7 สิ่งที่ทำให้พรีเมียร์ลีก ฤดูกาลนี้ดูแล้วมันส์กว่าเดิม

Cradit : ADMIN (นนท์) GUNNERTHAILAND

1. ประตูที่เปิดกว้างสำหรับทีมอย่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้, แอสตัน วิลล่า และท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์ ในการแย่งชิงตำแหน่งท็อปโฟร์ของพรีเมียร์ลีก อังกฤษ



พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ในฤดูกาลที่ผ่านมาทีมอย่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, เชลชี, อาร์เซน่อล และลิเวอร์พูล ถูกขนานนามว่า บิ๊กโฟร์ การลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีกก็มีเพียงแค่ 4 ทีมนี้เท่านั้น ส่วนโควต้า ยูฟ่า แชมเปี้ยนลีกก็ถูกผูกขาดโดยกลุ่มบิ๊กโฟร์มาโดยตลอด จนกลายเป็นเรื่องที่จำเจและน่าเบื่อสำหรับพรีเมียร์ลีก อังกฤษ

แต่ในฤดูกาลนี้โอกาสเปิดกว้างมากสำหรับทีมอย่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้, แอสตัน วิลล่า และท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์ ที่จะขึ้นมาเขย่าบัลลังก์บิ๊กโฟร์ มีการคาดหมายว่าฤดูกาลนี้จะมีความเป็นไปได้ที่สูงมากที่จะมีหนึ่งทีมในกลุ่มบิ๊กโฟร์ที่จะกระเด็นออกจากกลุ่ม แล้วจะเป็นใครล่ะ? อย่าว่าแต่การเขย่าบัลลังก์บิ๊กโฟร์เลย โอกาสในการลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีกก็เปิดกว้างเช่นกัน


2. ZERO-TO-HERO: เคร็ก เบลลามี่ กลับชาติมาเกิดอีกครั้ง



การที่แมนเชสเตอร์ ซิตี้ทุ่มเงินเสริมทัพกองหน้าอย่าง เอ็มมานูเอล อเดบายอร์ และโรเก้ ซานต้า ครูซ ในช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา ดูเหมือนว่าเคร็ก เบลลามี่ กองหน้าทีมชาติเวลส์คงจะหมดอนาคตในอีสต์แลนด์เสียแล้ว แต่เมื่อโรบินโญ่ กองหน้าแซมบ้าได้รับบาดเจ็บ, โรเก้ ซานต้า ครูซ ยังไม่ฟิต ทำให้เบลลามี่ได้รับโอกาสในการลงสนาม

และเบลลามี่ก็เป็นนักเตะที่ทำผลงานได้ดีที่สุดคนหนึ่งในทีมแมนเชสเตอร์ ซิตี้ในช่วงออกสตาร์ทซีซั่น เบลซัดไปแล้ว 4 ประตู ทีมที่ตกเป็นเหยื่อของเบลลามี่ก็มีทั้งแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, อาร์เซน่อล และล่าสุดก็คือแอสตัน วิลล่า ทำให้มีความเป้นไปได้ว่า เรือใบสีฟ้าอาจจะปล่อยตัวโรบินโญ่ออกไปให้กับบาร์เซโลน่าในช่วงตลาดเปิดรอบสองเดือนมกราคมนี้




3. ไร้ข้อสงสัยในตัวของโธมัส เฟอร์มาเลน กองหลังคนใหม่ของอาร์เซน่อล



ใครคือโธมัส เฟอร์มาเลน? นั่นคงเป็นปัญหายอดฮิตของแฟนบอลอาร์เซน่อลที่อยากจะถาม เมื่ออาร์แซน เวนเกอร์ กุนซือของทีมไปเซ็นสัญญาคว้าตัวกองหลังทีมชาติเบลเยี่ยมวัย 23 ปีมาจากอาแจ็กซ์ อัมเตอร์ดัมในช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา ด้วยค่าตัวกว่า 10 ล้านปอนด์ แต่ทุกคนก็ได้รู้จักเข้าดีขึ้นจากการยิงประตูจนกองหน้าบางคนต้องอาย เค้าซัดไปแล้ว 5 ประตูในฤดูกาลนี้ เป็นดาวซัลโวสูงสุดของทีมทั้งๆ ที่เค้าเล่นในตำแหน่งเซนเตอร์ฮาล์ฟ ส่วนเกมรับเค้าก็เข้ามาแทนที่โคโล่ ตูเร่ ที่หนีขึ้นเรือได้อย่างไร้ที่ติ

เป็นอีกหนึ่งครั้งที่เวนเกอร์ได้แสดงถึงสายตาอันเฉียบแหลมในการเลือกซื้อนักเตะที่มีคุณภาพ ไม่จำเป็นต้องทุ่มเงินล้นฟ้าเพื่อซื้อสตาร์ดังชื่อก้องโลกมาร่วมทีม เวนเกอร์ก็ยังคงหานักเตะมาปั้นให้ชื้อก้องโลกได้ตลอดเวลา...


4. น้องใหม่เบิร์นลี่ย์เล่นได้บ้านได้อย่างสุดเทพ



น้องใหม่ในพรีเมียร์ลีก ฤดูกาลนี้อย่างเบิร์นลี่ย์ อาจจะเป็นสโมสรที่มีงบประมาณน้อยที่สุดในลีก สโมสรเบิร์นลี่ย์ตั้งอยู่ในเมืองเล็ก แต่เมื่อเบิร์นลี่ย์แข่งผู้คนในเมืองแทบทุกคนต่างมุ่งตรงมาที่สนามเพื่อเชียร์ทีมรัก และเป็นแบบนี้เองที่ลูกทีมของโอเว่น คอยส์ สามารถเก็บชัยชนะในบ้านได้แบบ 100% เต็ม ทีมอย่างแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และเอฟเวอร์ตัน ก็ต้องยอมศิโรราบในถิ่นของเบิร์นลี่ย์มาแล้ว

แต่ตรงกันข้ามกันแบบหน้ามือเป็นหลังเท้า ก็คือผลงานนอกบ้านของพวกเขา พวกเขาแพ้ 4 นัดรวดเสียไป 14 ประตู และยังยิงประตูไม่ได้เลยแม้แต่ลูกเดียว อย่างไรก็ตามน้องใหม่ทีมนี้สามารถขึ้นมาอยู่ในอันดับที่ 9 ของตาราง ถือเป็นผลงานที่ดีที่สุดเมื่อเทียบกับบรรดาน้องใหม่ทีมอื่นๆ


5. พรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ยิงประตูกันกระจุยกระจาย



ในพรีเมียร์ลีก อังกฤษฤดูกาลนี้ สกอร์ 1-0 ตอนนี้กลายเป็นแฟชั่นเก่าตกยุคไปแล้ว การชนะเพียงแค่ประตูเดียวก็มีให้เห็นยากเหลือเกิน รวมไปถึงผลการแข่งขันที่ออกมาเสมอกัน นั่นแสดงว่าผู้จัดการทีมเน้นที่จะเปิดเกมรุกใส่กันมากขึ้น ไม่มีการส่งผู้เล่น 10 คนลงมาอยู่ในแดนตัวเองเพื่อเน้นผลการแข่งขันเหมือนเช่นในอดีต

พรีเมียร์ลีกเพิ่งผ่านไปเพียงแค่ 8 นัด ทีมในลีกอังกฤษดาหน้ายิงกันแหลกลาน ประตูเฉลี่ยต่อเกมส์อยู่ที่ 3.01 ประตู มากที่สุดในประวัติศาสตร์ของพรีเมียร์ลีก อังกฤษเลยก็ว่าได้ ทีมที่ยิงประตูแบบเป็นกอบเป็นกำไล่มาตั้งแต่ อาร์เซน่อล (24 ประตู) ลิเวอร์พูล (22 ประตู) ซันเดอแลนด์ (16 ประตู) แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (15 ประตู) และสเปอร์ (19 ประตู)


6. ซันเดอร์แลนด์ยุคของบรูซซี่



ในช่วงซัมเมอร์ทีมซันเดอแลนด์มเป็นสโมสรที่จับตามอง เริ่มจากการแต่งตั้ง สตีฟ บรูซ ขึ้นมาเป็นผู้จัดการทีมคนใหม่ และการเสริมทัพนักเตะได้อย่างน่าสนใจทั้ง ดาเรน เบนท์ , ลอริส กาน่า และลี คัตเตอร์โม โดยบรูซเปลี่ยนสไตล์การเล่นของแมวดำไปโดยเน้นเกมรุกมากขึ้นกว่าเดิม ไม่ว่าจะเป็นการเล่นในบ้านหรือการเล่นเป็นทีมเยือน

อย่างเกมล่าสุดที่พบกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่โอลด์แทร็ฟฟอร์ด โดยปกติซันเดอแลนด์จะต้องมาเน้นรับโดยมีผู้เล่น 10 ลงมากองกันอยู่ในแดนตัวเอง แต่มาปีนี้พวกเขาเปิดเกมบุกกดดันแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จนเกือบที่จะบุกมาเก็บสามแต้มได้อย่างช็อกโลก แต่ แอสทอน เฟอร์ดินานด์ เซนเตอร์ฮาล์ฟกลับมาทำเข้าประตูตัวเองในช่วงทดเวลาบาดเจ็บซะงั้น



7. ปีแห่งฟุตบอลโลกสำหรับอังกฤษกำลังจะมา



วันเวลาแห่งฟุตบอลโลกจะหมุนมาครบ 4 ปีอีกครั้งในเดือนมิถุนายนปีหน้า และทีมชาติอังกฤษก็ตีตั๋วเข้าสู่รอบสุดท้ายฟุตบอลโลก 2010 ที่แอฟริกาใต้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว แล้วมันเกี่ยวอะไรกับพรีเมียร์ลีกด้วยล่ะเนี่ย? สิ่งที่เกี่ยวก็คือบรรดานักเตะสัญชาติอังกฤษจะต้องงัดฟอร์มออกมาโชว์ให้ฟาบริโอ คาเปลโล่ได้เห็น โดยเฉพาะตำแหน่งผู้รักษาประตู, แบ๊คขวา, มิดฟิลด์ฝั่งซ้าย และเหล่าบรรดากองหน้าที่ต้องแย่งชิงเพื่อให้ได้จับคู่กับเวยน์ รูนี่ย์ ในเวิร์คคัพ 2010

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์