กุนซือปืนใหญ่เชื่อทีมมีสิทธิ์คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก

กุนซือปืนใหญ่เชื่อทีมมีสิทธิ์คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก

อาร์แซน แวงเกอร์ ผู้จัดการทีมอาร์เซนอลชี้ชัยชนะเหนือทีมแมนเชสเตอร์ ซิตี 2-1 ในนัดเมื่อวาน (21 ธ.ค.) ช่วยเพิ่มความมั่นใจให้กับนักเตะในการคว้าถ้วยพรีเมียร์ลีกในฤดูการแข่งขันนี้ ทั้งนี้ปืนใหญ่ไม่ได้จับถ้วยพรีเมียร์ลีกมาเกือบ 10 ปีแล้ว

ฟิล แมคนัลตี หัวหน้าทีมผู้สื่อข่าวกีฬาของบีบีซีชี้ว่า ชัยชนะของทีมปืนใหญ่เหนือเรือใบสีฟ้าเมื่อวาน ทำให้คะแนนของปืนใหญ่ขยับขึ้นมาสูสีกับเลสเตอร์ ซิตี ที่เป็นจ่าฝูงอยู่ โดยตอนนี้ปืนใหญ่รั้งอันดับ 2 มีคะแนนทิ้งห่างจากจิ้งจอกสยามอยู่เพียง 2 แต้ม แมคนัลตีชี้ว่า ปีนี้เป็นโอกาสดีที่สุดของอาร์เซนอลในรอบเกือบ 10 ปีที่ผ่านมา ในการคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก หลังจากปืนใหญ่ในชุดที่ได้รับฉายาว่า "อาร์เซนอลผู้ไร้เทียมทาน" คว้าแชมป์ได้ในฤดูการแข่งขัน 2546-2547 โดยทำสถิติไม่แพ้ติดต่อกัน 38 นัด

แม้ว่าขณะนี้ พรีเมียร์ลีกแข่งมาได้เพียงครึ่งทางเท่านั้น แต่สถิติของปืนใหญ่ ณ วันนี้ น่าสนใจไม่น้อย โดยตั้งแต่ปี 2547 เป็นต้นมา นี่เป็นครั้งที่ 2 ที่ปืนใหญ่รั้งตำแหน่งรองจ่าฝูงและเก็บคะแนนได้ 36 แต้ม หลังจากแข่งขันไปแล้ว 17 นัด มีเพียงครั้งเดียวที่เก็บแต้มได้เกิน 36 แต้ม คือเมื่อฤดูการแข่งขัน 2550-2551 ที่ได้ 40 แต้ม โดยในครั้งนั้นปืนใหญ่ลงเอยด้วยตำแหน่งที่ 3 ในตารางพรีเมียร์ลีก

ชัยชนะของปืนใหญ่ยังมีผลทางจิตวิทยาต่อทีมเรือใบสีฟ้าด้วย โดยก่อนหน้านี้นักวิเคราะห์มองว่า เรือใบสีฟ้าเป็นทีมที่จะเป็นคู่แข่งของปืนใหญ่ในการไล่ล่าถ้วยพรีเมียร์ลีก แต่นี่เป็นความปราชัยครั้งที่ 5 ของซิตีในฤดูการแข่งขันนี้ และไม่เคยมีทีมไหนคว้าถ้วยพรีเมียร์ลีกได้ หลังจากที่แพ้ 5 นัด ก่อนคริสต์มาส แวงเกอร์กุนซือปืนใหญ่กล่าวด้วยความมั่นใจว่า "ความเชื่อมั่นของทีมแรงกล้า ตอนนี้ปืนใหญ่เป็นทีมที่แกร่งและสามารถรับมือได้ เมื่อต้องเล่นภายใต้แรงกดดัน"

เมื่อเทียบสถิติกับฤดูการแข่งขันที่แล้ว ตอนนี้ปืนใหญ่เก็บแต้มได้มากกว่าครั้งก่อนถึง 9 แต้ม ในหนนั้นปืนใหญ่ถูกเชลซี ซึ่งเป็นจ่าฝูงทำแต้มทิ้งห่างไปถึง 15 แต้ม อย่างไรก็ตามหนทางข้างหน้ายังมีเกมที่จะต้องชี้ชะตากันอีกหลายเกม ปืนใหญ่มีหมายต้องไปเยือนถิ่นทีมแมนเชสเตอร์ ซิตี, แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, สเปอร์ส, เอฟเวอร์ตันและลิเวอร์พูล แมคนัลตีเห็นว่าตอนนี้ปืนใหญ่ถือไพ่เหนือกว่าบรรดาทีมที่เคยเป็นคู่ปรับเก่าในอดีต เช่น เชลซีกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ซึ่งยิ่งช่วยเพิ่มน้ำหนักความมั่นใจให้กับแวงเกอร์และลูกทีมว่า ต้องคว้าแชมป์ให้ได้ เพราะไม่เช่นนั้นโอกาสดี ๆ แบบนี้คงจะไม่เกิดขึ้นง่าย ๆ

การเล่นของแมนซิตีในเกมที่สนามเอมิเรตส์เมื่อวานบ่งว่า ฟอร์มการเล่นยังขึ้น ๆ ลง ๆ ด้านปีศาจแดง ฟอร์มการเล่นฝืดลงเร็วมาก ไม่ชนะมา 6 นัดแล้ว ขณะนี้ไม่ติด 1 ใน 4 ของตาราง แถมยังตกรอบยูฟ่า แชมเปียนส์ลีกอีกด้วย ส่วนเชลซีที่รั้งอันดับ 15 ของตาราง มองไม่เห็นโอกาสเป็นคู่แข่งกับปืนใหญ่ในการล่าถ้วยพรีเมียร์ลีก ตอนนี้ปืนใหญ่ทำแต้มได้เหนือกว่าแมนซิตีที่รั้งอันดับ 3 อยู่ 4 แต้ม และห่างจากปีศาจแดง 7 แต้ม

ส่วนจิ้งจอกสยามที่ตอนนี้รั้งจ่าฝูงนั้น คริส ซัตตัน อดีตนักเตะของทีมนอริช ชี้ว่า แม้ดูเหมือนว่าเรื่องราวของเลสเตอร์ไม่ต่างไปจากเทพนิยาย จากทีมที่เกือบตกชั้น ไปเป็นทีมที่มีสิทธิ์ลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีกในช่วงเวลาเพียงไม่กี่เดือน แต่สถิติที่ผ่านมาชี้ว่าโอกาสของเลสเตอร์ในการคว้าแชมป์มีไม่มาก เมื่อราว 20 ปีก่อน นอริชเคยมีประสบการณ์ที่คล้ายกับเลสเตอร์มาก่อน จากทีมม้ามืดนอกสายตา รั้งจ่าฝูงได้ไปจนถึงเมษายน แต่ท้ายที่สุดลงเอยด้วยอันดับ 3

ตอนนั้นทั้งผู้จัดการทีมและนักเตะนอริชไม่ได้คิดถึงเรื่องการคว้าแชมป์เลย ซึ่งเขาชี้ว่าช่างคล้ายกับบรรยากาศของทีมจิ้งจอกสยาม ที่นักเตะและกุนซืนต่างตอบคำถามผู้สื่อข่าวไปในทำนองว่า เล่นเก็บคะแนนให้ได้และรอดพ้นการตกชั้นเท่านั้น ไม่ได้พูดถึงการคว้าแชมป์ เขาบอกว่าเมื่อยิ่งรั้งอันดับสูงนานต่อไปเรื่อย ๆ การแข่งขันจะทวีความเข้มข้นและยากยิ่งขึ้น

แมคนัลตีชี้ว่า นี่เป็นโอกาสงามที่สุดสำหรับปืนใหญ่ที่จะคว้าแชมป์ แต่หากปืนใหญ่พลาด เล่นไม่ดีเอง จะโทษใครไม่ได้ นอกจากปืนใหญ่เอง และความเชื่อที่ว่าปืนใหญ่มีสิทธิ์ลุ้นสูงมากในครั้งนี้ ไม่ควรจะเป็นผลมาจากกรณีที่ทีมคู่ปรับเดิม ๆ ฟอร์มตก แต่ควรมาจากฟอร์มการเล่นที่พัฒนาขึ้นและความมั่นอกมั่นใจที่ทวีขึ้นของปืนใหญ่เอง และศัตรูตัวที่ร้ายที่สุดไม่ใช่ใครที่ไหน หากเป็นนักเตะปืนใหญ่เอง ที่ผ่านมาปืนใหญ่ถูกวิจารณ์บ่อย ๆ ว่า เป็นทีมที่ไว้วางใจไม่ได้ เมื่อต้องเจอกับภาวะกดดัน ดังนั้นปืนใหญ่จะต้องปรับเปลี่ยนทัศนคติตรงนี้

สัญญาณหลายอย่างขณะนี้บ่งชี้ว่าปืนใหญ่ทำได้ ปีเตอร์ เช็ก นายทวารที่ปืนใหญ่ซื้อตัวมาจากเชลซี เป็นคนหนึ่งที่ช่วยยกฟอร์มการเล่นของทีม ในนัดเมื่อวาน เขาโชว์ผลงานได้อย่างน่าประทับใจ ไม่เพียงแต่ในสนามเท่านั้นที่เช็กแสดงให้เห็นถึงความเก๋าและมือที่เหนียวหนึบ แต่ประสบการณ์คว้าถ้วยพรีเมียร์ลีก 3 ครั้งและแชมป์ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก สมัยอยู่กับเชลซี ทำให้เช็กรู้ว่าจะต้องทำอย่างไรในการคว้าแชมป์

ด้านเมซิท โอซุล ก็โชว์ฟอร์มได้สมราคาที่แวงเกอร์ทุ่มไปกว่า 2,000 ล้านบาท ซื้อตัวมาจากเรอัล มาดริดเมื่อราว 2 ปีก่อน ขณะที่ธีโอ วัลคอตต์กับโอลิเวียร์ ชิรูด์ ยังคงทำประตูเองหรือส่งให้เพื่อนทำได้อย่างต่อเนื่อง และเมื่ออเล็กซิส ซานเชส หายจากอาการบาดเจ็บ กลับมาลงสนามได้ แวงเกอร์ก็จะได้ทีมนักเตะคุณภาพ ที่จะช่วยเพิ่มโอกาสคว้าแชมป์

แมคนัลตีชี้ว่า ที่ผ่านมาเวงเกอร์ไม่ค่อยซื้อตัวนักเตะมาเสริมทีมในช่วงตลาดเปิดในเดือนมกราคม นอกจากนั้นนักเตะแบบที่เขาต้องการอาจถูกทีมอื่นตัดหน้าซื้อไปก่อน ดังนั้นในเดือนหน้าคงจะต้องจับตาว่าเขาจะเปลี่ยนแผนหรือไม่ เป็นไปได้ว่าเวงเกอร์น่าจะรอให้นักเตะในทีม หายจากอาการบาดเจ็บและกลับมาลงสนามได้ เช่น ซานเชส, แดนนี เวลแบค และซานติ กาซอร์ลา หากพวกเขากลับคืนสนามได้ และเวงเกอร์สร้างเซอร์ไพรซ์ซื้อนักเตะใหม่มาเสริม ความฝันและการรอคอยของปืนใหญ่ ก็อาจกลายเป็นจริงได้ #Arsenal #PremierLeague

ขอขอบคุณ บีบีซีไทย - BBC Thai


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์