ห้ากระโหลก!หงส์เจ๊าปืนระทึก4-4แต่ผีจ่อแชมป์

ห้ากระโหลก!หงส์เจ๊าปืนระทึก4-4แต่ผีจ่อแชมป์

เกมสุดมันส์ระดับ 5 ดาวเมื่อเกมพลิกไปพลิกมา 6 ตลบแต่สุดท้ายหงส์แดงลิเวอร์พูลสวมหัวใจสิงห์ครั้งที่ร้อยในฤดูกาลนี้ด้วยการตีเสมออาร์เซนอลเป็น 4- 4 จากประตูของยอสซี่ เบนายูนในช่วงทดเจ็บนาทีที่ 3 แต่เป็นการนำจ่าฝูงที่สุดหงอยเนื่องจากแมนฯยูไนเต็ดเล่นน้อยกว่าถึงสองนัดเลยทีเดียวแถมเกมนี้อาร์ชาวินโชว์เทพยิงคนเดียวถึง 4 ประตู

พรีเมียร์ลีก

วันอังคารที่ 21 เมษายน 2552


ลิเวอร์พูล 4-4 อาร์เซนอล

ประตู : 0-1 อาร์ชาวิน น.36,1-1 ตอร์เรส น.49,2-1 เบนายูน น.56,2-2 อาร์ชาวิน น.67,3-3 ตอร์เรส น.733-4 อาร์ชาวิน น.90,4-4 เบนายูน น.90+3



ครึ่งแรก

เปิดเกมมาอาร์เซนอลที่ชื่อชั้นตัวผู้เล่นเป็นรองเริ่มโชว์การต่อบอลวันทัชหลากสีทันทีแต่แค่ 3 นาทีกลายเป็นลิเวอร์พูลที่มีโอกาสก่อนหลังลูกโด่งมาที่ปีกซ้ายตอร์เรสหนุนซาญ่านิดหน่อยจนเก็บบอลลงได้จากนั้นก็ลากฝ่าด่านทั้งซาญ่าและตูเร่จนหลุดมาถึงในปากกรอบโทษแต่ตอนเอี้ยวตัวยิงกะแปไซด์ฟาเบียงสกี้ดักทางล้มตัวเซฟเอาไว้ได้สุดเสียว

เจ้าถิ่นพอได้ลุ้นจังหวะนี้เหมือนได้กลิ่นเลือดบุกแหลกจนตอร์เรสได้เลี้ยงมุดๆเข้าเขตโทษแต่ไม่ผ่านด่านแนวรับทีมเยือนและตอนนี้กองหลังอาร์เซนอลช่วยกันเคลียร์ทิ้งหญ้ากระจายเลยทีเดียว

นาทีที่ 6 ตอร์เรสวิ่งมาเอาบอลในเขตโทษก่อนลื่นแต่ยังลุกขึ้นมาได้แล้วก็หมุนตัวยิงตรงบนเส้นเขตโทษแต่เจอตูเร่เข้าเสียบบอลทะลักมาเข้าทางริเอร่าที่แต่งบอลแต่เลือกยิงเองไม่ยอมถ่ายออกให้เพื่อนที่แล่บมาคนเดียวในกรอบฝั่งขวาทำให้ฟาเบียงสกี้ล้มตัวตระครุบเอาไว้ได้ แต่ที่แย่ไปกว่านั้นคือตอร์เรสเจ็บข้อเท้าบิดจนต้องออกไปปฐมพยาบาลและอาการแบบนี้ฝืนเล่นได้ไม่นานหรือไม่ก็ลดศักยภาพตัวเองลงชัวร์ป๊าบ

อีก 4 นาทีต่อมาหงส์แดงน่าจะขึ้นนำเหลือเกินหลังเคาท์จ่ายบอลสไตล์บาร์เซโลน่าที่ไหลตัดหลังกิบส์ให้เบนายูนหลุดเข้าเขตโทษแต่จังหวะยิงติดบล็อกฟาเบียงสกี้ที่ออกมาบล็อกเร็วบอลทะลักไปถึงอาร์เบลัวที่ปรี่มาซ้ำแต่ก็ยังเป็นนายทวารสำรองบล็อกอีกรอบจนท่านเคาท์มาตามเก็บตกทุกอย่างถึงได้สงบลง

นาที 18 เจ้าถิ่นน่าจะขึ้นนำสุดๆหลังลูกก๊อกแก๊กอยู่ตรงหน้าเขตโทษเยื้องๆฝั่งขวาสุดท้ายอลอนโซ่แทงจะให้ทะลุช่องแต่ตอร์เรสมาฉกจับบอลก่อนง้างเกือกยิงตะบันเต็มข้อร้อนถึงฟาเบียงสกี้ต้องบินปัดข้ามคานออกไป

วันนี้ลิเวอร์พูลเล่นเดิมพันด้วยชีวิตจริงๆส่วนปืนใหญ่ยังต้องถนอมตัวเพื่อแชมเปี้ยนส์ลีกในอนาคตรวมทั้งก่อนหน้านั้นก็ยังต้องเตะพรีเมียร์ลีกกับมิดเดิลสโบรห์ในวันอาทิตย์นี้อีก

คู่นี้ถ้าขึ้นทางด่วนก็เหมือนอัดยาวจากรังสิตไปพัฒนาการแบบไม่ต้องจ่ายค่าผ่านทางเพราะแลกกันแบบไม่มีหยุดพักหายใจกันเลย

นาที 29 ทีมเยือนได้โอกาสครั้งแรกก็เกือบได้ประตูทันทีหลังกิบส์เปิดบอลจากปีกซ้ายเข้ามาเรน่ากระโดดเตรียมรับแต่แอกเกอร์ไม่รู้โขกย้อนไปเข้าทางเชสก์ที่ยิงตามน้ำบอลไม่ตรงกรอบแต่ไปเข้าทางเบนด์เนอร์ที่แหย่สุดขาไม่ถึงบอลออกหลังไปสุดเสียว

ไม่ถึงนาทีตอร์เรสความหวังหนึ่งเดียวที่เดอะค็อปต้องลุ้นไม่ให้วันนี้เจ็บซัดไกลเต็มข้อนอกเขตหลังกระโดดพักแล้วบังตูเร่จนกลิ้งกินหญ้าแต่ฟาเบียงสกี้พุ่งปัดจนกิบส์มาเคลียร์ออกหลังไป

จากจังหวะเตะมุมลิเวอร์พูลน่าจะได้ประตูอีกจากอลอนโซ่เป็นแอกเกอร์วิ่งหันหลังโขกเช็กที่เส้น 6 หลาบอลพุ่งไปที่เสาสองผ่านฟาเบียงสกี้ที่กระโดดมาคว้าลมแต่นาสรี่เฝ้าเสาอยู่เลยสกัดทิ้งบนเส้นออกมา

แต่แล้วนาที 36 หายนะของลิเวอร์พูลมาเยือนหลังอุตสาห์ไปแย่งบอลจากนาสรี่ตรงมุมธงก่อนเชสก์มาปั๊มแย่งกับมาสราโน่ที่เหม่อในกรอบจนนาสรี่ได้บอลแล้วรอให้เเชสก์คนที่แย่งบอลวิ่งสอดแล้วแทงก่อนที่แข้งสเปนจะตบให้อาร์ชาวินกดเต็มเท้าบอลพุ่งชนคานแฉลบข้ามเส้นเข้าไปอย่างสุดมัน

นาที 37 เบนายูนน่าจะตีเสมอให้เจ้าถิ่นจากจังหวะที่มาสเคราโน่แทงทะลุช่องจนกระชากจี้เข้าเขตโทษก่อนลากตัดเข้าซ้ายแล้วยิงบอลพุ่งน่ากลัวแต่ฟาเบียงสกี้ไม่รู้เหนียวอะไรมาพุ่งปัดมือเดียว

ก่อนหมดเวลานาทีเดียวลิเวอร์พูลที่ขึงเกมอย่างหนักก็เกือบตีเสมอได้จากลูกครอสของอาร์เบลัวเป็นเบนายูนโหม่งเช็ดบอลไปหล่นบนเพดานตาข่าย

ลิเวอร์พูลลุยส่งท้ายแม้กระทั่งทดเจ็บนาทีสุดท้ายหลังจังหวะสวนกลับมาสเคแทงขนานเส้นปีกซ้ายให้เบนายูนวิ่งควบไปเอาแล้วลากตัดเข้าหน้ากรอบโทษก่อนตอกส้นให้ริเอร่าแล่บซ้อนขึ้นมเปิดบอลเข้ากลางแต่บอลไปคลุกคลิกลงท้ายแอกเกอร์ได้ยิงด้วยอีซ้ายแต่ฟาเบียงสกี้ยืมมุมดีรับเข้าซองสบาย

ครึ่งหลัง

เริ่มมาแค่ 4 นาทีความผิดพลาดในแนวรับของอาร์เซนอลทำให้ลิเวอร์พูลตีเสมอย่างรวดเร็วจากจังหวะที่อาร์เบลัวเปิดบอลติดกองหลังบอลแฉลบย้อยเข้าเขตโทษและตรงนั้นไม่มีนักเตะเจ้าถิ่นเลยแต่ซาญ่าดันหวดทิ้งแปํ๊กมาเข้าทางเคาท์ที่ยืนอยู่ตรงกรอบโทษฝั่งขวาเลยใช้ความพยายามเปิดบอลสองครั้งถึงข้ามมาก่อนตอร์เรสสะบัดบอลลงพื้นเสียบหน้าต่างไกลหมดสิทธิ์ที่เทพฟาเบียงสกี้จะทำอะไรได้

สุดยอดเกมที่โลกต้องจารึกเมื่อลูกขยันของเบนายูนวิ่งไล่บอลจนซิลแวสตร์คืนหลังให้ฟาเบียงสกี้ที่ไม่ยอมเตะทิ้งเลือกแปะออกซ้ายให้กิบส์ซึ่งถูกตอร์เรสไล่เข้ามาเลยต้องหวดทิ้งแต่ไปเข้าทางเคาท์ที่กระชากถึงกรอบโทษฝั่งขวาแล้วเปิดบอลย้อยสุดสวยให้เบนายูนวิ่งสอดมาที่เสาสองและบวกกับกองหลังอาร์เซนอลที่กระโดดหวดบอลเลยเปลี่ยนทิศจนฟาเบียงสกี้ถลำเข้าไปในโกล์ก่อนควักกระปิออกมาแต่บอลข้ามเส้นชัดเจน ลิเวอร์พูลยิง 2 ลูกใน 7 นาที!!!

นาที 61 เกมรับของลิเวอร์พูลก็เริ่มแพ็คกันแน่นแต่แนวรุกยังห้าวไม่เลิกโดยเฉพาะทางฝั่งขวาที่มีเคาท์เป็นตัวขับเคลื่อนและอาร์เบลัวเปิดเลียดยัดเข้าหน้าเขตโทษให้ตอร์เรสจับแล้วหมุนตัวยิงแต่บอลไปเข้าซองฟาเบียงสกี้

จุดอ่อนเดียวของลิเวอร์พูลตอนนี้คือริเอร่าเพราะวันนี้เสียบอลบ่อยมากและไม่คิดถึงทีมเป็นอันดับแรกเพราะจังหวะเบนายูนแทงทะลุช่องให้หลุดขึ้นมาทางกรอบโทษฝั่งซ้ายกลับเลือกกระชากแล้วยิงเองบอลเข้าข้างตาข่ายทั้งๆที่ข้างในมีตอร์เรสยืนรออยู่แล้ว เรียกว่าเอลนินโญ่โมโหสุดๆ

อย่างไรก็ตามเกมที่กำลังเหนือกว่าของหงส์แดงมาตายเองอีกแล้วหลังคาร์ราเกอร์โขกคืนให้อาร์เบลัวที่หันหลังแต่เงอะงะไม่ทำอะไรซักอย่างจนอาร์ชาวินมาฉกไปดื้อๆก่อนยิงเต็มข้อบอลพุ่งตรงแรงเสียบหน้าต่างเข้าไปอย่างสุดมัน เสมอ 2-2!!

ช็อกรอบสอง!! อีก 3 นาทีแนวรับลิเวอร์พูลทำพิษอีกแล้วหลังลูกเปิดของกิบส์จากปีกซ้ายเข้าเขตโทษเลยมาถึงออเรลิโอที่เคลียร์แป๊กกลายเป็นส่งให้อาร์ชาวินจับแล้วยิงแบบไม่ต้องคิดมากจากระยะแค่ 10 หลาบอลลอดใต้แขนเรน่าที่ล้มตัวเร็วแค่ไหนก็รับไม่ได้ อาร์เซนอลแซงเฮ 3-2

โอ้ยมันฉิบหายเพราะหลังอาร์ชาวินตีเสมอได้แค่ 3 นาทีตอร์เรสมายิงลูก 3-3 ให้เจ้าถิ่นหลังริเอร่าเปิดบอลจากปีกซ้ายให้ตอร์เรสจับสุดเนียนก่อนหมุนตัวจะยิงจังหวะแรกแล้วไม่ยิงจนซิลแวสตร์หลงก่อนซัดจริงๆบอลทะลุเสียบหน้าต่างเข้าไป

ก่อนหมดเวลา 8 นาทีลิเวอร์พูลน่าจะขึ้นนำเหลือเกินจากลูกเตะมุมของอลอนโซ่บอลลอยมาเข้าหัวตอร์เรสที่โขกสะบัดบอลจะเสียบเสาอยู่แล้วแต่กิบส์โหม่งเคบียร์บนเส้นสุดช็อก

แต่แล้วนาทีสุดท้ายจังหวะที่บุกเพลินๆจังหวะเตะมุมของลิเวอร์พูลเจอวัลค็อตต์สวนกลับกระชากม้วนเดียวมาถึงระยะ 30 หลาก่อนเหลือบเห็นอาร์ชาวินทางซ้ายแล้วป้ายให้ก่อนล่อเป้ายิงด้วยอีซ้ายแสกเรน่าเบียดเสาเข้าไปสุดงาม

บอลยังไม่จบเพราะช่วงทดเจ็บจังหวะบอมบ์เข้าใส่เขตโทษของอาร์เซนอบบอลคลุกขลิกมาเข้าทางเบนายูนที่ซัดเผาขนเข้าไปตีเสมอ 4-4 แต่แม้จะนำจ่าฝูงแมนฯยูฯก็ได้เปรียบเพราะเล่นน้อยกว่าถึง 2 นัดเลยทีเดียว



รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม

ลิเวอร์พูล : โฆเซ่ เรน่า,อัลบาโร่ อาร์เบลัว,ดาเนี่ยล แอกเกอร์,เจมี่ คาร์ราเกอร์,ฮาเวียร์ มาสเคราโน่,ชาบี้ อลอนโซ่,ยอสซี่ เบนายูน,อัลเบิร์ต ริเอร่า(บาเบิ้ล น.73),เดิร์ก เคาท์(เอล ซาร์ น.86),เฟร์นานโด ตอร์เรส

ตัวสำรองไม่ได้ลงสนาม : คาวาเลียรี่,ดอสเซน่า,ลูคัส,เอ็นก็อกสเคอร์เทล

อาร์เซนอล : ลูคัส ฟาเบียงสกี้,บาคารี่ ซาญ่า,โคโล่ ตูเร่,มิกาเอล ซิลแวสตร์,เดนิลสัน(วัลค็อตต์ น.66),อเล็กซานเดอร์ ซง,ชสก์ ฟาเบรกัส,อังเดร อาร์ชาวิน,ซาเมียร์ นาสรี่,นิคลาส์ เบนด์เนอร์

ตัวสำรองไม่ได้ลงสนาม : มาโนเน่,ดิยาบี้,เอดูอาร์โด้,เบล่า,แรมซี่ย์,เอบูเอ้

ผู้ตัดสิน : ฮาวเวิร์ด เวบบ์

















เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์