เก็บตกข่าวปืนโต(ตอนดึกๆจ้า)

เก็บตกข่าวปืนโต(ตอนดึกๆจ้า)

เวล่ายันอยู่อาร์เซนอลทีมเดียว เท่านั้น

http://goonersworld.files.wordpress.com/2008/06/vela223.jpg

เอดูอาร์โด เอร์นานเดซ เอเยนต์ส่วนตัวของ คาร์ลอส เวลา กองหน้าดาวรุ่งชาวเม็กซิโกของ อาร์เซนอล เผยว่า นักเตะในความดูแลของเขา ไม่ต้องการย้ายออกไปเล่นแบบยืมตัวกับทีมใดๆ ทั้งนั้น ในช่วงตลาดซื้อ-ขายนักเตะเปิดรอบ 2 เดือนมกราคม นี้ โดยเจ้าตัวพร้อมรอโอกาสเพื่อขึ้นไปเล่นชุดใหญ่ของทีม ปืนใหญ่ ต่อไป ผมสามารถบอกคุณได้เลยว่า คาร์ลอส ต้องการอยู่ค้าแข้งกับ อาร์เซน่อล ต่อไป เขาจะไม่ย้ายไปเล่นแบบยืมตัวกับสโมสรไหนทั้งนั้น อาร์แซน เวนเกอร์ บอกอะไรเขาหรือเปล่า ? ผมรู้เรื่องจากสโมสร นี่เป็นการประกาศอย่างเป็นทางการที่พวกเขาบอกกับเรา เขาอยู่ในช่วงพัฒนาฝีเท้า และทุกสิ่งทุกอย่างกำลังก้าวไปอย่างถูกทางสำหรับ คาร์ลอส เขายังหนุ่ม ได้ลงเล่นมากขึ้นเรื่อยๆ การได้ลงเล่นอย่างต่อเนื่อง ช่วยพัฒนาฟอร์มการเล่นของเขาขึ้นทุกวัน สิ่งที่กำลังเกิดขึ้นกับ คาร์ลอส เป็นเรื่องที่สุดยอดมากทั้งกับความก้าวหน้า และพัฒนาการของเขา เขากำลังเล่นได้ดีขึ้นเรื่อยๆ ดาวเตะวัย 19 ปี ได้โอกาสลงเล่นให้กับ อาร์เซนอล แค่ 7 นัด ในฤดูกาลนี้ จนมีข่าวว่า เขาได้รับความสนใจจากหลาย ๆ สโมสรที่อยากยื่นข้อเสนอยืมตัวเขาไปร่วมทีมด้วยสัญญายืมตัว


จากที่มา
http://www.innnews.co.th

...............................................................................




เชสหนุนแรมซี่แทนที่ผมได้อย่างดี



พวกเขาทั้ง 2 คนมีอะไรที่เหมือนกันมาก ไม่ว่าจะเป็นสายตาที่เฉียบคมดั่งเหยี่ยวที่มองหาเหยื่อและมีความสุขุมแนบ นิ่งเมื่อยามลงเล่นฟุตบอล และทั้งนี้กัปตันหนุ่มวัย 21 ได้ออกมาหนุน อารอนแรมซี่เพือนร่วมสังกัดว่าสามารถที่จะทดแทนตำแหน่งของตนเองได้อย่างดี เลย

การเคลื่อนที่ของแรมซี่มันเหมือนกับกัปตันเชสจริงๆ ดาวรุ่งจากเวลล์คนนี้แสดงให้เห็นแล้วว่าเขามีสติปัญญาที่ดีในการอ่านเกมทุก ครั้งเมื่อเขาลงเล่น

เชส ฟราเบรกัส ได้ออกมายกย่องถึงฟอร์มการเล่นของอดีตนักเตะคาร์ดีฟ โดยมองย้อนไปในนัดที่ทีมพบกับพลีมัธในศึก เอฟ เอ คัพ เมื่อไม่นานมานี้เอง

ผมคิดว่า อารอน ทำได้เยี่ยมมากในเกมเอฟ เอ คัพ กับพลีมัธในรอบที่แล้ว เขาเป็นผู้เล่นที่เก่งมากๆๆๆ และผมมั่นใจว่าเขาจะได้รับโอกาสอีกในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้าในช่วงที่ผม กำลังเจ็บอยู่นี้

ในระหว่างนี้เขาจะมีโอกาสที่จะแสดงความสามารถของเขาออกมาอย่างเต็มที่ เขาเป็นคนที่มุ่งมั่นทุ่มเทจริงๆ คุณจะเห็นได้จากการซ้อมและทุกครั้งที่เขาลงเล่น เขาจะทุ่มเทสุดตัวทุ่มทั้ง 100เปอร์เซนที่เขามีอยู่ ผมมั่นใจครับว่าเขาเล่นดีจริงๆและเขารักฟุตบอลจริงๆ กัปตันเชสหนุนน้องอารอน

กัปตันเชสย้ำอีกครั้งว่า แรมซี่ จะได้เป็นตัวหลักในเกมกับคาร์ดีฟ ซิตี้ ในศึกเอฟ เอ คัพ รอบต่อไปอย่างแน่นอน

ผมมั่นใจว่าเขาจะได้ลงทำเกมอีกในรอบ 4 ที่จะต้องไปเยือนทีมเก่าของเขา และเขาคงจะเต็มที่กับมันมาก

ผมรู้ว่าผู้เล่นในทีมเราทุกคนจะเต็มที่เช่นกัน เพราะเอฟ เอ คัพ คือเป้าหมายใหญ่ของเราเหมือนในทุกๆฤดูกาล มันจะเป็นอะไรที่สุดยอดมากหากเราได้ลงเตะรอบชิงชนะเลิศที่สนามเวมบลี่


ที่มา :
www.gooner


http://ohokid.com/board/index.php?topic=6184.0
...........................................................................




โบลเชื่อวิลเชียร์โดนประกบจะเป็นผลดีต่อเขาเอง



สตีฟ โบลด์ เชื่อว่า แจ็ค วิลเชียร์ จะก้าวขึ้นมาโด่งดังได้ในไม่ช้านี้แน่นอนด้วยวัยเพียง 17 ปี ผมรับรองเลย

วิลเชียร์ได้ลงเล่นครบ 90 นาที ในทีมชุด U-18 ของอาร์เซน่อลในตำแหน่งเดียวกับ เดนนิส เบิร์กแคม ฮีโร่ที่ถูกเปรียบเทียบในเรื่องฝีเท้าว่าใกล้เคียงกัน ซึ่งในเกมนี้วิลเชียร์ถูกเด็กวูล์ฟลูกทีมของ พอล แมคแคน ประกบตายและไล่เตะตลอดทั้งครึ่งแรก

ซึ่งในเกมนี้เด็กเทพรายนี้สามารถทำประตูที่ 2 ให้กับทีมได้ในเกมที่ชนะ 3-0 นอกจากนี้เค้ายังเป็นตัวทำเกมในเกมนี้ให้กับทีมอีกเช่นกัน

บูล์ด ไม่แปลกใจเลยที่ได้เห็นผู้มาเยือนเล่นด้วยเทคติกที่ตั้งใจมาอุด และนั่นคือการเรียนรู้ที่ดีของพวกเขา อย่างเช่น มันจะทำให้วิลเชียร์พัฒนาได้ก่อนเวลาอันสมควร รวมไปถึงการวิ่งยาวๆตลอดทั้งเกมของเด็กคนนี้

ในครึ่งแรกพวกเขาประกบ วิลเชียร์ จนไม่สามารถเล่นได้เลย พวกเขาตามเด็กเราไปทุกที่ทั่วสนาม แต่เหตุนี้มันจะทำให้ แจ็ค พัฒนาได้อย่างดีเลย โค้ชเด็ก 18 ยอมรับ

แต่อย่างไรก็ดีในช่วง 20 นาทีก่อนจบครึ่งแรกเราสามารถกลับมาสู่เกมได้อีกครั้ง และยิ่งกว่านั้นในช่วงครึ่งหลัง วูล์ฟ ได้เปลี่ยนระบบของพวกเขาซึ่งมันทำให้ทีมเรามีพื้นที่ในการเล่นบอลมากขึ้นและ นั่นเป็นอันตรายแน่นอนสำหรับทีมเยือนในคืนนี้

สำหรับ วิลเชียร์ ได้แจ้งเกิดในทีมชุดใหญ่ภายใต้การคุมทีมของ เวงเกอร์ ตั้งแต่เดือนพฤษจิกายนปีที่แล้ว และมีโอกาสลงในทีมชุดนี้ในฟุตบอลคาลิ่งคัพ ซึ่งตกรอบไปแล้ว แต่อย่างไรก็ดีดาวรุ่งพุ่งแรงคนนี้น่าจะเป็นกำลังหลักของทีมชุดใหญ่ได้ใน เร็วๆนี้ แต่ต้องรอโอกาสอีกสักหน่อย

มันเยี่ยมมาก เมื่อเรามีเขาอยู่ในทีม ผมคิดว่าเขาคงอยากที่จะลงเล่นทุกๆเกม เพราะเมื่อตอนเขาอยู่ชุดใหญ่เขาไม่เคยได้เล่นในเวลาที่มากแบบนี้ ผมว่าเราจะต้องป้อนเขาไปเรื่อยๆและเราหวังว่าเขาจะพัฒนาได้ดีเพื่ออนาคตใน ทีมชุดใหญ่ โบลด์กล่าว

ผมได้ให้โอกาสเขาในเกมนี้แล้ว เขามีทักษะที่ดีจากการที่เขาลงซ้อมกับทีมชุดใหญ่ทุกๆวัน เขาเพิ่งมาซ้อมกับเราเมื่อวานนี้เอง แต่เขาสามารถเข้ากับเพื่อนร่วมทีมได้อย่างดี

ตอนนี้เขาพัฒนาได้เร็ว เขารู้ว่าเขาสามารถที่จะทำได้ เขาจะได้เล่นกับชุดใหญ่แน่นอนถ้าเขาพร้อม โบลด์ตบท้าย


http://ohokid.com/board/index.php?topic=6169.0

http://www.arsenal.com/news/news-archive/bould-man-marking
...........................................................................




นิตยสารไทม์จัดอันดับ50นักเตะดาวรุ่งพุ่งแรงของโลก

http://youngguns.files.wordpress.com/2008/04/jack-wilshere-2.jpg

นิตยสารไทม์ ได้ทำการจัดอันดับ 50 นักเตะดาวรุ่งจากทั่วโลกที่น่าจับตามองในปีที่ผ่านมา โดยคัดเลือกจากนักฟุตบอลที่อายุไม่เกิน 23 ปีจากทั่งทุกมุมโลก สำหรับอันดับหนึ่งได้แก่เฮอร์นานเดซ ดาวรุ่งจากสโมสรเซาเปาโล ตามมาด้วยคาริม เบนเซม่า ดาวยิงฟอร์มแรงจากโอลิมปิก ลียงยอดทีมแห่งลีกเอิง

ส่วนนักเตะของอาร์เซน่อลที่ติดอันดับมีเพียงแค่ เจ้าหนูแจ๊ค วิลเชียร์ เล็กพริกขี้หนูวัย 17 ปี ที่ก้าวขึ้นมาเล่นในทีมชุดใหญ่เป็นฤดูกาลแรก โดยวิลเชียร์ติดอันดับที่ 6 ของการจัดอันดับครั้งนี้

1. Hernanes (São Paulo)
2. Karim Benzema (Lyon)
3. David Silva (Valencia)
4. Radamel Falcao García (River Plate)
5. Douglas Costa (Grêmio)
6. Jack Wilshere (Arsenal)
7. John Fleck (Rangers)
8. Jozy Altidore (Villarreal)
9. Fabio Da Silva (Manchester United)
10. Cláudio Marchisio (Juventus)
11. Carlos Eduardo (Hoffenheim)
12. Marek Hamsik (Napoli)
13. Steve Mandanda (Marseilles)
14. Ezequiel Lavezzi (Napoli)
15. Sofiane Feghouli (Grenoble)
16. Diego Buonanotte (River Plate)
17. Adam Johnson (Middlesbrough)
18. Angel Di Maria (Benfica)
19. Mario Balotelli (Inter Milan)
20. Thiago Silva (AC Milan)
21. Nathan Delfouneso (Aston Villa)
22. Kieran Westwood (Coventry City)
23. Guillaume Hoarau (Paris Saint-Germain)
24. Piet Velthuizen (Vitesse Arnhem)
25. Andre-Pierre Gignac (Toulouse)
26. Mark Noble (West Ham United)
27. Mounir El Hamdaoui (AZ Alkmaar)
28. Fabian Delph (Leeds United)
29. Jack Collison (West Ham United)
30. Masal Bugduv (Olimpia Balti)
31. José Baxter (Everton)
32. Robert Lewandowski (Lech Poznań)
33. Dan Gosling (Everton)
34. Sebastian Giovinco (Juventus)
35. Sergio Romero (AZ Alkmaar)
36. Kyle Naughton (Sheffield United)
37. Mesut Ozil (Werder Bremen)
38. Mark Beevers (Sheffield Wednesday)
39. João Miranda (São Paulo)
40. Lee Chung-yong (FC Seoul)
41. Daniel Opare (Real Madrid)
42. Victor Moses (Crystal Palace)
43. Patrik Ingelsten (Heerenveen)
44. David McGoldrick (Southampton)
45. Rabiu Ibrahim (Sporting Lisbon)
46. Sam Baldock (MK Dons)
47. Khalfan Ibrahim (Al Sadd)
48. Shannon Cole (Sydney FC)
49. Will Buckley (Rochdale)
50. Ahmad Khalil (Al Ahly)

http://www.arsenal.in.th/forum/viewtopic.php?t=40504
..........................................................................




(คอลัมส์)รวมมิตรเมนูแสลงของปืนโต



คำว่า แสลง ถ้าเปรียบกับอาหารก็คือสิ่งที่เรารับประทานเข้าไปแล้ว ร่างกายเกิดปฏิกิริยาต่อต้านเช่น มีอาการผื่นคัน คลื่นไส้ อาเจียน เป็นต้น………..
แล้วถ้าลองเปรียบเทียบกับเกมฟุตบอลละ ก็อาจจะหมายถึงผู้เล่นคนนึงที่มักจะทำผลงานได้ดีอยู่เสมอเมื่อเจอกับทีมของ เรา ซึ่งทำให้นักเตะและแฟนบอลต่างหวาดผวา เมื่อเห็นรายชื่อผู้เล่น(ของแสลง)คนนั้นก่อนลงสนาม แล้วเราลองมาดูของแสลงของทีมปืนใหญ่เราบ้าง ว่าต่างมีเมนูพิสดารขนาดไหน..........


เมนูที่1แมลงสาบคั่วโรยพริกไทย หรือชื่อทางวงการฟุตบอลว่า ดิดิเยร์ ดร็อกบา ตั้งแต่ศูนย์หน้าเจ้าของ
พรีเซนเตอร์โฆษณาครีมทากันแดด ย้ายก้นดำๆของเขาจากโอแอมมาสู่เชลซี ก็สร้างปัญหาให้กับแผงหลังอาร์เซนอลได้อยู่เสมอ ไล่ตั้งแต่เทพเซนเดอรอส ที่เคยถูกจับตามองว่าเป็นแผงหลังดาวรุ่งที่โดดเด่นที่สุดคนหนึ่งในยุโรป แต่ก็กลับถูกเจ้าแมลงสาปตามเล่นงานอยู่ทุกๆครั้งที่เจอกัน จนถึงกับทำให้เจ้าเซนเด้กลายเป็นกองหลังที่เฟอะฟะคนหนึ่งไปเลย จากรูปร่างที่สูงใหญ่ เข้าปะทะได้หนักหน่วงและเล่นลูกกลางอากาศได้ดี ดังนั้น ดิดิเยร์ ดร็อกบาจึงเป็นเมนูของแสลงที่แฟนปืนไม่ชอบรับประทานที่สุด.....
แมตซ์แสลงใจปืนโต นัดชิงคาร์ลิ่งคัพเมื่อ2ฤดูกาลก่อน ที่เจ้าดร็อกบายิงแซงกลับเอาชนะ2-1ทำให้ทีมเชลซีคว้าแชมป์ถ้วยมิคกี้เม้าท์ คัพเอาไปนอนกอด ทั้งๆที่ทีมเด็กปืนโตออกนำไปก่อนจากเจ้าหนูทีโอ วัลคอตท์ ถือว่าชวดแชมป์อย่างน่าเสียดายที่สุด...


เมนูที่2ต้มเปรตปลาไหล หรือชื่อทางวงการฟุตบอลว่าปีเตอร์ เคร้าซ์ ศูนย์หน้าร่างโย่งรายนี้เคยสร้างปัญหาให้กับแผงหลังทีมปืนใหญ่มาแล้ว ตั้งแต่สมัยอยู่กับทีมนักบุญ เซาท์แธมป์ตัน ก่อนที่จะย้ายมาสร้างความปั่นป่วนอีกครั้ง
ที่ลิเวอร์พูล จากรูปร่างที่สูงดั่งเปรต โดดเด่นในลูกกลางอากาศ ซึ่งแผงหลังของทีมปืนใหญ่แต่ละคนตัวก็ไม่สูงมากนัก ดังนั้นปีเตอร์ เค้าซ์จึงเป็นเมนูของแสลงอันดับสองที่แฟนปืนไม่อยากให้รับประทานที่สุด
แมตซ์แสลงใจปืนโต เมื่อ2ฤดูกาลที่แล้ว อาร์เซนอลแพ้ลิเวอร์พูลอย่างยับเยิน4-1จากผลงาน เพอร์เฟคแฮตทริคอันสุดยอดของปีเตอร์ เค้าซ์ ที่สามารถทำประตูได้ทั้งลูกหม่ง เท้าขวา และเท้าซ้ายใน แมตซ์เดียวกัน ซึ่งถือเป็นแมตซ์ที่อาร์เซนอลแพ้เละเทะอย่างน่าอับอายอีกนัดหนึ่ง..


เมนูที่3จิงเหลนลนไฟ หรือชื่อทางวงการฟุตบอลว่าร็อบบี้ คีน ศูนย์หน้าชาวไอริชผู้นี้ เคยสร้างปัญหาให้กับทีม
ปืนใหญ่ตั้งแต่สมัยที่อยู่กับทีมไก่เดือยทองแล้ว ก่อนที่จะย้ายมาอยู่กับทีมหงส์แดง ก็ยังสามารถทำประตูอาร์เซนอล จากแมตซ์ที่เพิ่งเจอกันในเอมิเรตส์ ได้อีก ด้วยความที่มีสปีดต้นที่ดี บวกกับการหาจังหวะสอดทำประตูได้อย่างถูกที่ถูกเวลาอยู่เสมอ ดังนั้นร็อบบี้ คีนจึงเป็นเมนูของแสลงของเด็กปืนโตอย่างไม่น่าสงสัยเลย...
แมตซ์แสลงใจปืนโต ในฤดูกาลสุดท้ายก่อนอำลาไฮบิวรี่ ซึ่งทีมปืนใหญ่กำลังเบียดกับทีมสปอร์เพื่อแย่งโควตา ucl ซึ่งในนัดนั้น มีอยู่จังหวะหนึ่ง จิลแบร์โต้ ซิลวา บาดเจ็บอยู่กลางสนาม แต่นักเตะทีมไก่ก็โชว์ความไร้สปิริต โดยเล่นลูกนั้นต่อไปอย่างเลือดเย็น แทนที่จะหยุดเกมเพื่อดูอาการก่อน สุดท้ายจึงไปจบที่การทำประตูของร็อบบี้ คีน จบเกมก็เสมอไป 1-1 แต่ยังไงซะทีมปืนใหญ่ก็เบียดจนถึงนัดสุดท้ายก่อนที่จะคว้าตั๋วไปuclอยู่ดี


เมนูที่4อึ่งอ่างไชโย หรือชื่อทางวงการฟุตบอลว่าเวย์น รูนี่ย์ เจ้าอ้วนพริ้วเคยทะลวงประตูอาร์เซนอลได้อย่างสุดสวยในสมัยที่อยู่เอฟเวอร์ ตัน ก่อนที่จะแจ้งเกิดอย่างเต็มตัวในนัดนั้น หลังจากนั้นก็ย้ายมาอยู่แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด
เวย์น รูนี่ย์ก็ทำประตูไ ด้อีกบ่อยครั้งเมื่อเจอกับทีมปืนใหญ่ จากลีลาอันแข็งแกร่งในการลากเลื้อย และการยิงประตูอันทรงพลัง บวกกับหาจังหวะเข้าทำประตูได้ดีอยู่เสมอ ดังนั้นเวย์น รูนี่ย์ก็ติดอยู่ในทำเนียบของแสลงของปืนโตอย่างไม่น่าสงสัยเลย
แมตซ์แสลงใจปืนโต นัดที่อาร์เซนอลแพ้แมนยู 2-0หยุดสถิติไร้พ่ายไว้ที่49นัด โดยนัดนั้นมีอยู่จังหวะหนึ่งที่โซล แคมป์เบลล์ เสียบสกัดถูกรูนี่ย์อย่างไม่ชัดเจนมากนัก แต่ด้วยอำนาจแรงโน้มถ่วงของโลก จึงทำให้เจ้ารูนี่ย์นั้นพุ่งล้มอย่างน่าตาเฉย ไมค์ ไรรี่ย์กรรมการจอมเฟอะฟะคนหนึ่งของเกาะอังกฤษจึงเป่าให้เป็นจุดโทษอย่างน่า กังขา และก็เสียประตูจากลูกจุดโทษนั้นเอง ทีมปืนใหญ่ก็โหมบุกหนักเพื่อเอาคืน แต่ช่วงท้ายเกมก็พลาดเสียประตูที่2จาก จังหวะสวนกลับของรูนี่ย์ ถือว่าเป็นการลบสถิติไร้พ่ายอันยาวนานถึง2ปีของอาร์เซนอล ไปอย่างง่ายดาย


ในชีวิตจริงเมื่อคนเราเจออาหารแสลงยังสามารถหลีกเลี่ยงได้ แต่ในโลกของฟุตบอลซะ นักเตะไม่สามารถหลีกหนีกับผู้เล่นฝ่ายตรงข้ามที่เป็นของแสลงได้ ดังนั้นพวกคุณจึงต้องต่อสู้ต่อไป ซักวันตัวคุณอาจจะมีภูมิคุ้มกัน และสามารถรู้จักวิธีรับมือกับเหล่านักเตะของแสลงนั้นได้เอง..............
คำเตือน : ห้ามรับประทานของแสลงติดต่อกันเกิน7วัน เพราะอาจทำให้สมรรถภาพทางแพทย์ลดลง

เขียนโดย : gunchon
http://www.arsenal.in.th/forum/viewtopic.php?t=40363
..............................................................


*ขอบคุณ arsenal.in.th*


http://sport.teenee.com/sport/imr8/1056042.gif


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์