บิ๊กแมตช์ ปืนโตหลังเดี้ยงฟัดหงส์หอกฝืด

"บิ๊กแมตช์" ปืนโตหลังเดี้ยงฟัดหงส์หอกฝืด

"ซูเปอร์ติตี้" เธียร์รี่ อองรี

โดย ผู้จัดการออนไลน์ 10 มีนาคม 2549 17:07 น.

เมื่อสองยอดทีมต้องมาเจอกันในสถานการณ์คับขัน ปืนโต หลังเดี้ยง กับ หงส์แดง หอกฝืด เพื่อเก็บคะแนนไล่ล่าโควต้าแชมเปี้ยนส์ลีก ผลจะเป็นอย่างไร ห้าทุ่ม คืนวันอาทิตย์นี้มีคำตอบ

เสร็จจากศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เมื่อกลางสัปดาห์ ก็ได้เวลาฟาดแข้งตามปกติของฟุตบอลลีกอังกฤษอีกเช่นเคย โดยสัปดาห์นี้แม้จะมีคิวการดวลแข้งของทีมใหญ่หลายทีม อาทิ เชลซี เจอ ท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์ส หรือ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ดวลกับ นิวคาสเซิล แต่คอลัมน์ บิ๊กแมตช์ ขอเลือกโฟกัสไปยังคู่ที่เดาผลการแข่งขันได้ยากที่สุด คือการเจอกันระหว่าง ปืนใหญ่ อาร์เซนอล ทีมอันดับที่ 5 ที่จะต้องเปิดสนามไฮบิวรี่ ต้อนรับทีม หงส์แดง ลิเวอร์พูล ทีมอันดับที่ 3 ในเวลา 23.00 น. ของคืนวันอาทิตย์ที่ 12 มีนาคม 2549

เกมนี้ทีมปืนโตที่กำลังคึกจากผลงานยอดเยี่ยมด้วยการเขี่ย ราชันชุดขาว รีล มาดริด ยอดทีมจากลาลีกา สเปน ตกรอบ 16 ทีมสุดท้าย แห่งศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก มีผลงานในลีก 5 นัดหลังสุดไม่ค่อยโสภานัก เมื่อต้องพบกับความปราชัยไปถึง 2 นัด เสมออีก 1 นัด และชนะไป 2 นัด เก็บได้เพียง 7 คะแนน จาก 15 คะแนนเต็ม

ขณะที่ทีมเยือนที่แม้จะเพิ่งพลาดท่าให้กับ เหยี่ยวลิสบอน เบนฟิก้า สโมสรดังจากโปรตุเกส ในศึกฟุตบอลชิงแชมป์ถ้วยใหญ่ของสโมสรยุโรป แต่ฟอร์มในลีกก็ไม่ได้ขี้เหร่ เมื่อ 5 นัดหลังสุดเก็บชัยชนะได้ 3 นัด เสมอ 1 นัด และแพ้ไปอีก 1 นัด คว้าไป 10 คะแนน จาก 15 คะแนนเต็ม

ซึ่งแม้ว่าเจ้าถิ่น อาร์เซนอล จะกำลังอยู่ในช่วงที่ผู้เล่นในทีมมั่นใจสุดขีด แต่สภาพนักเตะในทีมยังคงมีปัญหาอยู่ดี เมื่อต้องขาดผู้เล่นตัวหลักไปหลายราย อาทิ โลแรน เอตาเม่, กาแอล กลิชี่, แอชลี่ย์ โคล และ ปาสคาล ซีก็อง ขณะที่อีกหลายรายแม้จะมีข่าวว่าหายดีแล้ว แต่ก็ยังต้องรอเช็กความฟิตจนถึงนาทีสุดท้าย ซึ่งประกอบไปด้วย โซล แคมป์เบลล์ ที่บาดเจ็บที่ข้อเท้า, โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ย์ กระดูกเท้าแตก มาตั้งแต่เกมที่ อาร์เซนอล พ่ายต่อ เวสต์แฮม ในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2549 ซึ่งคาดว่าทั้งคู่คงไม่พร้อมสำหรับตำแหน่งตัวจริงในเกมนี้ ส่วนในรายของ เธียร์รี่ อองรี, เฟรดริก ลุงเบิร์ก และ เยนส์ เลห์มันน์ ที่ได้รับบาดเจ็บจากเกมกับ รีล มาดริด เมื่อกลางสัปดาห์ คงจะต้องถูกเข็นลงสนามแน่นอน

"ซูเปอร์จี" สตีเว่น เจอร์ราร์ด

ด้านทีมเยือน ลิเวอร์พูล มีเพียงนักเตะกำลังหลัก 2 รายเท่านั้นที่ชวดลงสนามแน่นอนในเกมนี้ คือ โมฮาเหม็ด ซิสโซโก้ กับ เบาเดอไวน์ เซนเด้น ขณะที่ในรายของ ซามี่ ฮูเปีย ปราการหลังตัวหลัก กับ ยอห์น อาร์เน่ รีเซ่ แบ็กซ้ายเท้าหนัก ที่ไม่ได้ลงเล่นในเกมกับ เบนฟิก้า เมื่อกลางสัปดาห์จะกลับมาลงเล่นได้ทันในเกมนี้แน่นอน

ส่วนผลงานการเจอกันเมื่อของทั้งสองทีมเมื่อฤดูกาลที่แล้วในสนามไฮบิวรี่ ปรากฎว่าเป็นทีมเจ้าถิ่นที่ทำได้ดีกว่า โดยเปิดบ้านเอาชนะไปได้ถึง 3-1 ขณะที่ผลงานการเจอกันนัดล่าสุดที่สนามแอนฟิลด์ ทีมหงส์แดงกลับทำได้ดีกว่า เมื่อเก็บชัยชนะไปได้ 1-0

ผลงานการเจอกันของทั้งสองทีมในฟุตบอลลีก
ฟุตบอลลีก : อาร์เซนอล ชนะ 56 ครั้ง, ลิเวอร์พูล ชนะ 67 ครั้ง และเสมอ 40 ครั้ง
พรีเมียร์ชิพ : อาร์เซนอล ชนะ 7 ครั้ง, ลิเวอร์พูล ชนะ 13 ครั้ง และเสมอ 7 ครั้ง

ผลงานการเจอกันในฟุตบอลลีกที่สนามไฮบิวรี่
ฟุตบอลลีก : อาร์เซนอล ชนะ 35 ครั้ง, ลิเวอร์พูล ชนะ 20 ครั้ง และเสมอ 26 ครั้ง
พรีเมียร์ชิพ : อาร์เซนอล ชนะ 4 ครั้ง, ลิเวอร์พูล ชนะ 5 ครั้ง และเสมอ 4 ครั้ง

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีมที่คาดว่าจะลงสนาม
อาร์เซนอล (4-4-2) : เยนส์ เลห์มันน์, เอ็มมานูเอล เอบูเอ้, โคโล ตูเร่, ฟิลิป เซนเดอรอส, มาติเยอ ฟลามินี่, เฟรดริก ลุงเบิร์ก, ฟรานเชส ฟราเบรกาส, จิลแบร์โต้ ซิลวา, โฮเซ่ อันโตนิโอ เรเยส, เอ็มมานูเอล อเดบายอร์ และ เธียร์รี่ อองรี
ลิเวอร์พูล (4-4-2) : โฮเซ่ เรน่า, สตีฟ ฟินแนน, เจมี่ คาราเกอร์, ซามี่ ฮูเปีย, ยอห์น อาร์เน่ รีเซ่, สตีเว่น เจอร์ราร์ด, ดีทมาร์ ฮามันน์, ชาบี อลอนโซ่, แฮร์รี่ คีเวลล์, ร็อบบี้ ฟาวเลอร์ และ ปีเตอร์ เคร้าช์

สำหรับสถานการณ์นี้ดูเหมือนทั้งสองทีมจะเหลือหนทางลุ้นแชมป์ทีมละหนึ่งถ้วย โดย ปืนโต เหลือลุ้นถ้วยแชมเปี้ยนส์ ลีก ขณะที่ฟาก หงส์แดง เหลือเพียง เอฟเอ คัพ นอกจากนี้ทั้งสองทีมยังต่างต้องทำอันดับในลีกให้ดีที่สุด ซึ่งทีมเยือนดูจะลอยตัวกว่านิดๆ เมื่อรั้งอันดับที่ 3 มีโอกาสไปเล่นในแชมเปี้ยนส์ ลีก ฤดูกาลหน้าค่อนข้างสูง ส่วน อาร์เซนอล ยังต้องลุ้นไล่บี้ต่อไป หลังฟอร์มรูดไปอยู่อันดับที่ 5 ของตาราง เกมนี้จึงเป็นเกมที่สำคัญ และมีความหมายมากต่อตารางคะแนนของทั้งสองทีม

แม้เกมนี้ทีมเจ้าถิ่น ปืนใหญ่ จะดูเหมือนอยู่ในฟอร์มการเล่นที่ดี หลังผ่าน รีล มาดริด เข้ารอบแชมเปี้ยนส์ ลีก สู่รอบ 8 ทีมสุดท้ายได้ แต่ต้องไม่ลืมว่าทีมปืนโตยังขาดกำลังหลักในแผงหลังไปเยอะ ขณะเดียวกับต้องดันนักเตะดาวรุ่งมายืนประจำการแทน จึงอาจจะมีโอกาสผิดพลาดได้มาก

ด้านทีมเยือน หงส์แดง แม้จะโชว์ฟอร์มดีในลีก แต่ปัญหาใหญ่ในตอนนี้คือการจบสกอร์ของเหล่าบรรดากองหน้าที่นัดกันหนืดฝืดไปหมด จนเป็นสาเหตุหลักในการตกรอบ 16 ทีมสุดท้ายในฟุตบอลยุโรป ซึ่งหากนัดนี้หัวหอกทีมเยือนยังนัดกันบอดอีกก็มีความเป็นไปได้ที่จะถูกลงโทษให้น้ำตาตกกันอีกครั้ง...

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์