~ ครบรอบ 60 ปี Happy Birth Day อาร์แซน เวนเกอร์ ~

ประวัติส่วนตัว



ชื่อเต็ม อาร์แซน เวนเกอร์
วันเกิด 22 ตุลาคม ค.ศ. 1949 (อายุ 60 ปี)
สถานที่เกิด สตารส์บูร์ก, ฝรั่งเศส
ส่วนสูง 6 ฟุต 4 นิ้ว (1.93 ม.)
ตำแหน่ง สวีปเปอร์
ข้อมูลสโมสร
สโมสรปัจจุบัน อาร์เซนอล(ผู้จัดการทีม)

สโมสรเยาวชน
-1969 FC Duttlenheim
1969-1976 AS Mutzig


สโมสรอาชีพ*
ปี สโมสร ลงเล่น (ประตู)
1973-1975 มิวลูซ 39 (7)
1975-1978 ASPV Strasbourg 80 (20)
1978-1981 อาร์ซีสตราส์บูร์ก 11 (0)

บริหารทีม
1984-1987 น็องซี
1987-1994 โมนาโก
1995-1996 นะโงะยะ แกรมปัสเอท
1996-ปัจจุบัน อาร์เซนอล


อาร์แซน เวนเกอร์,โอบีอี (Arsene Wenger) เป็นผู้จัดการทีมฟุตบอลชาวฝรั่งเศส เกิดเมื่อวันที่ 22 ตุลาคม ค.ศ. 1949 ในเมืองสตราส์บูร์ก ปัจจุบันเป็นผู้จัดการทีมของอาร์เซนอล เขาเป็นผู้จัดการทีมที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในเรื่องของจำนวนถ้วยรางวัลและระยะเ
วลาการคุมทีมที่นานที่สุดของอาร์เซนอล เวนเกอร์เป็นผู้จัดการทีมที่ไม่ใช่พลเมืองของสหราชอาณาจักรคนแรกที่สามารถคว้าดับเบิ
้ลแชมป์ได้ในอังกฤษ นั่นคือดับเบิ้ลแชมป์ในปี ค.ศ. 1998 และ ค.ศ. 2002 สำหรับในปี ค.ศ. 2004 นั้น เขาเป็นผู้จัดการทีมคนแรกของประวัติศาสตร์ของเอฟเอ พรีเมียร์ลีกที่สามารถคุมทีมลงเล่นแล้วไม่แพ้ทีมใดในลีกเลยทั้งฤดูกาล จนกระทั่งอาร์เซนอลได้แชมป์ในปีนั้น ในด้านการศึกษานั้น เวนเกอร์นั้นจบปริญญาตรีสาขาวิศวกรรมศาสตร์ และปริญญาโททางด้านเศรษฐศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยแห่งเมืองสตราส์บูร์ก เวนเกอร์มีความสามารถในการพูดได้หลายภาษา โดยสามารถใช้ภาษาฝรั่งเศส, อัลซาเตียน, เยอรมัน และ อังกฤษได้อย่างคล่องแคล่ว และยังสามารถพูดภาษาอิตาลี, สเปน, ญี่ปุ่น ได้บ้างอีกด้วย

เนื้อหา [ซ่อน]
1 ช่วงชีวิตของการเป็นนักฟุตบอล
2 ช่วงชีวิตของการเป็นผู้จัดการทีม
3 สไตล์และปรัชญาการทำทีม
4 รางวัลและความสำเร็จ
5 เสียงวิพากษ์วิจารณ์
6 เกียรติยศ
6.1 นักเตะ
6.1.1 อาร์ซี สตราบูร์ก
6.2 ผู้จัดการทีม
6.2.1 โมนาโก
6.2.2 นาโงย่า แกรมปัส 8
6.2.3 อาร์เซนอล


ช่วงชีวิตของการเป็นนักฟุตบอล

การเล่นฟุตบอลอาชีพของเวนเกอร์นั้นไม่ค่อยจะประสบความสำเร็จเท่าไรนัก และแทบจะไม่มีใครเคยได้ยินชื่อของเขาเลย ต่างกับผู้จัดการทีมหลายคนที่เคยเป็นนักฟุตบอลระดับโลกมาก่อนที่จะผันตัวเองมาเป็นผู
้จัดการทีม เขาเริ่มต้นอาชีพค้าแข้งสมัครเล่นในตำแหน่งกองหลังของสโมสรสมัครเล่นหลายสโมสรด้วยกั
นเมื่อครั้งที่ยังศึกษาในระดับปริญญาโททางด้านเศรษฐศาสตร์ ในปี ค.ศ. 1971

เวนเกอร์กลายเป็นนักเตะอาชีพครั้งแรกในปี ค.ศ. 1977 ในทีมอาร์ซีสตราส์บูร์กนัดที่เจอกับโมนาโก เขาได้ลงเล่นให้กับต้นสังกัดเพียง 12 ครั้ง โดยในจำนวนนี้มีหนึ่งนัดที่ได้เล่นฟุตบอลรายการยูฟ่าคัพ ฤดูกาล 1978-79 ซึ่งเป็นการลิ้มลองรสชาติครั้งแรกและครั้งเดียวของเขาในรายการฟุตบอลยุโรป

ต่อมา ในปี 1981 นั้น เขาได้ได้รับใบอนุญาตการเป็นผู้จัดการทีม และได้รับมอบหมายให้ทำงานในส่วนของโค้ชทีมเยาวชนของสโมสร

ช่วงชีวิตของการเป็นผู้จัดการทีม

อาร์แซน เวนเกอร์โบกมือขอบคุณแฟนบอลในนัดสุดท้ายของฤดูกาล 2006/07 (1 พฤษภาคม 2007)อาร์แซน เวนเกอร์รับตำแหน่งผู้จัดการทีมชุดใหญ่ครั้งแรกกับน็องซีในปี 1984 แต่ไม่ค่อยจะประสบความสำเร็จเท่าไรนัก ในปีที่ 3 ซึ่งเป็นปีสุดท้ายของเขาที่น็องซีนั้น น็องซีปิดฤดูกาลด้วยอันดับ 19 ของตารางและต้องตกไปเล่นในลีกเดอซ์ฝรั่งเศส ชีวิตการเป็นผู้จัดการทีมของเขาเริ่มดีขึ้นเมื่อเขาได้มาเป็นผู้จัดการทีมของเอเอส โมนาโก ในปี 1987 และได้แชมป์ลีกในปี 1988 ซึ่งก็เป็นฤดูกาลแรกที่เข้ามาคุมทีมนั่นเอง จากนั้นก็คว้าแชมป์เฟรนช์คัพในปี 1991 เวนเกอร์เคยเซ็นสัญญาซื้อตัว เกล็น ฮอดเดิล, จอร์จ เวียห์ และ เจอร์เกน คลินซ์มันน์ มาร่วมทีมอีกด้วย นอกจากนั้นยังได้เซ็นสัญญากับ ยูริ จอร์เกฟฟ์ (Youri Djorkaeff) มาจากอาร์ซีสตราส์บูร์ก ที่ได้กลายมาเป็นนักเตะทีมชาติฝรั่งเศสชุดที่คว้าแชมป์ฟุตบอลโลกในปี 1998 และดาวซัลโวลีกเอิง ฝรั่งเศส (20 ประตู)ในปีสุดท้ายที่เวนเกอร์คุมทีมอยู่ในฝรั่งเศส

ในปี 1994 เป็นปีที่โชคร้ายของเวนเกอร์ เมื่อเขาปฏิเสธข้อเสนอจากบาเยิร์น มิวนิคและการเป็นโค้ชทีมชาติฝรั่งเศส แต่โมนาโกจบฤดูกาลด้วยการเป็นอันดับ 9 ของตาราง ซึ่งต่ำกว่าเป้าหมายที่สโมสรตั้งเอาไว้ หลังจากนั้น เขาก็ถูกไล่ออก

ต่อมา เขาได้ย้ายไปประสบความสำเร็จกับช่วงเวลาสั้นๆ 18 เดือนกับทีมฟุตบอลในเจลีกของญี่ปุ่น คือ สโมสรฟุตบอลนะโงะยะ แกรมปัสเอท โดยเวนเกอร์พาลูกทีมคว้าถ้วยพระราชทานสมเด็จพระจักรพรรดิ ซึ่งเป็นฟุตบอลชิงถ้วยของประเทศ นอกจากนั้นยังพาทีมที่เคยอยู่ในอันดับ 3 จากท้ายตารางขึ้นมาเป็นรองแชมป์ได้ในลีก ที่แกรมปัสนี้ เขาได้ว่าจ้างให้ โบโร พริโมรัค ผู้จัดการทีมของ สโมสรฟุตบอลวาล็องเซียนส์ มาเป็นผู้ช่วยของเขา และก็ได้เป็นมือขวาของเวนเกอร์เป็นเวลาหลายปี

เวนเกอร์นั้นถือว่าเป็นคนที่โชคดีที่ได้เป็นเพื่อนกับคนที่จะได้เป็นรองประธานสโมสรฟ
ุตบอลอาร์เซนอลในเวลาต่อมา นั่นคือ เดวิด ดีน ในคราวที่ทั้งสองได้พบกันเมื่อเวนเกอร์ไปชมเกมระหว่างอาร์เซนอล กับ [[สโมสรฟุตบอลควีนส์ปาร์กเรนเจิร์ส |ควีนส์ปาร์กเรนเจิร์ส]] ในปี 1988 ต่อมา หลังจากที่ บรูซ ริอ็อค ได้ลาออกไปในเดือนสิงหาคม ปี 1996 นั้น เชราร์ อุลลิเยร์ ที่ต่อมาได้เป็นผู้อำนวยการทางเทคนิคของสหพันธ์ฟุตบอลฝรั่งเศสได้แนะนำให้ดีนชวนเวนเ
กอร์มาทำงานแทนในปี 1996 อาร์เซนอลยืนยันการว่าจ้างอาร์แซน เวนเกอร์เป็นผู้จัดการทีมในวันที่ 28 กันยายน ปี 1996 และเขาก็ได้เข้ามารับตำแหน่งอย่างเป็นทางการในวันที่ 1 ตุลาคม ปีเดียวกันนั้นเอง เวนเกอร์เป็นผู้จัดการทีมของอาร์เซนอลคนแรกที่มาจากประเทศนอกสหราชอาณาจักรและไอร์แล
นด์ แม้ว่าผู้อำนวยการทางเทคนิคที่มีศักยภาพของสมาคมฟุตบอลจะเป็นคนชักชวนให้เวนเกอร์มาร
ับตำแหน่งนี้ แต่ในเวลานั้น แทบไม่มีใครในอังกฤษเลยที่รู้จักชื่อของคนๆนี้

ก่อนที่เวนเกอร์จะเข้ามาคุมทีมอย่างเป็นทางการนั้น เขาต้องวางแผนที่จะเสริมความแข็งแกร่งและเฉียบขาดของทีมก่อน เวนเกอร์ได้ร้องขอให้สโมสรเซ็นสัญญาปาทริก วิเอร่า มิดฟิลด์ชาวฝรั่งเศส และเรมี่ การ์ดในช่วง 1 เดือนก่อนที่จะเข้ามารับตำแหน่ง เกมแรกที่เขาคุมทีมลงเล่นคือเกมที่เอาชนะแบล็คเบิร์นโรเวอร์สไปได้ 2-0 เมื่อวันที่ 12 ตุลาคม ปี 1996

ฤดูกาลที่ 2 ที่เขาเข้ามาคุมทีมนั้น (ฤดูกาล 1997-98) เป็นฤดูกาลที่อาร์เซนอลสามารถคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกและเอฟเอคัพซึ่งเป็นการคว้าดับเบ
ิ้ลแชมป์ได้เป็นครั้งที่ 2 ในประวัติศาสตร์ของสโมสร (ฤดูกาลนั้นอาร์เซนอลทิ้งห่างแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดถึง 12 คะแนนทั้งๆที่แข่งน้อยกว่า 2 นัด) ความสำเร็จครั้งนี้ต้องให้เครดิตกับปราการหลังฉายา แบ็คโฟร์ ที่เป็นมรดกตกทอดมาถึงฤดูกาลนี้ทั้งโทนี่ อดัมส์, ไนเจล วินเทอร์เบิร์น, ลี ดิกซัน และ มาร์ติน คีโอว์น รวมไปถึงสตีฟ บูลด์ ปราการหลังอีกคน และศูนย์หน้าเดนนิส เบิร์กแคมป์ ตำนานของสโมสรในเวลาต่อมาอีกด้วย และก็ต้องยกเครดิตให้กับนักเตะหน้าใหม่ที่เวนเกอร์ซื้อเข้ามา ไม่ว่าจะเป็น เอ็มมานูเอล เปอตีต์, ปาทริก วิเอร่า, มาร์ค โอเวอร์มาร์ส และศูนย์หน้าดาวยิง นิโคลาส์ อเนลกา

ในช่วงหลายๆฤดูกาลต่อมา เวนเกอร์ทำหน้าที่กับอาร์เซนอลได้ดีแต่กลับไม่ได้แชมป์ตอนท้ายฤดูกาลเลย ในปี 1999 พวกเขาเสียแชมป์พรีเมียร์ลีกให้กับแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดโดยวันสุดท้ายของฤดูกาลพวกเขา
ตามอยู่เพียง 1 คะแนนเท่านั้น แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดยังเป็นทีมที่ทำให้อาร์เซนอลต้องตกรอบเอฟเอคัพในช่วงต่อเวลาพิเศ
ษอีกด้วย จากนั้นอาร์เซนอลก็มาแพ้กาลาตาซารายในการดวลจุดโทษนัดชิงชนะเลิศฟุตบอลยูฟ่าคัพ ในรอบชิงชนะเลิศฟุตบอลเอฟเอคัพ ปี 2001 อาร์เซนอลก็ต้องมาแพ้ให้กับลิเวอร์พูล 2 ประตูต่อ 1 จากประตูของไมเคิล โอเวนในช่วงท้ายเกม ในช่วงนี้ เวนเกอร์ยังได้นำนักเตะหน้าใหม่เข้ามาสู่ทีมเรื่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นการเซ็นสัญญาโซล แคมป์เบลล์จากท็อทแน่ม ฮอตสเปอร์ส และนักเตะชื่อก้องโลกอย่างเฟร็ดดริก ลุงเบิร์ก, เธียร์รี อองรี และโรแบร์ ปิแรส

ขุนพลนักเตะชุดใหม่นี้ช่วยให้อาร์เซนอลในยุคของอาร์แซน เวนเกอร์นั้นสามารถคว้าดับเบิ้ลแชมป์ได้อีกครั้งหนึ่ง ช่วงเวลาที่ทำให้อาร์เซนอลได้แชมป์คือนัดรองสุดท้ายของฤดูกาลที่พบกับแมนเชสเตอร์ยูไ
นเต็ด อาร์เซนอลเอาชนะแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดไปได้ 1-0 ซึ่งโดยรวมๆแล้วอาร์เซนอลเล่นได้ดีกว่า รอย คีน อดีตกัปตันทีมของแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดในชุดนั้นยังได้กล่าวถึงเกมนัดนั้นว่าเป็นการแข
่งขันกันระหว่างเด็กกับผู้ใหญ่ นั่นก็คือฤดูกาล 2001/02 นั่นเอง

อาร์แซน เวนเกอร์ยังเคยพาอาร์เซนอลเป็นแชมป์ฟุตบอลเอฟเอคัพในปี 2003 และพาทีมอาร์เซนอลรักษาสถิติไม่แพ้ใครทั้งฤดูกาลได้และสถิติยิงประตูทุกนัดที่ลงทำกา
รแข่งขันในพรีเมียร์ชิพจนทำให้คว้าแชมป์อย่างยิ่งใหญ่ในฤดูกาล 2003/04 อีกด้วย

หลังจากนั้น อาร์แซน เวนเกอร์ก็นำถ้วยเอฟเอคัพมาสู่สโมสรอาร์เซนอลได้อีกครั้งในปี 2005 ทำให้อาร์เซนอลได้แชมป์พรีเมียร์ลีก 3 สมัยและเอฟเอคัพ 4 สมัยภายใต้การคุมทีมของเวนเกอร์ นับว่าเขาเป็นผู้จัดการทีมที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในประวัติศาสตร์อาร์เซนอลเมื่
อนับตามถ้วยรางวัลที่ได้มา อย่างไรก็ตาม เวนเกอร์ก็ยังไม่เคยได้แชมป์ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก รายการที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของยุโรปมาครองได้ โดยเขาพาทีมเข้าไปใกล้คำว่าแชมป์มากที่สุดในฤดูกาล 2005/06 ที่อาร์เซนอลเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของสโมสร แต่กลับแพ้ให้กับบาร์เซโลนา 2-1 อย่างน่าเสียดาย

ในเดือนตุลาคม ปี 2004 เขาได้เซ็นสัญญาว่าจะอยู่กับสโมสรไปจนจบฤดูกาล 2007/08 โดยเดวิด ดีน รองประธานสโมสรอาร์เซนอลวางแผนว่าจะยื่นข้อเสนอให้อาร์แซน เวนเกอร์เข้ามาเป็นบอร์ดบริหารสโมสรเมื่อครั้งที่เขาวางมือจากตำแหน่งผู้จัดการทีมไป
แล้ว

อนาคตอาชีพผู้จัดการทีมของเวนเกอร์เริ่มไม่แน่นอนเมื่อครั้งที่เดวิด ดีนได้ลาออกจากบอร์ดบริหารของอาร์เซนอลเมื่อวันที่ 18 เมษายน ปี 2007 ซึ่งเดวิด ดีนคือหนึ่งในบอร์ดบริหารที่เวนเกอร์ใกล้ชิดมากที่สุดจนเกิดกระแสว่าเวนเกอร์อาจจะไป
คุมทีมที่สโมสรอื่นหรืออาจจะวางมือจากวงการฟุตบอล อย่างไรก็ตาม วันที่ 6 กันยายน 2007 อาร์แซน เวนเกอร์ได้ตกลงเซ็นสัญญา 3 ปีฉบับใหม่กับอาร์เซนอล สัญญานี้มีมูลค่าถึง 4 ล้านปอนด์และทำให้แฟนบอลอาร์เซนอลที่เคยคิดว่าเขาจะออกจากสโมสรตอนท้ายฤดูกาลเมื่อสั
ญญาหมดลงได้มั่นใจขึ้นอย่างมากว่า เขาจะยังอยู่กับอาร์เซนอลต่อไปอีก

ในเดือนตุลาคม ปี 2009 อาร์แซน เวนเกอร์ ทำสถิติเป็นผู้จัดการทีมอาร์เซนอลที่คุมทีมอย่างยาวนานที่สุด โดยทำลายสถิติเดิมของ จอร์จ อัลลิสัน ซึ่งเคยเป็นผู้จัดการทีมตั้งแต่เดือน มิถุนายน 1934 ถึงเดือน พฤษภาคม 1947 นับเป็นเวลาทั้งสิ้น 4,748 วัน

สไตล์และปรัชญาการทำทีม

เวนเกอร์ได้ชื่อว่าเป็นโค้ชที่ใช้เวลาไปกับการสร้างทีมที่สามารถผสมผสานระหว่างการไล
่ล่าแชมป์กับความต้องการที่จะสร้างความเพลิดเพลินให้กับผู้ชมด้วยเกมรุกเข้าด้วยกันได
้อย่างลงตัว เดอะไทมส์ได้กล่าวไว้ว่าในฤดูกาล 2003-04 ที่เขาประสบความสำเร็จนั้น เวนเกอร์สร้างความสำเร็จมาจากการเน้นเกมรุกที่เร้าใจ สไตล์การเล่นของลูกทีมเขานั้นมักจะถูกมองว่าแตกต่างไปจากทีมคู่แข่ง แต่ในทางตรงข้าม ก็มักโดนวิพากษ์วิจารณ์ว่าขาดสัญชาตญาณความเป็นนักฆ่า แม้ว่าเวนเกอร์จะนิยมใช้แผนการเล่นแบบ 4-4-2 แต่ต่อมา นับตั้งแต่ปี 2005 เขาก็เริ่มใช้แผนการเล่นแบบ 4-5-1 มากขึ้นเรื่อยๆ โดยทิ้งกองหน้าไว้คนเดยวและเน้นในแดนกลางสนามมากกว่า ซึ่งจะเห็นบ่อยในยามที่ต้องเล่นในสนามที่กว้างขึ้นอย่างเอมิเรตส์สเตเดียมหรือในเกมย
ูฟ่าแชมเปียนส์ลีกที่สำคัญๆ

อาร์แซน เวนเกอร์ มีชื่อเสียงอย่างมากในการปั้นเด็กที่มีพรสวรรค์ที่ยังไม่ค่อยมีคนรู้จักให้สามารถแจ้
งเกิดในวงการฟุตบอลได้อย่างยิ่งใหญ่ เมื่อคราวที่คุมทีมอยู่โมนาโกนั้น เขาซื้อตัว จอร์จ เวียห์ (George Weah) ชาวไลบีเรียมาจากทีม Tonnerre Yaoundé ในประเทศแคเมอรูน เข้ามาร่วมทีม ต่อมานักเตะรายนี้ก็ได้ครองตำแหน่งผู้เล่นยอดเยี่ยมแห่งปีของฟีฟ่าเมื่อมาอยู่กับเอซ
ีมิลานอีกด้วย และเมื่อคราวที่คุมทีมอาร์เซนอล เวนเกอร์ก็ได้นำนักเตะดาวรุ่งเข้ามามากมาย ซึ่งในขณะที่เขาเซ็นสัญญากับนักเตะเหล่านี้ แทบจะไม่มีใครได้ยินชื่อของพวกเขามาก่อนเลย ไม่ว่าจะเป็น ปาทริก วิเอรา, เชสก์ ฟาเบรกัส, โรบิน ฟาน เพอร์ซี และโคโล ตูเร เขาได้ปั้นนักเตะเหล่านี้ขึ้นมา ช่วยเหลือให้พวกเขาสามารถเติบโตขึ้นเป็นนักเตะระดับโลกได้ในที่สุด สถิติที่น่าสนใจอย่างหนึ่งคือ กองหลังของอาร์เซนอลชุดหนึ่งเคยสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ด้วยการทำสถิติไม่เสียประ
ตูในเกมยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกติดต่อกันถึง 10 นัดในฤดูกาล 2005-06 จนสามารถเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศไปพบกับบาร์เซโลนาได้ ทั้งๆที่กองหลังชุดนี้มีค่าตัวรวมกันไม่ถึง 5 ล้านปอนด์ด้วยซ้ำไป

แม้ว่า เวนเกอร์จะใช้จ่ายเงินจำนวนมหาศาลไปในการเซ็นสัญญานักเตะเข้ามาร่วมทีมอาร์เซนอล แต่สถิติการใช้จ่ายเงินของเขานั้นถือว่าน้อยมากเมื่อเทียบกับทีมชั้นนำของพรีเมียร์ช
ิพทีมอื่นๆ เช่น ในปี 2007 นั้น เขาเป็นผู้จัดการทีมพรีเมียร์ลีกคนเดียวที่สามารถทำกำไรได้จากการซื้อขายนักเตะ และจากปีเตอร์ ฮิล-วู้ด ประธานสโมสรของอาร์เซนอลก็เคยกล่าวว่า โดยปกติแล้ว ตั้งแต่อาร์แซนมาอยู่กับเรา เขาจะใช้เงินเพียงปีละ 4-5 ล้านปอนด์เท่านั้นเอง และมีอีกหนึ่งตัวอย่างที่บ่งบอกถึงความสามารถในการหานักเตะของเขาที่ดีก็คือ การนำนิโคลาส์ อเนลกาเข้ามาร่วมทีมจากปารีส แซงต์แชร์แม็งด้วยค่าตัวเพียง 500,000 ปอนด์เท่านั้น แต่ในอีก 2 ปีต่อมาสามารถขายให้กับเรอัลมาดริดได้ถึง 22.3 ล้านปอนด์ เงินก้อนนี้จึงสามารถนำไปซื้อนักเตะคนใหม่ 3 คนเข้ามาเสริมทีมได้ ซึ่งก็ได้แก่ เธียร์รี อองรี, โรแบร์ ปิแรส และซิลแว็ง วิลตอร์ ซึ่งเป็นสามนักเตะที่อยู่ในชุดที่คว้าดับเบิลแชมป์ในฤดูกาล 2001-02 และแชมป์ลีกในฤดูกาล 2003-04

นอกจากเรื่องการปั้นนักเตะโนเนมให้เป็นนักเตะระดับโลกแล้ว เวนเกอร์ยังมีความสามารถในการช่วยให้นักเตะที่มากประสบการณ์แต่กำลังอยู่ในช่วงขาลงส
ามารถกลับมายิ่งใหญ่ในวงการฟุตบอลได้อีกครั้งหนึ่งที่อาร์เซนอล ไม่ว่าจะเป็น เดนนิส เบิร์กแคมป์ นักเตะที่เซ็นสัญญามาเล่นในลอนดอนเหนือก่อนหน้าที่เวนเกอร์จะเข้ามาคุม 1 ปีก็สามารถก้าวขึ้นสู่จุดสูงสุดของชีวิตได้เมื่อเวนเกอร์เข้ามาบริหารทีม นอกจากนั้น เวนเกอร์ก็ยังเคยนำอดีตเด็กปั้นของเขาที่โมนาโกอย่างเธียร์รี อองรีมาโลดแล่นในวงการฟุตบอลที่อาร์เซนอลจนสามารถเป็นนักเตะระดับโลกได้ในที่สุด โดยสร้างสถิติดาวซัลโวสูงสุดของสโมสรและยังเคยเป็นกัปตันทีมของอาร์เซนอลอีกด้วย

นอกจากนั้น เวนเกอร์ยังเป็นคนที่เข้ามาปฏิวัติเรื่องการฝึกซ้อมและเรื่องการควบคุมอาหารของทีมอี
กด้วย เขาสั่งห้ามนักเตะดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในสนามซ้อมรวมไปถึงห้ามรับประทานอาหารขยะ
ที่ไม่ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อร่างกายอีกด้วย เวนเกอร์เคยสั่งพักอดีตกัปตันทีมโทนี อดัมส์หลังจากพบว่าเขาเป็นโรคติดแอลกอฮอล์ในปี 1996 การสนับสนุนจากเวนเกอร์เป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้อดัมส์ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมได้ สามารถคืนฟอร์มเก่งได้และได้เล่นฟุตบอลต่ออีกหลายปี การฝึกซ้อมของเวนเกอร์และการควบคุมอาหารนั้นอาจจะช่วยยืดเวลาการค้าแข้งของสมาชิกคนอ
ื่นๆของแบ็คโฟร์ กองหลังอันแข็งแกร่งของอาร์เซนอลได้อีกหลายปี ไม่ว่าจะเป็นไนเจล วินเทอร์เบิร์น, ลี ดิกซัน และมาร์ติน คีโอว์น (ตอนแรก เวนเกอร์วางแผนว่าจะหาคนมาแทนที่พวกเขา แต่ในตอนหลังเขาก็รู้ดีว่าเขาไม่จำเป็นต้องทำแบบนั้นเลย)

เวนเกอร์ยังมีส่วนในการออกแบบสนามเอมิเรตส์สเตเดียมของอาร์เซนอลอีกด้วย สนามแห่งนี้เปิดใช้ในปี 2006 ทำให้สนามซ้อมของอาร์เซนอลย้ายมาอยู่ที่ ลอนดอน โคลนีย์ ในที่สุด

รางวัลและความสำเร็จ

แฟนบอลอาร์เซนอลชูป้ายที่อ่านได้ว่า In Arsène We Trust ในเดือนพฤษภาคม 2009เวนเกอร์ได้รับการสนับสนุนจากแฟนบอลของอาร์เซนอลอย่างมาก แฟนคลับของสโมสรศรัทธาในความสามารถของผู้จัดการทีมคนนี้และศรัทธาในวิสัยทัศน์ของเขา
ในระยะยาว แฟนบอลของไอ้ปืนใหญ่มักจะพูดว่า Arsène Knows (อาร์แซนรู้) และ In Arsène We Trust (เราเชื่ออาร์แซน) ซึ่งเป็นคำพูดที่ยืนยันว่าเขาได้รับความนิยมในหมู่แฟนบอลอย่างมาก แฟนบอลกลุ่มนี้มากจะพูดซ้ำๆและกลายเป็นคำขวัญของฝูงชนที่เอมิเรตส์สเตเดียมไปแล้ว ในพิธีอำลาสนามไฮบิวรีเมื่อฤดูกาล 2005-06 นั้น แฟนบอลได้แสดงความประทับใจในตัวผู้จัดการทีมคนนี้มากด้วยการกำหนด วันเวนเกอร์ (Wenger Day) ซึ่งตรงกับวันเกิดครบรอบ 56 ปีของเขาคือวันที่ 22 ตุลาคม ค.ศ. 2005 ซึ่งเป็นวันที่มีการแข่งขันกับแมนเชสเตอร์ซิตีพอดี

เดวิด ดีน อดีตรองประธานสโมสรฟุตบอลอาร์เซนอล ได้กล่าวว่าเวนเกอร์คือผู้จัดการทีมที่สำคัญที่สุดในประวัติศาสตร์ของสโมสร อาร์แซนคือคนที่วิเศษมาก เขาทำให้นักเตะหลายต่อหลายคนกลายเป็นนักเตะระดับโลกได้ ตั้งแต่เขาย้ายมาอยู่ที่นี่ เราก็ได้เห็นฟุตบอลในแบบฉบับที่ไม่เคยเห็นที่ดาวดวงไหนมาก่อน เมื่อวันที่ 18 ตุลาคม ค.ศ. 2007 มีการมองเหรียญทองแดงเกียรติยศให้กับอาร์แซน เวนเกอร์ เช่นเดียวกับที่เคยให้เฮอร์เบิร์ต แชปแมน เพื่อเป็นการยกย่องคุณความดีของเวนเกอร์ โดยคณะกรรมการบริหารของสโสรฟุตบอลอาร์เซนอลได้มอบรางวัลนี้ให้กับเขาในงานประชุมสามั
ญประจำปีของสโมสร

เวนเกอร์ได้รับ the Légion d'Honneur เครื่องราชอิสริยาภรณ์ชั้นสูงสุดของฝรั่งเศสในปี 2002 เขาได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์ OBE เพื่อเป็นรางวัลสำหรับการเป็นผู้สร้างชื่อเสียงให้กับวงการฟุตบอลสหราชอาณาจักรในวัน
เฉลิมพระชนมพรรษาของสมเด็จพระราชินีปี 2003 ต่อมาในปี 2006 ชื่อของเวนเกอร์ได้ถูกจารึกไว้ในหอเกียรติยศแห่งวงการฟุตบอลอังกฤษเพื่อเป็นการบันทึ
กความสำเร็จในการเป็นผู้จัดการทีมในอังกฤษ นับว่าเป็นผู้จัดการทีมชาวต่างชาติคนที่สองที่ได้มีชื่อในหอเกียรติยศแห่งนี้ หลังจากที่ดาริโอ กราดิ ชาวอิตาลีเคยทำสำเร็จมาแล้วในการคุมทีมครูว์ อเล้กซานดรา ในปี 2007 ชื่อของอาร์แซน เวนเกอร์ได้มีนักดาราศาสตร์ชื่อ Ian P. Griffin นำไปตั้งเป็นชื่อดาวเคราะห์น้อยดวงหนึ่งที่มีชื่อว่า 33179 Arsènewenger เนื่องจากนักดาราศาสตร์ผู้นี้หลงไหลในทีมฟุตบอลของผู้จัดการทีมคนนี้มาก

เสียงวิพากษ์วิจารณ์

ทีมของอาร์แซน เวนเกอร์ มักจะโดนวิพากษ์วิจารณ์บอ่ยๆเรื่องการขาดระเบียบวินัย โดยนักเตะของเขานั้นโดนใบแดงไปถึง 73 ครั้งในช่วงปี 1996 ถึง 2008 แม้ว่าหลายคนจะคัดค้านในประเด็นนี้ อย่างไรก็ตาม ในปี 2004 - 2005 อาร์เซนอลคว้าตำแหน่งทีมที่เล่นยุติธรรม(Fair Play)ที่สุดในลีก และในปี 2006 นั้น พวกเขาก็ได้อันดับ 2 มาครอง ตามหลังเพียงแค่ชาร์ลตันแอธเลติกทีมเดียวเท่านั้น

ในปี 1999 เวนเกอร์เสนอให้มีการจัดการแข่งขันเกมเอฟเอคัพรอบที่ 4 กับเชฟฟิลด์ยูไนเต็ดใหม่ หลังจากจบการแข่งขันแมตช์นั้นไปแล้ว เนื่องจากมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์เรื่องความไม่เป็นธรรมในการแข่งขันครั้งนี้ อาร์เซนอลได้ประตูชัยจากมาร์ค โอเวอร์มาร์ส ซึ่งต่อเนื่องมาจากจังหวะที่เอ็นวานโก คานูไม่ยอมเตะบอลคืนให้ทีมเชฟฟิลด์ยูไนเต็ดที่มีนักเตะนอนเจ็บอยู่ในสนาม แต่นัดรีเพลย์นั้น อาร์เซนอลก็กลับมาเอาชนะได้อยู่ดีด้วยผลสกอร์ 2-1

นอกจากนั้น เวนเกอร์ยังเป็นที่รู้จักกันดีว่าเป็นคู่ปรับของเซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน บรมกุนซือของแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ส่วนทางด้านอาร์เซนอลและแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดก็เป็นคู่ปรับกันเรื่องการแย่งแชมป์พรีเ
มียร์ลีกและเอฟเอคัพมาตลอดช่วงปลายทศวรรษที่ 1990 และต้นทศวรรษที่ 2000 ความเป็นอริต่อกันนี้ยังทำให้เกิดเหตุการณ์'ปาพิซซา'ที่โอลด์แทรฟฟอร์ดเมื่อเดือนตุลาคม ปี 2004 ด้วย หลังจากที่อาร์เซนอลเสียจุดโทษจากจังหวะน่ากังขาและต้องพ่ายแพ้ไป 2-0 จนหยุดสถิติไร้พ่ายของอาร์เซนอลไว้ที่ 49 นัดติดต่อกันในพรีเมียร์ชิพ หลังจบเกมนี้ นักเตะคนหนึ่งของอาร์เซนอลได้ขว้างปาอาหารใส่ทีมคู่แข่งที่อุโมงค์ทางเดิน ส่วนอาร์แซน เวนเกอร์ โดนปรับเงินจำนวน 15,000 ปอนด์ จากข้อหาที่ไปเรียกรุด ฟาน นิสเตอรอยด์ว่า ไอ้ขี้โกง ในการให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์หลังจบเกม จากนั้นเขาก็โดนปรับเงินอีกครั้งสำหรับการเรียกฟาน นิสเตอรอยด์ว่า ไอ้ขี้โกง อีกครั้ง โดยอ้างว่าเขามั่นใจว่าเขาคิดถูกแล้ว จากนั้นมา ผู้จัดการทีมทั้งสองก็ตกลงกันว่าจะปรับความเข้าใจกันเพื่อลดความบาดหมางและความเป็นอ
ริต่อกันให้เหลือน้อยที่สุด

ในช่วงเดือนตุลาคมถึงพฤศจิกายน 2005 เวนเกอร์ก็ได้มีปากมีเสียงทำสงครามน้ำลายกับโชเซ่ มูรินโญ่ ผู้จัดการทีมของเชลซี โดยทางด้านมูริโนญ่กล่าวหาว่าเวนเกอร์นั้นโดนเชลซีครอบงำจิตใจและไม่มีความเป็นมืออา
ชีพเลย และยังกล่าวโจมตีถึงขั้นบอกว่าเวนเกอร์เป็นพวก'วิปริตทางเพศ' โดยพูดว่า เขาวิตกเรื่องพวกเรามาก เขาพูดถึงเราเสมอ - เป็นเชลซีแน่ๆ, เชลซี, เชลซี, เชลซี เวนเกอร์ก็ออกมาตอบโต้โดยการชี้แจงว่า เขาไม่เคยรู้สึกอย่างนั้น เขาเพียงแค่ออกมาตอบคำถามนักข่าวเรื่องเชลซีเท่านั้น และยังบอกว่าทัศนคติของมูรินโญ่เป็นพวกที่ไม่ให้เกียรติคนอื่นเลย จากนั้นมูรินโญ่ก็ออกมาขอโทษ โดยบอกว่าเขาเสียใจที่ไปต่อว่าเวนเกอร์ว่าเป็นพวก'วิปริตทางเพศ' และเวนเกอร์ก็น้อมรับคำขอโทษอย่างบริสุทธิ์ใจ

เวนเกอร์ยังโดนผู้จัดการทีมพรีเมียร์ลีกคนอื่นๆวิพากษ์วิจารณ์บ่อยๆว่าไม่ยอมให้โอกา
สนักเตะอังกฤษเลย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเกมแชมเปียนส์ลีก อลัน พาร์ดิว อดีตผู้จัดการทีมเวสต์แฮม ยูไนเต็ดได้บอกว่าความสำเร็จในแชมเปียนส์ลีกของอาร์เซนอลไม่ได้เป็นความสำเร็จของฟุต
บอลสหราชอาณาจักรเลย แต่ทางด้านเวนเกอร์มองว่า เรื่องสัญชาติกับฟุตบอลนั้นมันไม่เกี่ยวข้องกันเลย: เวลาคุณเล่นให้กับสโมสร มันก็ขึ้นอยู่กับคุณค่าและความสามารถ ไม่ใช่ว่าคุณถือพาสปอร์ตอะไร นอกจากนั้น ผู้มีชื่อเสียงคนอื่นๆ เป็นต้นว่าเทรเวอร์ บรูกกิง ผู้อำนวยการพัฒนากีฬาฟุตบอลแห่งสมาคมฟุตบอลอังกฤษก็ยังได้ปกป้องเวนเกอร์ด้วย โดยบรูคคิงบอกว่านักเตะตัวหลักของทีมชาติอังกฤษต่างก็เริ่มต้นอาชีพนักฟุตบอลภายใต้ก
ารทำทีมของอาร์แซน เวนเกอร์ทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็น เดวิด เบนท์ลีย์, สตีฟ ซิดเวลล์, เจอร์เมน เพนแนนท์ และแอชลี่ย์ โคล โดยล่าสุดนั้น เมื่อเดือนพฤษจิกายน 2007 เวนเกอร์ก็โดนเซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน คู่ปรับเก่าตำหนิว่าให้โอกาสนักเตะอังกฤษน้อยเกินไป

บ่อยครั้งที่อาร์แซน เวนเกอร์ ไม่เห็นด้วยกับคำตัดสินของผู้ตัดสิน โดยมักจะออกมาตำหนิการตัดสินที่ไม่ค่อยเป็นธรรมกับทีมของเขาหลังจากจบเกมอยู่เสมอ เช่น หลังจากเกมคาร์ลิงคัพนัดชิงชนะเลิศปี 2007 นั้น เขาเรียกผู้กำกับเส้นว่าเจ้าคนหลอกลวง นำมาซึ่งกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก ทำให้เขาโดนสมาคมฟุตบอลอังกฤษสอบสวน และโดนปรับเป็นจำนวนเงิน 2,500 ปอนด์เพื่อเป็นการเตือนว่าจะไม่เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีกในอนาคต

เกียรติยศ

ในฐานะนักเตะ
อาร์ซี สตราบูร์ก
ชนะเลิศ
ลีกเอิง (1): 1979

ในฐานะผู้จัดการทีม
โมนาโก
ชนะเลิศ
- โคปเดอฟรองซ์ (1): 1991
- ลีกเอิง (1): 1988
- ผู้จัดการทีมฝรั่งเศสยอดเยี่ยมแห่งปี (1): 1988
รองแชมป์
- โคปเดอฟรองซ์ (2): 1989, 1992
- ลีกเอิง (2): 1991, 1992
- ยูฟ่าคัพวินเนอร์สคัพ (1): 1992
นาโงย่า แกรมปัส 8
ชนะเลิศ
- ซุปเปอร์คัพเจลีก (1): 1996
- ถ้วยพระราชทานสมเด็จพระจักรพรรดิ (1): 1996
- ผู้จัดการทีมยอดเยี่ยมแห่งปีของเจลีก (1): 1995
อาร์เซนอล
ชนะเลิศ
- พรีเมียร์ลีก (3): 1998, 2002, 2004
- เอฟเอคัพ (4): 1998, 2002, 2003, 2005
- คอมมิวนิตีชิลด์ (4): 1998, 1999, 2002, 2004
- ผู้จัดการทีมยอดเยี่ยมแห่งปี สมาคมฟุตบอลอังกฤษ (3): 1998, 2002, 2004
รองแชมป์
- พรีเมียร์ลีก (5): 1999, 2000, 2001, 2003, 2005
- เอฟเอคัพ (1): 2001
- ลีกคัพ (1): 2007
- คอมมิวนิตีชิลด์ (2): 2003, 2005
- ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก (1): 2006
- ยูฟ่าคัพ (1): 2000
รางวัลส่วนบุคคล
- โค้ชยอดเยี่ยมแห่งปี Onze d'Or : (4) 2000, 2002, 2003, 2004
- ผู้จัดการทีมยอดเยี่ยมแห่งปี สมาคมฟุตบอลอังกฤษ : (3) 1998, 2002, 2004
- ผู้จัดการทีมยอดเยี่ยมประจำเดือน สมาคมฟุตบอลอังกฤษ : 10 ครั้ง
- ผู้จัดการทีมยอดเยี่ยมแห่งปี LMA : (2) 2001-02, 2003-04
- โค้ชกีฬายอดเยี่ยม สำนักข่าวบีบีซี : (2) 2002, 2004


แถมคลิปคับ อันนี้มีเพลงที่แต่งให้เวนเกอร์ ด้วยไม่รู้ใครร้อง





อันนี้ดูแล้วซึ้งคับ เวนเกอร์เป็นทุกอย่างของอาร์เซน่อลจริงๆ




มาดูทักษะของเวนเกอร์กันหน่อย


ประวัติส่วนตัว



ชื่อเต็ม อาร์แซน เวนเกอร์
วันเกิด 22 ตุลาคม ค.ศ. 1949 (อายุ 60 ปี)
สถานที่เกิด สตารส์บูร์ก, ฝรั่งเศส
ส่วนสูง 6 ฟุต 4 นิ้ว (1.93 ม.)
ตำแหน่ง สวีปเปอร์
ข้อมูลสโมสร
สโมสรปัจจุบัน อาร์เซนอล(ผู้จัดการทีม)

สโมสรเยาวชน
-1969 FC Duttlenheim
1969-1976 AS Mutzig


สโมสรอาชีพ*
ปี สโมสร ลงเล่น (ประตู)
1973-1975 มิวลูซ 39 (7)
1975-1978 ASPV Strasbourg 80 (20)
1978-1981 อาร์ซีสตราส์บูร์ก 11 (0)

บริหารทีม
1984-1987 น็องซี
1987-1994 โมนาโก
1995-1996 นะโงะยะ แกรมปัสเอท
1996-ปัจจุบัน อาร์เซนอล


อาร์แซน เวนเกอร์,โอบีอี (Arsene Wenger) เป็นผู้จัดการทีมฟุตบอลชาวฝรั่งเศส เกิดเมื่อวันที่ 22 ตุลาคม ค.ศ. 1949 ในเมืองสตราส์บูร์ก ปัจจุบันเป็นผู้จัดการทีมของอาร์เซนอล เขาเป็นผู้จัดการทีมที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในเรื่องของจำนวนถ้วยรางวัลและระยะเ
วลาการคุมทีมที่นานที่สุดของอาร์เซนอล เวนเกอร์เป็นผู้จัดการทีมที่ไม่ใช่พลเมืองของสหราชอาณาจักรคนแรกที่สามารถคว้าดับเบิ
้ลแชมป์ได้ในอังกฤษ นั่นคือดับเบิ้ลแชมป์ในปี ค.ศ. 1998 และ ค.ศ. 2002 สำหรับในปี ค.ศ. 2004 นั้น เขาเป็นผู้จัดการทีมคนแรกของประวัติศาสตร์ของเอฟเอ พรีเมียร์ลีกที่สามารถคุมทีมลงเล่นแล้วไม่แพ้ทีมใดในลีกเลยทั้งฤดูกาล จนกระทั่งอาร์เซนอลได้แชมป์ในปีนั้น ในด้านการศึกษานั้น เวนเกอร์นั้นจบปริญญาตรีสาขาวิศวกรรมศาสตร์ และปริญญาโททางด้านเศรษฐศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยแห่งเมืองสตราส์บูร์ก เวนเกอร์มีความสามารถในการพูดได้หลายภาษา โดยสามารถใช้ภาษาฝรั่งเศส, อัลซาเตียน, เยอรมัน และ อังกฤษได้อย่างคล่องแคล่ว และยังสามารถพูดภาษาอิตาลี, สเปน, ญี่ปุ่น ได้บ้างอีกด้วย

เนื้อหา [ซ่อน]
1 ช่วงชีวิตของการเป็นนักฟุตบอล
2 ช่วงชีวิตของการเป็นผู้จัดการทีม
3 สไตล์และปรัชญาการทำทีม
4 รางวัลและความสำเร็จ
5 เสียงวิพากษ์วิจารณ์
6 เกียรติยศ
6.1 นักเตะ
6.1.1 อาร์ซี สตราบูร์ก
6.2 ผู้จัดการทีม
6.2.1 โมนาโก
6.2.2 นาโงย่า แกรมปัส 8
6.2.3 อาร์เซนอล


ช่วงชีวิตของการเป็นนักฟุตบอล

การเล่นฟุตบอลอาชีพของเวนเกอร์นั้นไม่ค่อยจะประสบความสำเร็จเท่าไรนัก และแทบจะไม่มีใครเคยได้ยินชื่อของเขาเลย ต่างกับผู้จัดการทีมหลายคนที่เคยเป็นนักฟุตบอลระดับโลกมาก่อนที่จะผันตัวเองมาเป็นผู
้จัดการทีม เขาเริ่มต้นอาชีพค้าแข้งสมัครเล่นในตำแหน่งกองหลังของสโมสรสมัครเล่นหลายสโมสรด้วยกั
นเมื่อครั้งที่ยังศึกษาในระดับปริญญาโททางด้านเศรษฐศาสตร์ ในปี ค.ศ. 1971

เวนเกอร์กลายเป็นนักเตะอาชีพครั้งแรกในปี ค.ศ. 1977 ในทีมอาร์ซีสตราส์บูร์กนัดที่เจอกับโมนาโก เขาได้ลงเล่นให้กับต้นสังกัดเพียง 12 ครั้ง โดยในจำนวนนี้มีหนึ่งนัดที่ได้เล่นฟุตบอลรายการยูฟ่าคัพ ฤดูกาล 1978-79 ซึ่งเป็นการลิ้มลองรสชาติครั้งแรกและครั้งเดียวของเขาในรายการฟุตบอลยุโรป

ต่อมา ในปี 1981 นั้น เขาได้ได้รับใบอนุญาตการเป็นผู้จัดการทีม และได้รับมอบหมายให้ทำงานในส่วนของโค้ชทีมเยาวชนของสโมสร

ช่วงชีวิตของการเป็นผู้จัดการทีม

อาร์แซน เวนเกอร์โบกมือขอบคุณแฟนบอลในนัดสุดท้ายของฤดูกาล 2006/07 (1 พฤษภาคม 2007)อาร์แซน เวนเกอร์รับตำแหน่

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์