เปิดใจเวนเกอร์ : ผมทำผิดพลาดครั้งใหญ่ในชีวิต

เปิดใจเวนเกอร์ : ผมทำผิดพลาดครั้งใหญ่ในชีวิต

แม้จะได้รับการกล่าวขวัญว่าเป็นขงเบ้งเลือดน้ำหอม แต่อาร์แซน เวนเกอร์ ผู้จัดการทีมของอาร์เซนอลก็ยอมรับว่าเขาเองเป็นมนุษย์คนหนึ่งที่มีข้อผิดพลาดเหมือนกันจนเป็นสาเหตุให้ยอดทีมแห่งลอนดอนเหนือหมดสิทธิ์ลุ้นแชมป์ในฤดูกาลนี้ไปเกือบจะแน่นอนแล้ว 

                   ผู้จัดการทีมที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในประวัติศาสตร์สโมสรผู้นี้มักจะถูกแฟนบอลอารมณ์ร้อนวิพากษ์วิจารณ์การทำทีมทุกครั้งที่ปิดฤดูกาลด้วยมือเปล่า 

                   ฤดูกาลล่าสุดนี้ ทีมเด็กที่เวนเกอร์ปลุกปั้นมากับมือเกือบทำให้อาร์เซนอลต้องขายหน้าเมื่อทำผลงานได้ตกต่ำอย่างน่าใจหายจนเกือบจะไม่ได้จบด้วยสี่อันดับแรกเป็นครั้งแรกในรอบ 12 ปีที่เวนเกอร์คุมบังเหียนอยู่นี้ 

                   แต่ในตอนนี้ สถานการณ์กลับดีขึ้นมาบ้างเมื่อพวกเขาสามารถทะลุเข้าสู่รอบรองชนะเลิศรายการเอฟเอคัพได้แล้ว อีกทั้งเกมกับบีญาร์เรอัลในแชมเปียนส์ลีกนั้น หากจบด้วยผลเสมอ 0-0 ก็ยังสามารถคว้าตั๋วไปลุยรอบรองชนะเลิศต่อไปได้ทันที 

                   อย่างไรก็ตาม เวนเกอร์ก็สารภาพว่าเขาทำทีมแบบประมาทไปหน่อยจนมีผลกระทบต่อผลงานของทีมในฤดูกาลนี้ 

                   ในทีมนี้ผมมีตัวเลือกไม่มากเท่าไหร่ซึ่งก็เกิดจากความผิดพลาดของผมเอง ผมคุมทีมมา 35 ปีแล้วและถึงแม้ว่าผมจะไม่ได้อยู่ยงคงกระพัน แต่ผมก็รู้ว่าผมกำลังทำอะไรอยู่ 

                   แต่ผมก็พลาดตรงที่ผมไม่ค่อยได้มองเรื่องผลกระทบจากฤดูกาลที่แล้วเท่าไหร่ โดยเฉพาะเมื่อเราพลาดแชมป์ไป ตอนจบฤดูกาลนะผมถามตัวเองไว้เยอะมาก เกี่ยวกับว่าปัจจัยอะไรบ้างที่ทำให้เราต้องชวดแชมป์ในช่วง 2 เดือนหลังสุดนี้ 

                   อาร์เซนอลนั้นเข้าสู่ยุคขาลงหลังจากทำได้แค่เสมอกับเบอร์มิงแฮม 2-2 เมื่อฤดูกาลที่แล้ว อีกทั้งเอดูอาร์โด ดา ซิลวายังบาดเจ็บขาซ้ายหักสยอง และต้องมาเสียจุดโทษท้ายเกมจนกระทั่งวิลเลี่ยม กัลลาสเก็บอารมณ์ไม่อยู่จนสูญเสียความเป็นผู้นำในทีมไป 

                   หลังจากนั้น เมื่อเข้าสู่ช่วงซัมเมอร์ อเล็กซานเดอร์ คเล็บก็เก็บกระเป๋าย้ายออกจากทีมไปเล่นให้กับบาร์เซโลน่า และเอ็มมานูเอง อาเดบายอร์ก็เรียกร้องให้สโมสรเพิ่มค่าเหนื่อยให้เป็นรางวัลสำหรับการยิงประตูให้กับทีมได้มากมายในช่วงฤดูกาลที่ผ่านมา หากไม่ได้ตามนั้นเขาก็จะย้ายออกไป ส่วนมาติเยอ ฟลามินี่นั้นก็ย้ายออกไปเล่นให้กับมิลานก่อนใครเพื่อนเนื่องจากทนรับค่าเหนื่อยที่อาร์เซนอลจะให้ในสัญญาใหม่ไม่ได้ สุดท้ายคือโธมัช โรซิสกี้ มิดฟิลด์ทีมชาติเช็กก็ได้รับบาดเจ็บจนไม่ได้ช่วยทีมนานมาก 

                   เราเสียคเล็บ, ฟลามินี่ และโรซิสกี้ไไป ผมจึงต้องสร้างแผงกลางขึ้นมาใหม่ ผมจะแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นจากการจากไปของฟลามินี่ยังไง? ตอนนั้นผมแก้ปัญหาไม่ได้เลยเพราะผมไม่คิดไม่ฝันมาก่อนว่าเขาจะย้ายไปจริงๆ 

                   ส่วนเรื่องอาเดบายอร์ที่บอกว่า 'ผมจะอยู่ ผมจะไป ผมอยู่ดีกว่า ไม่เอา ผมไปดีกว่า' เรื่องนี้ก็สำคัญมาก เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากจบฤดูกาลเช่นกัน ก่อนจะถึงฤดูกาลนี้นะอาร์เซนอลไม่เคยเป็นแบบนี้ แม้แต่คนที่รักอาร์เซนอลยังพูดเลยว่า 'นี่มันเป็นหายนะแล้ว'  

                   คุณคงจะแปลกใจว่าทำไม เกมของเราจึงเปลี่ยนไปมากทั้งที่มีนักเตะหน้าเดิมๆ สตาฟฟ์ก็สงสัยเหมือนกันว่าเราทำอะไรพลาดไปหรือเปล่า การซ้อมของเราแย่ไปมั้ยนะ 

                   สิ่งที่น่าห่วงที่สุดคือเราพ่ายแพ้ต่อแมนเชสเตอร์ซิตี้ไป 3-0 ในเดือนพฤศจิกายน ซึ่งถือว่าแพ้เยอะเกินไป เราดิ่งลงก้นเหว แต่จากนั้นเราก็กลับมาเอาชนะเชลซีได้ 2-1 และผมก็คิดว่าทีมเรายังไม่พร้อมที่ตกต่ำไปกว่านี้ 

                   ตอนนี้เราได้ความมั่นใจกลับคือมาและทีมก็มีนักเตะมาเพิ่มเรื่อยๆ ตอนนี้เราไม่แพ้ใครมา 18 นัดติดต่อกันในพรีเมียร์ลีกแล้ว และผมก็ลืมความเศร้าต่างๆไปได้ถนัดเลย 

                   แฟนบอลบางส่วนนั่นโห่ใส่ทีมตัวเองหลังจากพ่ายต่อจากแมนเชสเตอร์ซิตี้ ซึ่งตอนนั้นก็มีข่าวลือหนาหูมากขึ้นเรื่อยๆว่าอาจจะมีการปลดเขาออกจากตำแหน่ง 

                   ผมไม่สนคำวิจารณ์หรอก ไม่ว่าจะแพ้หรือชนะ ผมจะส่องกระจกดูตัวเองอยู่เสมอและก็ตริตรองดูว่าผมทำหน้าที่ได้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้แล้วหรือยัง สิ่งที่คุณจะขาดไปไม่ได้เลยคือความทุ่มเท ถ้าผลการแข่งขันไม่เป็นใจ คนอื่นก็ต้องมีสิทธิ์วิจารณ์ได้อยู่แล้ว ผมรู้ว่าผมกำลังทำอะไรอยู่และทำไมถึงทำเช่นนั้นด้วย 

                   แต่ในยามนี้ มีป้าย 'เราเชื่ออาร์แซน' ติดอยู่ทั่วอัฒจันทร์ของเอมิเรตส์โดยฝีมือของแฟนบอล ซึ่งเกิดจากผลงานที่เวนเกอร์ทำไว้ในเวทียุโรปและเอฟเอคัพ 

                   ผมคิดว่าผมผ่านช่วงยากๆมาแล้วนะ ผมเชื่อมั่นในทีมชุดนี้ขณะที่คนอื่นไม่เชื่อ และผมก็ยังศรัทธาในนโยบายของตัวเองขณะที่คนอื่นบอกผมว่าผมหัวแข็งเกินไป บางคนก็บอกผมว่าผมคิดผิดแล้วที่ไม่ซื้อแกเรธ แบร์รี่และซาบี้ อลองโซ่ 

                   แต่ถ้ามีใครต้องรับผิดจากนโยบายการซื้อขายของผม ผมนี่แหละจะเป็นคนรับโทษนั้น การซื้อแบร์รี่หรืออลองโซ่จะเป็นการฆ่าอเล็กซานเดอร์ ซง, อาบู ดิยาบี้ และเดนิลสัน 

                   ผมพยายามอยู่ห่างนักวิจารณ์เอาไว้ ผมจะไม่ทำเพื่อความสำเร็จส่วนตัว ทุกอย่างที่ผมทำก็เพื่อสโมสร นักเตะ และแฟนบอล 

                   คุณไม่สามารถที่จะทำงานแบบเปิดเผยต่อสาธารณชนได้เสมอเมื่อได้มาทำงานกับสโมสรใหญ่ เวลาไม่ชนะก็จะมาด่านักเตะว่าปัญญาอ่อนไม่ได้ 

                   นอกจากนั้นแล้ว เวนเกอร์ยังบอกว่าจุดเปลี่ยนของอาร์เซนอลจากร้ายมาเป็นดีนั่นคือการเอาชนะโรม่าได้ที่สตาดิโอโอลิมปิโกในเกมแชมเปียนส์ลีกรอบ 16 ทีมสุดท้าย
 

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์