Tactics Corner: สนามเด็กเล่นของ อาแซน เวนเกอร์

[บทความ] Tactic's Corner: สนามเด็กเล่นของ อาแซน เวนเกอร์, สนามเด็กเล่น >> เมื่อน้าศรีมา... บี้จะไป ?? >> &Total

สนามเด็กเล่นของ อาแซน เวนเกอร์
Cradit : โดย... เก่งกันเนอร์(GTL)
 

นาสรี่ กำลังแปลงร่างเป็น เซเล่อร์มูน 


ข้อความจาก Twitter ของ Samir Nasri >>>>>>
>>>>>>>> “I should quit my band !!!!! [The Hospital Band]”
แปลว่า >>>>>>> “ผมควรจะยุบวงโรงพยาบาล(บ้าๆ)นั่นเสียที !!!”

“โอ้ววว ม่ายย แป้งอยากตาย !!!!” ... เสียงครวญจากนักเตะเบอร์ 7 ดังขึ้นเบาๆ แต่มันก็เงียบลงอย่างรวดเร็ว
เพราะเขาก็จำเป็นต้องลืมวงๆนี้ให้ไวเช่นกันเพื่อแลกกับสัญญาฉบับใหม่จากอาร์เซน่อล T_T wan-e025.jpg

wan-e031.jpg สวัสดีครับเพื่อนพ้องน้องพี่ชาวกันเนอร์สทุกท่าน กระผมนั้นหายไปนานนนนนเพราะคิดภาระกิจมากมาย หวังว่าคงจะไม่ลืมนะครับ
ขึ้นต้นมาก็เริ่มจากข้อความจาก Twitter ที่ฮิตกันนักฮิตกันหนา รออ่านกันจนแทบจะไม่ต้องทำมาหากินกันเลยทีเดียว
เอ้าเถอะ คนไทยขี้เห่อก็งี้แหล่ะครับ อิอิ

มาถึงตอนนี้ พวกเราคงจะได้รับข่าวดีของ ลูคัส เลว..ว่ะ เอ๊ย ลูคัส ฟาเบียงสกี้ และ ซาเมียร์ นาสรี่ ที่ทั้งคู่ได้กลับมาซ้อมแล้ว
คราวนี้แหล่ะ เก้าอี้ของพี่บี้ เดอะสตาร์ จำต้องสั่นคลอนบ้างล่ะ และเราก็จะได้มาดูกันสักทีว่า ในระบบ 4-3-3 นั้น เวนเกอร์จะเอานาสรี่ไปแหม่ะไว้ตรงไหน ??
เพื่อนๆคิดว่าไง คิดออกแล้วก็ช่วยเขียนลงใน Twitter บอกผมด้วยนะ ^__^

ส่วนบทความต่อไปนี้ จะเป็นส่วนที่ผมคิดเองเออเอง เกี่ยวกับตำแหน่งของนาสรี่ , 4-3-3 ของเวนเกอร์
และเรื่องราวอื่นๆที่ผมนำมาจับแพะชนแกะเอาเอง ยังไงก็ลองช่วยทนอ่านกันดูนะครับ ^^



มาเริ่มกันที่หลักการโดยทั่วๆไปของ 4-3-3 สไตล์เวนเกอร์ ซึ่งผมขอเรียกว่า สูตร 5 ต่อ 5 (ไม่นับรวมผู้รักษาประตู) กล่าวคือ
ใช้ More Offensive Player หรือมีผู้เล่นที่เล่นเกมรุกมากกว่าเกมรับ 5 ตัว
และใช้ More Defensive Player หรือผู้เล่นที่เล่นเกมรับมากกว่าเกมรุก 5 ตัว

ผมขอใช้ศัพท์คำว่า สนามเด็กเล่นของเวนเกอร์ เพื่ออธิบายการเล่นของอาเซน่อลในซีซั่นนี้...
ซึ่งวิธีการเล่นนั้นล้วนถูกแก้ไขมาจากความไม่ลงตัวของระบบการเล่นในปีที่แล้วนั่นเอง

***(ใครว่าเวนเกอร์ดื้อ ผมไม่เถียงนะว่าแกก็ดื้อบางเรื่องอย่างที่เรารู้ๆกันอยู่ แต่หากเป็นในส่วนแท็คติค หรือ วิธีการเล่นนี่ แกค่อนข้างสร้างสรรค์มากนะ
ไม่ยึดติดกับระบบอะไรเก่าๆเลย เล่นระบบเก่าไม่เวิร์คก็แก้ไขใหม่ อันนี้ผมให้เครดิตแกจริงๆ เยี่ยมๆ)


กลับมาที่ “สนามเด็กเล่นของเวนเกอร์ กันต่อ...
สูตรเบสิกคือ รุก 5 รับ 5 ... นักเตะที่เล่นเกมรุกก็จะมาช่วยเล่นเกมรับด้วย จะมากจะน้อยขึ้นอยู่กับอัตราส่วน “รุก-รับ” ที่กำหนดไว้นักเตะนำไปปฏิบัติ
คราวนี้ลองแทนนักเตะลงในตำแหน่ง รุก 5 >>> อาร์ชาวิน, ฟาน เพอซี่, เบนเนอร์, โรซิคกี้, ฟาเบรกาส
รับ 5 >>> ซานญ่า, คลิชี่, กัลลาส, เวอร์มาเล่น และ ซง
คราวนี้จะลองยกตัวอย่างแบบแยกย่อยในระบบ 4-3-3 ซึ่งจะมีมิดฟิวด์ตัวกลางด้วยกัน 3 ตัว หรือ รุก 2 ตัว รับ 1 ตัว ดังนี้..
ซง(รับ), ฟาเบรกาส(รุก) และ เดนิลสัน(รุก) โดยมีการแจกแจงหน้าที่ดังนี้

- ฟาเบรกาส เล่นเกมรุก 75% เกมรับ 25%
- เดนิลสัน เล่นเกมรุก 60% เกมรับ 40%
- ซง เล่นเกมรุก 25% เกมรับ 75%

หากไลน์อัพออกมาดังเช่นข้างบนนี้ ซงจะรับบทมิดฟิวด์ที่ยืนลึกที่สุด เน้นเกมรับเป็นหลัก เกมรุกก็จะเป็นพระรองลงไป
คราวนี้มาถึงมิดฟิวด์ที่จะเล่นคู่ฟาเบรกาสกันบ้าง ในเกมแรกๆ เวนเกอร์ใช้เดนิลสัน ต่อมาเดนิลสันเจ็บก็เปลี่ยนมาใช้ดิยาบี้แทน

คนที่เล่นคู่ฟาเบรกาสนี่แหล่ะคือหัวใจสำคัญในแดนรุกเลย ต้องขยันและสามารถเล่นเกมรับได้ด้วย ในขณะเดียวกันก็ต้องผ่านบอลได้แม่นยำ เปิดบอลแล้วได้เปรียบ ใช้สมอง คิดเร็วทำเร็ว ยิ่งสามารถสร้างสรรค์เกมได้ด้วยแล้ว ก็จะยิ่งสมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น...
บางเกม โรซิคกี้ได้รับโอกาสให้ทำหน้าที่ตรงนี้ แต่บางเกมก็ไม่ เขาถูกดันขึ้นไปเล่นหน้าบ้าง ริมเส้นบ้าง พี่บี้เดอะสตาร์จึงได้ออกมาโชว์ลีลาแทน ซึ่งเขาก็ทำหน้าที่นี้ได้ดีพอสมควรจนกระทั่งเกิดเหตุการณ์ที่น่าสลดขึ้น



ผมรู้สึกได้เลยว่า อาบู ดิยาบี้ สูญเสียความเชื่อมั่นในตัวเองตั้งแต่ลูกโหม่งย้อนศรเข้าประตูตัวเองนัดแมนยู
นับตั้งแต่นั้นมา ฟอร์มของเขาไม่ได้ดูดีขึ้นเลย ยกเว้นจ่ายบอลให้เบนเนอร์ยิงประตูนัด สตองดาร์ด ลีแอจ

เมื่อเป็นเช่นนี้ การกลับมาของนาสรี่จะเป็นจุดหนึ่งที่เข้ามาเติมเต็มพลังการขับเคลื่อนเกมรุกให้สมดุลมากยิ่งขึ้น
เพราะเขาเป็นมิดฟิวด์ที่มีเซ้นบอลไล่ทันตัวรุกคนอื่นๆ รวมทั้งสามารถจะจับคู่เป็นคู่หูกับฟาเบรกาสได้ดีที่สุดในความคิดของผม
ส่วนจะจริง-ไม่จริงอย่างไร เวลาจะเป็นเครื่องพิสูจน์เอง



>>> นาสรี่จะเป็นเด็กน้อยอีกคนที่จะเดินลงมาเล่นในสนามใหม่ สนามเด็กเล่นของเวนเกอร์
สาเหตุที่ผมเรียกว่าสนามเด็กเล่นก็เพราะว่า หากเราลองนึกย้อนเวลาสมัยเรายังเอ๊าะๆ พอเลิกเรียนก็พากันไปเล่นเครื่องเล่นที่สนามเด็กเล่น
เป็นธรรมดาที่เราจะอยู่ไม่สุข เดี๋ยววิ่งไปเล่นม้าหมุนบ้าง เล่นชิงช้าบ้าง ไปก่อกองทรายบ้าง วิ่งสลับไปสลับมา
ซึ่งจะว่าไปแล้ว ก็เหมือนนักเตะอาร์เซน่อลที่วิ่งพล่านไปทั่วสนาม
อาร์ชาวินวิ่งไปซ้ายที ขวาที สลับกับโรซิคกี้บ้าง โรบินบ้าง หรือไม่ก็วิ่งลงต่ำสลับกันจ่ายบอลกับฟาเบรกาสบ้าง
เหมือนเด็กที่เปลี่ยนเครื่องเล่นไปเรื่อยๆ ไม่อยู่นิ่ง จับทางไม่ถูก ...

จากรูปแบบดังที่ยกตัวอย่างมา เวนเกอร์ก็คงได้แนวคิดมาจากโทเทิลฟุตบอล (Total Football) อันโด่งดัง
ซึ่งเขาเคยให้สัมภาษณ์ว่าเป็นรูปแบบการเล่นฟุตบอลที่เขาชื่นชอบเป็นอย่างยิ่ง



Total football คือการเล่นที่จะทำให้ทีมมีความได้เปรียบคู่ต่อสู้ที่เล่นเพราะมีการเคลื่อนที่ราวกับมีผู้เล่นมากกว่า 11 คน
ทีมชาติฮอลแลนด์ นำแผนการเล่นของ Total football มาใช้ในช่วงระหว่างทศวรรษ 1970 โดยผู้เล่นในยุคนั้นที่เล่นฟุตบอลในแนวนี้ได้เด่นที่สุดคือ
Johan Cruyff ผู้เล่นในตำแหน่งกองกลาง เขาจะวิ่งไปทั่วสนามหาพื้นที่และตำแหน่งที่เขาสามารถสร้างโอกาสในเกมรุกให้กับทีมอยู่ตลอดเวลา
เพราะเขาคือตัวทำเกมของทีมนั่นเอง




ด้วยวิธีการเล่นแบบนี้ผู้เล่นทุกคนในทีมจะปรับเปลี่ยนการเล่นตามการเคลื่อนไหวของ Johan Cruyff พร้อมทั้งสลับสับเปลี่ยนตำแหน่งของตนเองตามยุทธศาสตร์ที่ได้เปลี่ยนแปลง ไม่ว่าจะรุกหรือรับ
ความยืดหยุ่นและความรู้ใจซึ่งกันและกันในการทำเกมของผู้เล่นทุกคนคือ Winning strategy (กลยุทธ์แห่งชัยชนะ) ของ Total Football
หากเราจะเปรียบเทียบตำแหน่งของ โยฮัน ครัฟ กับตำแหน่งกองกลางอาเซน่อลในปัจจุบัน ก็จะพบว่ามีความสัมพันธ์ที่คล้ายคลึงกันอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้กับ
เซสก์ ฟาเบรกาส ตัวทำเกมที่ค่ายปืนโตแทบจะขาดไม่ได้



ฤดูกาลนี้ ฟาเบรกาส จ่ายให้เพื่อนปิดบัญชีไปแล้ว 10 ประตู (Assists) และยิงได้อีก 4 ประตู
โดยสถิติพรีเมียร์ลีกตอนนี้ เขาขึ้นอันดับหนึ่งจ่ายให้เพื่อนทำประตูสูงสุดที่ 8 แอสซิส เลยทีเดียว

เวนเกอร์ได้นำแนวคิดข้างต้นบางส่วนมาปรับใช้กับทีมอยู่บ่อยๆ ตั้งแต่สมัยมาคุมทีมใหม่ๆ เปลี่ยนรูปโฉมจากเกมรับที่น่าเบื่อสู่เกมรุกที่สวยงาม, เร้าใจ
และมีประสิทธิภาพ ดังนั้นเราเองก็อย่าได้แปลกใจวิธีการเล่นของทีมในปัจจุบันเลยว่า ถ้าครั้งหนึ่ง โธมัส เวอร์มาเล่น กองหลังอีซ้ายตีนระเบิด
จะวิ่งพาบอลขึ้นมาสลับตำแหน่งกับมิดฟิวด์ตัวกลางตัวใดตัวหนึ่งเพื่อมาสับไกยิงประตูเป็นว่าเล่น



และก็อย่าแปลกใจอีกเลยว่า ทำไมเวนเกอร์ถึงให้ผู้เล่นที่เป็นนักเตะประเภทหน้าเป้า (ST) ไปหัดเล่นตำแหน่งริมเส้น ซ้าย-ขวา ...
ทั้งนี้ก็เพื่อที่วันหนึ่งนักเตะอย่างเบนเนอร์จะสามารถวิ่งสลับตำแหน่งกับ อาร์ชาวิน, โรซิคกี้ หรือ วัลค็อตได้
สิ่งเหล่านี้ได้เกิดขึ้นแล้วในนัดหลังๆอยู่ที่ว่าเราจะสังเกตเห็นหรือไม่ การวิ่งสลับกันเพื่อทำเกมอย่างอิสระของนักเตะในตัวรุกในแดนหน้า (Offensive Player)
จึงเป็นรูปแบบการเล่นแบบกึ่งโทเทิลฟุตบอลที่สามารถระเบิดประตูคู่แข่งได้ทุกๆเกม
(ฤดูกาลนี้อาร์เซน่อลยิงประตูคู่แข่งได้ทุกนัดตั้งแต่เกมปรีซีซั่นเป็นต้นมา รวมทั้งสถิติยิงประตูสูงสุดในพรีเมียร์ลีกอีกด้วย)

Total Football ในอุดมคติของเวนเกอร์อาจจะยังไม่สมบูรณ์แบบ และรูปแบบก็จะแตกต่างไปบ้างในรายละเอียดปลีกย่อย
แต่เสน่ห์การเล่นฟุตบอลของทีมปืนใหญ่ก็ยังเป็นสิ่งที่น่าจดจำและพูดถึงไปอีกนานเลยแน่นอน ผมเชื่อว่าแฟนๆปืนก็คงคิดเช่นนั้น จริงมั้ย ???

ปีที่ 13 ของ อาแซน เวนเกอร์ ... ลัคกี้นัมเบอร์นะบอส ... ขอสักแชมป์เถอะนะ ได้อ๊ะป่าวว

โอเค ถึงเกมรับจะยังแย่ แต่ถ้าโดนยิงสามลูก ก็ขอยิงคืนไส้แตกสักห้าลูกก็พอใจแล้วครับ อิอิ ^__^

 

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์