Tactics Corner : The El Capitan strikes back



The El Capitan strikes back


สวัสดีครับพี่น้องชาวกูนเนอร์ วันนี้มาแปลกนิดหน่อยเพราะชื่อบทความเป็นภาษาประกิตซะด้วย ...
อ๊ะๆ แต่อย่าเพิ่งด่าผมทำตัวดัดจริตไม่นิยมใช้ภาษาไทยนะครับ แต่ที่ผมจั่วหัวแบบนี้ย่อมมีเหตุผลที่เกี่ยวข้องกับบทความชิ้นนี้แน่นอน

ผม คิดอยู่นานหลายวันว่าจะเขียนบทความอะไรดี เพราะถ้านับตั้งแต่ต้นฤดูกาลก็เขียนลงในกันเนอร์สแม็กกาซีนจนมาถึงวันนี้ก็ ร่วมๆ 5 บทความเข้าไปแล้ว
(แต่มีบทความชิ้นหนึ่งที่อายุสั้นกว่าเค้า เพื่อน เพราะบังเอิญ MOD ท่านหนึ่งเข้าใจผิดกดลบทิ้งไป บทความชิ้นนั้นชื่อ ฝันร้ายที่เมืองแมนเชสเตอร์)
แต่ก็ช่างมันเถอะครับ... สำหรับบทความที่ผมจะเขียนต่อไปนี้ จะเป็นเหมือนภาคต่อมาจากบทความ สนามเด็กเล่นของ อาแซน เวนเกอร์
หากใครยังไม่ได้อ่านก็เรียนเชิญได้ที่นี่ >> http://ohokid.com/board2/index.php?showtopic=1906


เกมรุกของอาร์เซน่อลได้รับการกล่าวขานบนสื่อต่างๆอีกครั้ง เมื่อสามารถส่งบอลเข้าตาข่ายคู่แข่งระเบิดระเบ้อ เฉลี่ย 3 ประตูต่อเกม
หลังจากที่เวนเกอร์ปรับมาใช้แท็คติค 4-3-3 ในฤดูกาลนี้ ผมลองมานั่งทบทวนสถิติเกมต่อเกมและพบข้อสังเกตอยู่ประการหนึ่งว่า ...
อาร์ เซน่อลก็ได้ประตูจากการโต้กลับเร็วค่อนข้างเยอะมาก โดยเฉพาะกับนัดเหย้ากับ อัคม่าร์ จำนวนประตูที่เกิดขึ้นในฝั่งอาร์เซน่อล 4 ครั้ง
มีมากถึง 3 ครั้ง เป็นการได้ประตูจากการโต้กลับเร็ว โดยเฉพาะลูก 4-0 ที่ ดา ซิลวา ตอกลูกส้นให้อาร์ชาวินวิ่งกระชากขึ้นมา
ก่อนเปิดให้ดิยาบี้สังหาร ซึ่งถือว่าเป็นการเข้าทำที่สวยงามและเฉียบขาดลูกหนึ่งในเกมแชมป์เปี้ยนลีกประจำสัปดา
ห์ที่ผ่านมา


จากจุดนี้ทำให้ผมกลับไปรวบรวมข้อมูลจำนวนประตูที่เกิดขึ้นทั้งหมดในทุกๆเกมที่อาร์เซ
น่อลลงแข่งเป็นทางการจนเขียนออกมาเป็นตารางภาพดังนี้...
(อย่าเพิ่งเบื่อกันนะ หรือพาลไปคิดว่า กำลังอ่านตำราเตรียมสอบอยู่ 555+)

ผมรวบรวมเองกับมือ ถ้ามีข้อมูลผิดพลาดบ้างก็ขออภัย
หมายเหตุ :
- Goal from Direct Attack : ประตูที่เกิดจากการบุกตามปกติ
- Goal from Counter Attack : ประตูที่เกิดจากการโต้กลับเร็ว ... (ที่วงเล็บเอาไว้ เป็นการทำเข้าประตูตัวเองของคู่แข่งจากการโต้กลับเร็ว)
- Goal from Set pieces : ประตูที่เริ่มต้นมาจากลูกตั้งเตะทุกประเภท
- Own goal : ประตูที่ได้จากการทำเข้าประตูตัวเองของคู่แข่ง
- Penalty : ได้จุดโทษ (ปีนี้ได้น้อยมาก ถ้าดูดู้ไม่พุ่งเองก็คงไม่ได้เลยสินะ... สงสัยแพ้พรรคพลังกรรมการแถมตอนเหนือของอังกฤษ)

จาก ตาราง เราจะเห็นได้ว่า อาร์เซน่อลสามารถชนะคู่แข่งได้สบายๆ บางทีสกอร์แค่ 2-0 ก็น่าจะเพียงพอแล้ว แต่เรื่องจริงกลับไม่เป็นเช่นนั้น
ประตูจากเกมโต้กลับ หรือ Counter Attack สร้างผลงานเอกอุ กระหน่ำลงดาบคู่แข่งไปถึง 16+1 ประตู
ส่งผลให้สกอร์บวกเพิ่มขึ้นไปเป็น +3 หรือ +4 ประตู หรือบางเกมก็เฟ้อไปถึง +6 ประตู
เกม โต้กลับเร็วจึงเป็นกลยุทธ์หนึ่งที่เวนเกอร์ใช้หลอกล่อคู่แข่งให้ทำเกมบุก ขึ้นมา แม้จะเสี่ยงต่อการเสียประตูอยู่บ้าง แต่มันก็คุ้มค่ากับผลลัทธ์ที่เกิดขึ้น

โดยปรกติ กลยุทธ์เกมโต้กลับเร็ว ทีมที่เล็กกว่ามักใช้เพื่อต่อกรกับทีมใหญ่ที่ดาหน้าบุกเข้ามา ดังเช่น นัดที่ฮัลล์ซิตี้มาเยือนอาร์เซน่อลเมื่อฤดูกาลก่อน
เกมนั้น ฮัลล์ได้ประตูจากเกมโต้กลับเร็วจาก โจวานนี่ และส่งผลให้ปืนใหญ่เพลี่ยงพล้ำจนแพ้ในบ้านตัวเองอย่างน่าเจ็บใจ
และ หากทุกท่านยังไม่ลืมเกมแชมป์เปี้ยนลีกเลกสองเมื่อฤดูกาลก่อนกับแมนยูไนเต็ด เราโดนเจ็ตโด้-รูนนี่-พาร์ค ทะลวงน้ำบานมาแล้วจากเกมโต้กลับเร็ว
นั่นแสดงให้เห็นแล้วว่า เกมโต้กลับเร็วไม่ได้นิยมนำไปใช้เพื่อต่อกรทีมที่ใหญ่กว่าของทีมเล็กๆเท่านั้น
กุน ซือทีมใหญ่อย่าง แมนยูไนเต็ด ที่มีผู้เล่นเคี่ยวๆก็เลือกใช้มันเช่นกัน เมื่อสถานการณ์บีบบังคับให้อีกฝ่ายหนึ่งต้องเปิดเกมรุกเข้าใส่
ดังเช่น อาร์เซน่อลที่เสียประตูในเกมนัดก่อน ก็เปิดฉากโหมบุกใส่เพื่อเอาประตูคืน... ก่อนจะโดนยูไนเต็ดสวนคืนน้ำบานอีก 3 ดอก คารังเอมิเรต

กลับมาที่สถานการณ์ปัจจุบันกันบ้าง ...
อาร์ เซน่อลซึ่งฟอร์มกำลังเข้าฝัก ผู้เล่นเกมรุกประสานงานได้ยอดเยี่ยมด้วยแท็คติคใหม่ การเล่นบอลตามช่องจากเหล่าบรรดาเทพแห่งเทคนิคการผ่านบอลอย่าง ...
ฟาเบรกาส, อาร์ชาวิน, โรซิคกี้, นาสรี่, ฟานเพอซี่ หรือ อาบูดิยาบี้ !!! ก็สามารถจะทะลวงแนวรับคู่แข่งและได้ประตูขึ้นนำอย่างรวดเร็ว
ส่งผลให้ประตูแรกเกิดขึ้นกลายเป็นการกำหนดเกมของอาร์เซน่อลไปโดยปริยาย ...

หลังจากอาร์เซน่อลได้ประตูขึ้นนำ 1-2 ประตู เวนเกอร์จะปรับหมากอีกครั้ง โดยถอยผู้เล่นมาตั้งรับในแดนกลางมากขึ้น
ทำให้บางครั้ง ก็ดูเหมือนยืนตำแหน่งแบบ 4-5-1 หรือ 4-6-0 ทั้งนี้เพื่อหลอกล่อให้คู่แข่งให้บุกมาชิงประตูคืนบ้าง

ภาพแสดงการยืนตำแหน่งเฉลี่ยของผู้เล่นอาร์เซน่อลจากเว็บ ESPN ในเกมเยือนวูล์ฟแธมตัน
จากภาพจะเห็นว่า อาเซน่อลจะเน้นทำเกมอยู่ในแดนกลางของตัวเองเสียเป็นส่วนใหญ่

***หมายเหตุ : ภาพจะดูแปลกหน่อย ผมคิดว่าภาพมันกลับด้านบนล่างนะ ^__^

เมื่อผู้เล่นฝั่งอาเซน่อลตัดบอลได้ ก็จะรีบตั้งเกมโต้กลับเร็วทันที บอลที่ถูกตัดได้มักจะถูกส่งเข้าเท้าฟาเบรกาส, อาร์ชาวิน
หรือ ผู้เล่นที่เวนเกอร์เห็นว่าสามารถสร้างสรรค์เกมได้ดี จ่ายบอล สั้น-ยาว ได้แม่นยำ แน่นอน และทำให้ทีมได้เปรียบ

ภาพตำแหน่งการยืนของผู้เล่นในเกมโต้กลับเร็ว

เมื่อผู้เล่นทีมสีฟ้าเสียบอล ผู้เล่นสีแดงจะจ่ายบอลมายังผู้เล่นที่ว่างอยู่ ซึ่งมีความเร็วและมีทักษะไปกับบอลได้ดี
โดยคนที่จะตามมาจบสกอร์อาจจะเป็นกองหน้าทีมสีแดง หรือ มิดฟิวด์ที่วิ่งดาหน้าขึ้นมาเติมเกมก็ได้ตามแต่สถานการณ์ ...
และหากเป็นตำแหน่งมิดฟิวด์จบสกอร์เอง เราก็จะเห็นผู้เล่นอย่าง ฟาเบรกาส, ดิยาบี้ หรือ แรมซีย์ วิ่งขึ้นมายิงบ่อยๆ
และนั่นจึงเป็นที่มาของสถิติยิงประตูถล่มทลายจากผู้เล่นในตำแหน่งมิดฟิวด์

ภาพการยืนตำแหน่งในเกมโต้กลับเร็ว นัดเปิดบ้านต้อนรับกุหลาบเพลิง-แบล็กเบิร์น :
ประตู 5-2 ; จ่ายโดย ฟาเบรกาส >>> ยิงโดย ธีโอ

จุดเริ่มต้นมาจาก เอลกับปิตันหนุ่ม - ฟาเบรกาส ทำหน้าที่เป็นคนเซ็ตอัพเพื่อกำหนดทิศทางของการเริ่มต้นเล่นเกมโต้กลับเร็ว
โดย เอล กับปิตัน เลือกจ่ายบอลให้ผู้เล่นที่มีความเร็วอย่างอาร์ชาวิน ซึ่งยืนสแตนบายรออยู่ตรงริมเส้น และไม่มีตัวประกบ !!
(แบล็กเบิร์นเสียท่าให้พี่ม้าจอมเจ้าเล่ห์ซะแล้ว .. อิอิ)


ภาพการเข้าทำจากเกมโต้กลับเร็ว เกมไปเยือนหมาป่า-วูล์ฟแธมตัน :
ประตู 0-3 ; จ่ายโดย ฟานเพอซี่ >>> ยิงโดย ฟาเบรกาส

จากภาพการเข้าทำประตู 0-3 ด้านบน จะเห็นว่า อาร์เซน่อลใช้ผู้เล่นเพียงแค่ 3 คนเท่านั้น คือ ซานญ่า, ฟาเบรกาส และ ฟาน เพอซี่
ซานญ่าตัดบอลได้ก็ส่งให้ฟาเบรกาสที่ฉีกไปพื้นที่ว่างรอรับบอลอยู่ ก่อนจะป้ายบอลส่งคืนซานญ่าอีกที ซานญ่าใช้ความเร็วกระชากขึ้นไป
ฟาเบรกาสวิ่งตรงดิ่งเข้าไปยังกรอบเขตโทษ ในขณะที่ซานญ่าไม่เลือกจ่ายไปที่ฟาเบรกาสเหมือนกับที่ผู้เล่นธรรมดาๆเขาทำกัน
แต่เขาเลือกที่จะครอสบอลเลียดๆให้ ฟาน เพอซี่ ล็อกหลอกล่อตัวประกบที่วิ่งตามฟาเบรกาสมา ก่อนจะจ่ายถวายพานให้ เอล กับปิตัน จบสกอร์
เกมโต้กลับที่ใช้ผู้เล่นเพียงแค่ 3 คน แต่เล่นให้เหมือนราวกับว่ามีผู้เล่นอยู่ในสนามเท่ากับ 4 หรือ 5 คน นี่แหล่ะที่เรานิยามกันว่า Total Football
ดังที่ผมได้เคยเขียนในบทความ สนามเด็กเล่นของ อาแซน เวนเกอร์ เมื่อครั้งกระนู้นนั่นเอง

Total Football ในเวอร์ชั่นของอาเซน่อลที่มี ฟรานเซสก์ ฟาเบรกาส เป็นหัวใจในการบัญชาเกม
เหมือนดังเช่น โยฮัน ครัฟ เป็นหัวใจให้กับทีมชาติฮอลแลนด์ในช่วงทศวรรษ 1970 ...
และแผนภาพต่อไปนี้ ก็คือสถิติอันน่าทึ่งในเกมรุกของ El Capitan ... (ข้อมูลจากวิกีพีเดีย)


ในเกมเป็นทางการ 15 นัดล่าสุด เอล กับปิตัน หนุ่มน้อยของเรา ซัดประตูใส่คู่แข่งไปแล้ว 9 ตุง แถมจ่ายให้เพื่อนทำประตูอีก 13 ครั้ง !!!
หากย้อนกลับไปมองเมื่อ 2 ปีก่อน (ฤดูกาล 2007-08) เอลกับปิตันก็มีช่วงเวลาที่สุดยอดเช่นกัน แต่คิดจากจำนวนนัดที่ลงเล่นแล้ว
ค่า เฉลี่ยต่างกันเกินครึ่ง ซึ่งนั่นสอดคล้องกับคำพูดของ อาแซน เวนเกอร์ ที่ออกมาให้ความเห็นเกี่ยวกับฟาเบรกาสว่า เขาแข็งแกร่งขึ้นกว่าแต่ก่อนมากแค่ไหน

ผมอยากให้ทุกท่านลองศึกษาแผน ภาพชิ้นนี้ที่แสดงถึงสถิติของมิดฟิลด์ตัวกลาง 4 คนของบิ๊กโฟร์ ซึ่งมีฝีเท้ายอดเยี่ยมติดอันดับต้นๆของพรีเมียร์ลีก
อันได้แก่ Gerrand, Lampard, Fabregas และ Scholes
(เอื้อเฟื้อภาพโดยคุณ diazenal , Link >> http://www.lentee.com/soccer/viewtopic...894b8aacfbe2bc)


จากภาพ เมื่อเราจำกัดเฉพาะช่วงอายุ จะพบว่า ฟาเบรกาสในวัยตั้งแต่ 17 - 22 ปี มีสถิติในทั้งการยิงประตู และที่สำคัญคือ
สถิติ การจ่ายบอลให้เพื่อนยิงประตูที่น่าทึ่งกว่ามิดฟิวด์ 3 คน ที่เหลือ (แม้ว่าข้อมูลของบางคนจะไม่ได้บันทึก แต่ก็เชื่อว่าถึงมีแต่ก็คงไม่มากแน่นอน)
นี่แหล่ะคือความมหัศจรรย์ของ เอล กับปิตัน ที่(บาร์ซ่า)ไม่อยากมองข้าม ... ซวยละ !! wan-e025.jpg
...
..
.

อา เซน่อลยุคใหม่ของ อาแซน เวนเกอร์ ที่มี ฟาเบรกาส เป็นผู้นำในการทำเกมรุกบนภาคพื้นสนาม รวมทั้งเป็นผู้นำทางด้านจิตใจให้แก่เพื่อนร่วมทีม
แน่นอนว่า ตัวเขาเองอาจจะไม่ได้แข็งแกร่งเหมือนอดีตกัปตันกระดูกเหล็ก โทนี่ อดัม
ไม่ได้ดุดัน, ฮึกเหิม หรือเหี้ยมโหดอำมหิต (55+) ดังเช่นกัปตันเลือดเดือดฝรั่งเศส แพทริค วิเอร่า
และยังไม่ได้เป็นนักเตะที่ผู้คนให้การยอมรับจนต้องกล่าวขานจนเป็นตำนานสโมสรอย่าง เธียรี่ อองรี
และก็ไม่ได้ ถึก-บึก-บึน ดุจภูผาแกร่ง แต่(แอบ)ซ่อนความอ่อนไหวเอาไว้ข้างในอย่าง (วีนัส) วิลเลี่ยม กัลลาส

แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่า เอล กับปิตัน จะต้องเลียนแบบใครเพื่อจะประสบความสำเร็จเหมือนดังเช่นอดีตกัปตันที่ผ่านมา...
ยังไงเสีย ฟาเบรกาส ก็คือ ฟาเบรกาส อยู่วันยังค่ำ... การได้เป็นตัวของตัวเองนั่นแหล่ะคือสิ่งที่สำคัญที่สุด
วันนี้ แม้เส้นทางของความสำเร็จจะยังอยู่อีกยาวไกล แต่เราจะแคร์อะไรหากยังมี เอล กับปิตัน คนนี้คอยยืนบัญชาเกมเคียงข้างนักเตะที่ยอดเยี่ยมอีกมากมาย

อาร์เซน่อลร้างราจากความสำเร็จมาหลายปี... ตอนนี้ถึงเวลาแล้วที่กัปตันคนใหม่ของเราจะเริ่มต้นภารกิจเพื่อทวงคืนความยิ่งใหญ่เหล
่านั้นคืนมาให้ได้

ดังเช่นที่ผมได้จั่วหัวเอาไว้ว่า The El Capitan strikes back
หรือ การตีโต้เพื่อทวงคืนบังลังค์ของ เอล กับปิตัน นาม ฟรานเซสก์ ฟาเบรกาส

และกาลเวลาจะพิสูจน์ว่า ภาคต่อของความสำเร็จนี้จะเกิดขึ้นได้จริงหรือไม่ ???
เหมือนดังเช่นที่เคยเกิดขึ้นแล้วกับ ภาคต่อของ Star Wars ในตอนที่ชื่อว่า ... The Empire strikes back
... เกี่ยวกันมั้ยน่ะ 555+ wan-e002.gif

โชคดี และ ราตรีสวัสดิ์ครับพี่น้อง

เครดิต  : คุณ เก่งกันเนอร์ส จาก gunnerthailand . com

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์