลาสสิกจนอยากจะอุทานเป็นภาษาสเปนว่า “ มันทำได้ไงวะ “

แต่ละดอกที่เมสซี่ระเบิดตะข่าย จัดว่าเป็นสิ่งที่ยากสำหรับใครหลายๆคนที่จะปฏิบัติตาม บางคนต้องฝึกฝนเป็นเวลานานกว่าจะทำประตูในลักษณะนั้นได้

แต่เมสซี่กลับทำได้ง่าย ชิวๆธรรมดาๆ ประหนึ่ง ปลอกกล้วยเข้าปากซะงั้น!

ว่าแล้วผมขอสรุปมันเอาดื้อๆเลยครับว่า เมสซี่มันไม่ใช่คน!! แต่เป็นมนุษย์ต่างดาวต่างหาก!


แต่กระนั้น ในความเทพของเมสซี่ มันคงจะไม่จรัสแสงถึงขนาดนี้ หากแนวรับอาร์เซน่อลไม่หละหลวมจนเกินไป...


เข้าใจครับว่าการต่อกรกับโคตรทีมอย่างบาร์ซ่าเป็นเรื่องยากที่จะรับมือ แต่แผงหลังไอ้ปืนใหญ่กลับพลาดง่ายๆจนเกินไป ทั้งๆที่น่าจะทำกันได้ดีกว่านี้


ประตูแรกเกิดจากความิดพลาดของ ”มนุษย์ยุคหิน” ซิลแวสตร์ ที่ไม่เข้าใจว่าเกิดผีห่าอะไรขึ้น ถึงได้ทำการบรรจง จ่ายบอลไปให้กับฝ่ายตรงข้ามมันซะอย่างงั้น...


ที่สำคัญคือ จ่ายให้ใครไม่จ่าย ดันไปให้กับดาวเตะ ผู้มาจากนอกโลก มนุษย์ต่างดาวซะด้วยสิ อะไรมันจะบรรลัยขนาดนั้น!


มีหรือจะไม่เรียบร้อยครับ ว่าแล้วเมสซี่ก็ทำหน้างงๆพลางสบถเลียนแบบนักการเมืองบางประเทศว่า “ตูงง “


จากนั้นก็บรรจงยิงประตูอย่างงามหยด ชนิดที่กะไม่ให้อัลมูเนียได้เกิดกันเลยทีเดียว...


ถามว่า จุดเริ่มต้นของความบัดซบนี้ ซิลแวสตร์ “ เหวง “ มั้ย เอ๊ย ผิดมั้ยกับความพ่ายแพ้ในครั้งนี้ ??


มันคงจะไม่ยุติธรรมกันเท่าไหร่ครับ ถ้าเราจะไปโทษมนุษย์ยุคหินแต่เพียงผู้เดียว เพราะ ถ้าจะโทษมันต้องโทษทั้งทีมซะมากกว่า


ที่สำคัญ คู่ขาอย่างโธมัส แฟร์มาเล่น ก็ไม่ได้เล่นดีไปกว่ากันเท่าไหร่ แถมประตูที่3ที่เสียไป เกิดมาจากการที่เจ้าตัวดันสูงเกินเหตุ โหม่งสกัดบอลพลาด อันเป็นเหตุให้มนุษย์ต่างดาวจุติประตูที่3 อันเป็นแฮตทริกด้วย


ที่ต้องชมคือ กลิชี่กับซานญ่าที่แทบไม่มีความผิดพลาดให้เห็น โดยเฉพาะกลิชี่ที่สู้กับอัลเวสได้อย่างสูสี จนอยากให้อัลเวสย้ายมาสู้ มาฟัดกันต่อในเอมิเรตย์ สเตเดี้ยม ซะจริง ( อิ อิ )


ก็เป็นอันสรุปว่า ถ้วยที่แฟนปืนโตใฝ่ฝันกันมานานนั้น ก็ แห้ว และหลุดลอยกันไปอีกปี...


แต่กระนั้น ใช่ว่าชีวิตของพลพรรคปืนใหญ่จะบัดซบกันซะหน่อยจริงมะ....


ในเมื่อยังเหลือพรีเมียร์ลีกให้ลุ้นกันอยู่ ตราบใดที่เกมยังไม่จบ ก็ยังไม่หมดหวัง แถมยังมีโอกาสดีอยู่ซะด้วยในการลุ้นแชมป์


ถามว่า โอกาสลุ้นแชมป์ ของปืนใหญ่มีมากน้อยเพียงใด ??


3และ 1 แต้มที่ยังตามหลังอยู่ ในขณะที่การแข่งขันเหลืออีกเพียง 5นัด แม้ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ แต่ในขณะเดียวกันก็ไม่ใช่เรื่องยากจนเกินไปเช่นกัน..


เราจะลองมาดู 5นัดสุดท้าย ของ3ทีมบิ๊กในการขับเคี่ยวแชมป์กันครับ


เชลซี - (เหย้า) โบลตัน , (เยือน) สปอร์ส , (เหย้า) สโต๊ค , (เยือน) ลิเวอร์พูล , (เหย้า) วีแกน
แมนยู – (เยือน) แบล็คเบริน , (เยือน) แมนซิตี้ , (เหย้า) สปอร์ส , (เยือน) ซันเดอร์แลนด์, (เหย้า) สโต๊ค
อาร์เซน่อล – (เยือน)สปอร์ส, (เหย้า) วีแกน, (เหย้า) แมนซิตี้ , (เยือน) แบล็คเบริน , (เหย้า) ฟูแล่ม

มองดูตามโปรแกรมแล้วผมขอทายว่า ทีมลุ้นแชมป์จะมีอยู่แค่ 2ทีม คืออาร์เซน่อล และ เชลซีครับ


เชลซี มีหนักแค่ สปอร์ส กับ ลิเวอร์พูล แต่ สถิติบ่งบอกอยู่ว่า2ทีมนี้มักแพ้ทางเชลซีอยู่เสมอ
ส่วนอีก3เกมที่เหลือ เชลซีพร้อมกินเรียบหมด...


ส่วนปีศาจแดง ไม่ได้มีอคติกับแมนยู แต่เมื่อมองตามโปรแกรม การไปเยือนแมนซิตี้คู่ปรับร่วมเมือง กับ เปิดบ้านเจอสปอร์ส มันใช่เรื่องง่ายที่ไหนกันล่ะ


นอกจากนี้ผมมองว่าแมนยูอาจมีการสะดุด ในการเจอกับซันเดอร์แลนด์ และ แบล็คเบรินด้วย

การไปเยือนซันเดอร์แลนด์ อาจไม่ใช่เรื่องยากจนเกินไปตามความคิดของใครหลายคน

แต่ผมกลับมองว่า การที่ฟุตบอลโลกใกล้เข้ามาถึง หลายต่อหลายคนก็กระสันที่จะโชว์ฟอร์มให้เข้าตาโค้ชทีมชาติกันทั้งนั้น


แน่นอนว่า ดาร์เรนด์ เบนด์ก็เป็น1ในนั้นอย่างไม่ต้องสงสัย...


และเมื่อมองไปถึงการเจอทีมแมวดำในเกมรองสุดท้าย ฟุตบอลโลกที่จะจวนเจียนเข้ามาทุกที มีหรือ ที่เบนด์จะไม่กระสันอยากโชว์ฟอร์ม


และการยิงทีมอย่างแมนยูเนี่ย ย่อมเข้าตาคาเปลโล่ได้เป็นอย่างดีเชียวล่ะ


ส่วนเกมกับแบล็คเบริน แม้กุหลาบไฟจะไม่มีลุ้นอะไรแล้วก็เถอะ แต่สถิติในบ้านแบล็คเบรินบ่งบอกเอาไว้ว่า ชนะ 9 เสมอ 5 แพ้เพียงแค่ 2

ที่สำคัญด้วยสภาพจิตใจที่กำลังย่ำแย่หลังโดนบาเยรินน็อกมา ผมว่านี่คือสิ่งสำคัญที่อาจทำให้แมนยูไม่ชนะในวันอาทิตย์นี้..


ผิดกับ อาร์เซน่อล ที่นับว่าอะไรจะโชคดีปานนั้น การที่สปอร์สเข้ารอบรองเอฟเอ คัพ ทำให้อาร์เซน่อลมีเวลาเตรียมกระจิตกระใจกลับคืนมา

เดอะ กันเนอร์ส มีเจอ หนักๆแค่สปอร์ส และแมนซิตี้ อาจรวมไปถึงแบล็คเบริน ส่วน วีแกน ฟูแล่ม นั้นไม่ใช่เรื่องเหลือบ่ากว่าแรงในการจะเอาชนะได้

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น มันอยู่ในเงื่อนไขที่ว่า อาร์เซน่อลต้องไม่พลาดอย่างที่ผ่านมาอีกนะครับ


เพราะ ถ้าพลาดแบบไม่น่าพลาดอย่างที่ผ่านมาอีก คงไม่มีโอกาสได้แก้ตัวซ้ำสองอีกแน่


จะว่าไป การที่ทีมจะเป็นแชมป์นั้น จำต้องมีนักเตะที่จะเป็นตัวแปรสำคัญของทีมได้


ในขณะที่ แมนยู มีเวย์น รูนีย์ เชลซี มี ดร็อกบา ส่วนอาร์เซน่อล ตัดเชสที่บาดเจ็บยาว ผมขอชี้ว่า ตัวแปรของไอ้ปืนใหญ่ คือ อ....อ....เอ่อ.....

นิคลาส เบนด์เนอร์ ครับ!


ไม่ได้ตาฝาดหรอก เบนด์เนอร์นี่แหละจะเป็นตัวแปรสำคัญให้ทีมได้อย่างไม่ต้องสงสัย...


จำได้ว่าผมเคยเขียนเกี่ยวกับบิ๊กเบนด์มาแล้วครั้งนึง เมื่อไม่นานมานี้..

ผมได้เห็นหลายต่อหลายคนวิจารณ์บิ๊กเบนด์ว่า ที่ทำประตูได้ในที่ผ่านมา ก็แค่ฟลุกเท่านั้นแหละ...


แต่ประทานโทษเถอะ.... การได้ลงตัวจริงในฤดูกาลนี้ไป 19นัด แต่สามารถกระซวกตาข่ายไปถึง11ลูกนี่มันฟลุกตรงไหนไม่ทราบ(ฟะ)!

แม้ลีลาการเลี้ยงจะเข้าขั้นบัดซบ บางทีก็ดูเหมือนยืนเก้ๆกังๆ แต่หากตัดคำว่า“ อคติ ” ออกไป จะพบว่า...

เบนด์เนอร์เป็นนักเตะที่มักยืนอยู่ถูกที่ถูกเวลาเสมอ...


แม้บางทีเพื่อนร่วมทีมอาจจะเปิดบอลให้ง่ายต่อการรับประทานก็เถอะ แต่การอยู่ถูกที่ถุกเวลาของเบนด์เนอร์ก็ช่วยทีมได้


และที่สำคัญ หลายต่อหลายครั้งที่บิ๊กเบนด์ซัดประตูช่วยให้ทีมโกงความตายกลับมาได้ตลอด ทั้งๆที่ ไอ้ปืนใหญ่มันน่าจะสิ้นลมไปแล้วแท้ๆ


นี่แหละครับตัวแปรที่แท้จริงของอาร์เซน่อล...


แต่กระนั้นยังมีอีกคน ที่กลับมาได้ถูกที่ถูกเวลาเหลือเกิน...


ลืมฉันไปหรือยัง ? คิดถึงกันบ้างไหมเธอ ??


คอยจับตาดูให้ดีนะครับ แว่วๆมาว่า แมทย์ที่จะพบกับสปอร์สในวันพุธที่จะถึงนี้ อาจจะมีการกลับมาของสตาร์ผู้หนึ่ง...


ผู้ที่เจ็บไปถึง 5 เดือน จนต้องใช้รกม้ามาช่วย...


แต่คาดว่า คงไม่ใช่สปิชี่เดียวกับ รุด ฟาน นิสเตอร์รอย รกม้าก็เลยใช้ไม่ได้ผล..


คงจะพอรู้กันแล้วนะครับว่าเป็นใครกัน ? โรบิน ฟาน เพอร์ซี่นั่นเอง!

จับตาดูตัวแปรสำคัญนี้ให้ดีนะครับ นี่แหละคือคนที่จะสานต่อกัปตันเชส และเบนด์เนอร์ในการพาอาร์เซน่อลเข้าป้าย แซงวินแชมป์พรีเมียร์ ลีก ตัวจริง...


Coming Soon!... RVP Return To The Gunners!!

นกในเอมิเรตย์ทั้งหลาย ! เตรียมอพยพย้ายที่ทำรังได้ ! Ha Ha

Master Reed



http://www.ohokid.com/

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์